ตร.ปารีสห้ามกลุ่มต้านมาตรการโควิดปิดกั้นถนน

ตำรวจกรุงปารีสของฝรั่งเศสสั่งห้ามการปิดกั้นถนน ตามที่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขู่ทางออนไลน์ว่าจะดำเนินการ โดยได้ตัวอย่างมาจากการประท้วงปิดกั้นถนนในแคนาดา

ตำรวจนิวซีแลนด์จับ-ผลักดันม็อบต้านโควิดออกจากหน้ารัฐสภา

เวลลิงตัน 10 ก.พ.- ตำรวจนิวซีแลนด์จับกุมผู้ประท้วงมากกว่า 50 คนและเริ่มบังคับให้ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่ปักหลักอยู่ที่หน้ารัฐสภาเป็นวันที่ 3 ซึ่งเป็นการรวมตัวต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และมาตรการที่เป็นข้อจำกัดอื่น ๆ นายเทรเวอร์ มัลลาร์ด ประธานสภาผู้แทนราษฎรนิวซีแลนด์สั่งปิดพื้นที่รอบอาคารรัฐสภา หลังจากผู้ประท้วงเผชิญหน้ากับตำรวจ และมีการขว้างปาขวดน้ำใส่ตำรวจ หลายคนเผยว่า ตนเองฉีดวัคซีนแล้วแต่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับฉีดวัคซีน และต้องการเสรีภาพในการดำเนินชีวิตกลับคืน เพราะมาตรการบังคับและจำกัดทำให้ต้องตกงานและกระทบกับการดำเนินชีวิต ตำรวจระบุว่า ผู้ถูกจับกุมจะถูกตั้งข้อหาบุกรุกและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และขอให้เจ้าของยวดยานเคลื่อนย้ายรถที่ปิดกั้นถนนรอบอาคารรัฐสภา ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังบังคับ ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากนำรถประเภทต่าง ๆ มาจอดปิดกั้นถนนใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน ประท้วงมาตรการเรื่องโควิด เลียนแบบคนขับรถบรรทุกในแคนาดาที่นำรถไปจอดปิดกั้นด่านข้ามพรมแดนติดกับสหรัฐเป็นวันที่ 13 แล้ว นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ขอให้ผู้ประท้วงเคลื่อนย้ายออก เพราะไม่ใช่การแสดงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ เธอยอมรับว่าประชาชนมีสิทธิประท้วง แต่ต้องไม่รบกวนชีวิตผู้อื่น และการรื้อม็อบถือเป็นปฏิบัติการของตำรวจ อย่างไรก็ดี นับจนถึงเวลา 14:45 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:45 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ผู้ประท้วงจำนวนมากยังคงปักหลักอยู่ แม้ว่าตำรวจแจ้งเตือนและพยายามเข้าสลายการชุมนุมปักหลักของผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย

รัฐในแคนาดายกเลิกมาตรการโควิดทั้งหมด

ออตตาวา 9 ก.พ.- รัฐบาลท้องถิ่นรัฐซัสแคตเชวัน ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของแคนาดาประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ม็อบรถบรรทุกยังคงปักหลักประท้วงในเมืองหลวงเรียกร้องให้รัฐบาลกลางยกเลิกมาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ มุขมนตรีรัฐซัสแคตเชวันประกาศว่า มาตรการจำกัดโควิดเกือบทั้งหมดที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดหนัก จะยกเลิกตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เช่น การแสดงใบรับรองฉีดวัคซีนเมื่อจะนั่งรับประทานอาหารในร้าน การสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้ง ส่วนการสวมหน้ากากอนามัยในที่ร่มหรือภายในอาคารและการกักโรคผู้มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกจะยังคงบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ เหตุผลที่ยกเลิกมาตรการจำกัดเพราะประชาชนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วมากกว่าร้อยละ 80 และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วราวร้อยละ 50 ใกล้เคียงกับตัวเลขทั้งประเทศ จึงถึงเวลาที่จะถือว่าโควิดเป็นโรคประจำถิ่น (endemic) ได้แล้ว รัฐนี้มีประชากรประมาณ 1 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 6 ของแคนาดา ด้านมุขมนตรีรัฐแอลเบอร์ตาที่มีประชากรประมาณ 4 ล้าน 4 แสน 6 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 4 ของประเทศ เสนอทยอยยกเลิกมาตรการจำกัดเป็นระยะ และจะแถลงรายละเอียดภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่มุขมนตรีรัฐควิเบกที่มีประชากรประมาณ 8 ล้าน 6 แสน […]

ตร.แคนาดา ยึดน้ำมันม็อบรถบรรทุกประท้วงโควิด

ออตตาวา 8 ก.พ.- ตำรวจในกรุงออตตาวาของแคนาดายึดน้ำมันหลายพันลิตรและย้ายรถบรรทุกน้ำมันของม็อบรถบรรทุกที่ประท้วงต่อต้านมาตรการของรัฐบาลเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่ศาลมีคำสั่งชั่วคราวห้ามม็อบรถบรรทุกบีบแตรส่งเสียงรบกวนประชาชน หัวหน้าตำรวจกรุงออตตาวาเผยว่า การปิดกั้นถนนเริ่มลดลง เพราะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานับจำนวนรถบรรทุกได้ 1,000 คัน และผู้ประท้วง 5,000 คน ลดลงจากช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่นับรถบรรทุกได้ 3,000 คัน และผู้ประท้วง 10,000-15,000 คน ตำรวจกำลังขอให้ทางการจัดส่งทรัพยากรเพิ่มเติมในช่วง 72 ชั่วโมงข้างหน้า และได้เริ่มยึดน้ำมันตามค่ายที่กลุ่มผู้ประท้วงจัดตั้งขึ้น หลังจากนายกเทศมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ ตำรวจระบุด้วยว่า กลุ่มผู้ประท้วงสามารถปักหลักประท้วงได้เพราะมีการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องเซานาเคลื่อนที่ ครัว ปราสาทเป่าลมสำหรับเด็ก โดยได้เงินสนับสนุนบางส่วนมาจากกลุ่มคนในสหรัฐ การจราจรในกรุงออตตาวาติดขัดเพราะ “ขบวนเสรีภาพ” ที่ประกอบด้วยรถบรรทุกและผู้ขับขี่ยวดยานอื่น ๆ มาเป็นวันที่ 11 แล้ว การประท้วงมีจุดเริ่มต้นจากการคัดค้านมาตรการบังคับให้คนขับรถบรรทุกข้ามพรมแดนแคนาดา-สหรัฐต้องฉีดวัคซีนต้านโควิด ก่อนขยายตัวเป็นการประท้วงต่อต้านมาตรการสาธารณสุขของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดาวัย 50 ปี ซึ่งพาครอบครัวย้ายจากกรุงออตตาวาไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผยเพื่อความปลอดภัยเมื่อขบวนรถเริ่มเข้ามาในเมืองหลวง เขาได้ปรากฏตัวเมื่อวันจันทร์ นับเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์หลังจากติดโควิด และได้ประณามวิธีการของผู้ประท้วงพร้อมกับเรียกร้องให้ยุติ ขณะที่การประท้วงเริ่มลุกลามไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์ และเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มต่อต้านการประท้วง.-สำนักข่าวไทย

ย้อนรอยเส้นทางหลบหนี 2 คนร้ายกระหน่ำยิงนักท่องเที่ยว

คดีนักท่องเที่ยวถูก 2 คนร้ายกระหน่ำยิงเสียชีวิตในวิลล่าที่ จ.ภูเก็ต มาถึงวันนี้แม้ว่าตำรวจจะยังไม่มีการออกหมายจับผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เริ่มมีความชัดเจนในหลายด้านเช่น เส้นทางการหลบหนีของคนร้าย และภาพทีวีวงจรปิด

เหตุยิงนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กระทบภาพรวมท่องเที่ยว

นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ระบุเหตุยิงนักท่องเที่ยวต่างชาติในวิลล่าส่วนตัว ยังไม่กระทบในภาพรวม แต่อาจกระทบในส่วนของที่พักจุดเกิดเหตุ ด้านผู้จัดการโรงแรมใกล้จุดเกิดเหตุ เผยได้รับผลกระทบแล้ว มีการยกเลิกห้องพัก เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิด

สหรัฐ-อังกฤษ-แคนาดา คว่ำบาตร จนท. เมียนมา

วอชิงตัน 1 ก.พ. – สหรัฐ อังกฤษ และแคนาดา ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมของเมียนมา ในขณะที่วันนี้เป็นวันเกิดเหตุรัฐประหารเมียนมาครบ 1 ปี และสถานการณ์ในเมียนมายังคงตกอยู่ในสภาพโกลาหล กระทรวงการคลังสหรัฐระบุเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อเจ้าหน้าที่ในทางศาลเพิ่มอีก 7 คน เช่น ธิดา อู อัยการสูงสุดของเมียนมาที่จงใจตั้งข้อหานางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อหวังผลทางการเมือง หัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกาของเมียนมา และประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตของเมียนมา ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีของนางซู จี และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐยังได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอีก 2 บริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนรัฐบาลทหารเช่นกัน ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวทำให้ทรัพย์สินในสหรัฐของบุคคลและบริษัทเหล่านั้นถูกอายัด และทำให้ชาวอเมริกันถูกห้ามติดต่อกับคนกลุ่มนี้ ในขณะเดียวกัน แคนาดาก็ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม 3 คนของเมียนมาเช่นเดียวกับสหรัฐ ส่วนอังกฤษได้ประกาศคว่ำบาตรต่ออัยการสูงสุด ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตของเมียนมา และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารเมียนมา นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวว่า การใช้มาตรการคว่ำบาตรร่วมกันของสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดา สะท้อนให้เห็นถึงแรงสนับสนุนจากต่างประเทศที่มีต่อชาวเมียนมา และส่งเสริมการลงโทษผู้ก่อเหตุรัฐประหารและใช้ความรุนแรงโดยผิดกฎหมาย ทั้งยังระบุว่า […]

ม็อบรถบรรทุกปิดถนนเมืองหลวงแคนาดาค้านฉีดวัคซีนโควิด

ออตตาวา 31 ม.ค. – กลุ่มผู้ประท้วงชาวแคนาดาหลายพันคนพร้อมด้วยขบวนรถบรรทุกจำนวนมากออกมารวมตัวชุมนุมปิดท้องถนนในกรุงออตตาวาเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดของแคนาดา ในขณะที่คนขับรถบรรทุกคันอื่น ๆ ก็นำรถมาปิดกั้นทางหลวงข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐ ตำรวจกรุงออตตาวาของแคนาดาระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ตำรวจหลายนายยังคงลงพื้นที่ย่านใจกลางเมืองเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ประท้วงและขบวนรถบรรทุกไม่ให้กีดขวางการสัญจร เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไขและลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ประท้วงที่มีความเสี่ยงสูงในครั้งนี้ได้โดยไม่มีการจับกุมประชาชน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้ระดมกำลังอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับขบวนรถบรรทุกหลายร้อยคันที่จอดกีดขวางอยู่บนท้องถนน อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ประท้วงขู่ว่าจะยกระดับการชุมนุมเพื่อขัดขวางภาคธุรกิจในวันจันทร์ ในขณะที่ทางการกรุงออตตาวาได้เน้นย้ำว่า ทางการจะยังคงสั่งปิดศาลากลางต่อไป ส่วนการสัญจรและภาคธุรกิจบางส่วนอาจได้รับผลกระทบในวันดังกล่าว ตำรวจกรุงออตตาวายังระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้กระทำการดูหมิ่นอนุสรณ์สถานสงคราม รวมทั้งข่มขู่เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นและกลุ่มอาสาสมัคร จนทำให้ตำรวจต้องเริ่มดำเนินการสืบสวนหลายครั้ง โดยที่การกระทำดังกล่าวของกลุ่มผู้ประท้วงถือเป็นสิ่งที่น่าละอายใจ. -สำนักข่าวไทย

พายุฤดูหนาวถล่มสหรัฐและแคนาดา

วอชิงตัน 17 ม.ค.- พายุฤดูหนาวขนาดใหญ่พัดถล่มภาคตะวันออกของสหรัฐและแคนาดา ทำให้มีทั้งหิมะตก เกล็ดน้ำแข็ง และลมพัดแรงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น กระทบการเดินทางและทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ที่ตรงกับวันนี้ รัฐทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ ตั้งแต่รัฐเมนลงไปจนถึงรัฐแอละแบมาเป็นระยะทางมากกว่า 1,609 กิโลเมตร หลายรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินประกอบด้วยเวอร์จิเนีย จอร์เจีย นอร์ทแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา บ้านเรือนและธุรกิจมากกว่า 200,000 รายไม่มีไฟฟ้าใช้ สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติแจ้งว่า พายุได้เคลื่อนตัวผ่านเขตมิดเวสต์ไปยังเขตนิวอิงแลนด์ ทำให้หิมะแปรสภาพเป็นน้ำแข็ง ฝนลูกเห็บ และน้ำฝน เว็บไซต์ไฟลต์อะแวร์แจ้งว่า เที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศของสหรัฐถูกยกเลิกมากกว่า 3,000 เที่ยว และล่าช้าอีกมากกว่า 8,000 เที่ยว ส่วนที่แคนาดา สำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า พายุฤดูหนาวจะทำให้รัฐออนแทรีโอ ทางตอนกลางของประเทศที่มีพรมแดนติดกับรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ มีหิมะตกหนา 8-16 นิ้วตลอดทั้งเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่โรงเรียนในรัฐนี้เตรียมเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันเดียวกัน หลังจากขยายช่วงวันหยุดฤดูหนาวเพราะเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนระบาด.-สำนักข่าวไทย

อิสราเอลขึ้นบัญชีสหรัฐ-แคนาดาเป็นประเทศห้ามเดินทางไป

เยรูซาเล็ม 20 ธ.ค.- คณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีมติอนุมัติให้ขึ้นบัญชีสหรัฐและแคนาดาไว้ในรายชื่อประเทศสีแดงที่ห้ามเดินทางไป เพราะกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน สำนักนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ออกแถลงการณ์วันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมาตรการห้ามพลเมืองอิสราเอลเดินทางไปสหรัฐและแคนาดาตั้งแต่เวลา 22:00 น.วันอังคารที่ 21 ธันวาคมตามเวลามาตรฐานสากล ผู้ที่ต้องการเดินทางไปต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่จะถูกขึ้นบัญชีโดยให้มีผลตั้งแต่วันพุธ ประกอบด้วย อิตาลี เบลเยียม เยอรมนี ฮังการี โมร็อกโก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์และตุรกี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลเสนอเมื่อวันก่อน อิสราเอลห้ามพลเมืองเดินทางไปประเทศสีแดง ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากคณะกรรมการยกเว้นของรัฐบาล และหากได้รับอนุญาต เมื่อกลับมาถึงอิสราเอลแล้วจะต้องกักโรคอย่างน้อย 7 วัน แม้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม โดยในวันแรกต้องกักโรคในโรงแรมกักโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ จนกว่าจะทราบผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ในวันที่เดินทางกลับมาถึง หากพิจารณาแล้วว่ายังไม่ปลอดภัยจะต้องกักโรคในโรงแรมตลอดทั้ง 7 วัน จนถึงขณะนี้มีประเทศที่ถูกอิสราเอลขึ้นบัญชีแล้วมากกว่า 50 ประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส สวีเดน สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก แอฟริกาใต้ และหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลแจ้งว่า […]

แคนาดา เร่งรับมือสายพันธุ์โอไมครอน

แคนาดาเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมขอประชาชนงดเดินทางออกนอกประเทศ หลังยอดผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงรวดเร็ว จากการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน

ลมแรงจัดทำให้บ้านและอาคารในแคนาดาไม่มีไฟฟ้า

“ไฮโดร วัน” บริษัทผู้ให้บริการด้านกระแสไฟฟ้าในจังหวัดออนแทริโอ ของแคนาดา กล่าววันนี้ว่า กระแสลมแรงจัดที่เกิดขึ้นในจังหวัดออนแทริโอ ทำให้บ้านเรือนและบริษัทธุรกิจมากกว่า 280,000 แห่ง ตกอยู่ในความมืดแม้ว่า กระแสไฟฟ้าจะสามารถกลับไปจ่ายได้ตามปกติในพื้นที่บางส่วนแล้วก็ตาม

1 9 10 11 12 13 41
...