จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมวอร์รูม IAC ล้างบางคอลเซ็นเตอร์

4 ส.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติประชุมวอร์รูม IAC เปิดปฏิบัติการ “ปิดประตูทุบหม้อข้าว” ตั้งเป้า 3 เดือน ล้างบางคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะฐานใหญ่ของโลก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) /International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) เป็นประธานการประชุมเปิดปฏิบัติการศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)/ที่ปรึกษา ศกค. , นายสุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 สำนักงานอัยการสูงสุด/ที่ปรึกษา ศกค. , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท./รอง ผบ.เหตุการณ์ (1) , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว/รอง ผบ.เหตุการณ์ (2) , […]

“ดร.นิเวศน์” แนะรัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – “ดร.นิเวศน์” รับหุ้นไทยขาดเสน่ห์ดึงดูดนักลงทุน แนะรัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย-ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-คอร์รัปชัน ด้าน “เสี่ยป๋อง วัชระ” มองหุ้นไทยต้องผ่านด่าน 1,440 จุด จึงจะปลอดภัย แนะเลือกหุ้นพื้นฐานดีมีแนวโน้มเติบโต ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า กล่าวในการเวที “แชร์ประสบการณ์ลงทุน เคล็ดลับการปั้นพอร์ต” โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) พ.ศ. 2568 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเจอข่าวร้ายมาทำลายความเชื่อมั่น ทั้งปัญหาภายในประเทศ สงครามการค้า ความขัดแย้งชายแดน ซึ่งล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน โดยมองว่านี่อาจจะเป็นจุดต่ำสุดแล้วก็ว่าได้ และยิ่งตอนนี้ไทยดีลภาษีสหรัส ได้ 19% ซึ่งมองว่าเป็นโอกาส หากทำดีๆ จะช่วยดึงให้กลับมาได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งฟื้นความเชื่อมั่น ออกมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้เราเห็นความหวังว่าปัญหาเหล่านั้นเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะการสู้รบตามแนวชายแดน เรียกง่ายๆ ว่าเปลี่ยนสนามรบให้กลายเป็นสนามการค้า รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปราบคอร์รัปชัน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวและการเติบโตของเศรษฐกิจ และหากปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อและขาดเสถียรภาพ การฟื้นฟูเศรษฐกิจจะเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าหุ้นไทยขาดเสน่ห์ การเข้าสู่สังคมสูงวัย […]

“โรม” จี้เชิญทูต 3 ชาติหารือ​ หลังกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

รัฐสภา 30 ก.ค.- “โรม” จี้ รัฐบาลเชิญทูต 3 ประเทศ​หารือ​ หลัง “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง​ ชี้​ การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร “​รัฐบาล” ช้ากว่าทุกองคาพยพ​ แนะ​ใช้โอกาสนี้ ลุยปราบคอลเซ็นเตอร์​ หวั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือ​ บั่นทอนประเทศไทยให้อ่อนแอลง นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร​ ให้สัมภาษณ์ถึงความสมเหตุสมผล ของการเจรจาหยุดยิง​ระหว่างไทย-กัมพูชา​ ว่า​ การหยุดยิงและการเจรจา​ ประเทศไทยปฏิเสธไม่ได้​ เพราะจำเป็นจะต้องอาศัยความชอบธรรมในเวทีโลกกับการปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาอย่างมาก​ ดังนั้น​การที่ประเทศไทยไปตกลง ก็มีความจำเป็น​ ด้านหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตของทหาร​ ตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์​ ก็พบว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ​ แม้จะมีการเตรียมความพร้อมซักซ้อมตลอดเวลา แต่พอถึงเหตุการณ์จริง​ ต้องยอมรับว่ามีคนเดือดร้อน​ และหากดูต่อก็จะพบว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง​ ซึ่งการละเมิดนี้ก็มีความสำคัญ ประเทศไทยจำเป็นจะต้องรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอต่อมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนหรือชาติต่างๆ​ “กัมพูชาพยายามบอกประเทศต่างๆว่าประเทศไทยละเมิดการหยุดยิง เขาพยายามเอาทูตไปดูพื้นที่ ผมคิดว่าอย่างน้อยที่สุดต้องทำให้โลกเห็นว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดการหยุดยิงก่อน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความชอบธรรมในเรื่องนี้ต่อไป ถ้าเกิดทำให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทย​ ไม่ได้รังแกกัมพูชา​” […]

นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมรสั่งคอลเซ็นเตอร์ ทำสงคราม IO

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยความมั่นคงรายงาน นายทุนบ่อนจับมือรัฐบาลเขมร สั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับการหลอกลวงคนไทย มาทำสงคราม IO โจมตีไทยในโซเชียลมีเดีย กว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน วอนคนไทยเป็นนักรบไซเบอร์สวนกลับได้ อย่าเคลิ้มตาม IO เขมร มาด่าไทยกันเอง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงรายงานว่า พบการโจมตีทางไซเบอร์จากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากประเทศกัมพูชามายังสื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น เปิดเป็นบัญชีผู้ใช้งานปลอมเป็นคนไทยนับล้านบัญชี ทั้งในเฟซบุ๊ก IG และ x และเข้าไป กดรีพอร์ตเฟซบุ๊ก ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ด่าทอ กองทัพไทย และรัฐบาลเป็นจำนวนมาก และโจมตีด้วย DDos Attack ถึงกว่า 500 ล้านครั้ง ภายในเวลา 24 ชั่วโมง  ทั้งนี้พบว่า […]

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปตสาย 2 ปลอมเป็น ตร.หลอกโอนเงิน

23 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปตสาย 2 ปลอมเป็น ตร.มุกดาหาร หลอกโอนเงิน เผยเคยได้ค่าคอมมิชชั่นสูงถึงหลักแสน ส่วนอีกคดีเครือข่ายอ้างการไฟฟ้าหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน เสียหายกว่า 2.4 หมื่นบาท พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกหลอกลวงให้ลงทุนคริปโทเคอเรนซี เสียหายเงิน 308,204,326.50 บาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่มีฐานที่ตั้งปฏิบัติการอยู่ที่ภูลิคาสิโน ประเทศกัมพูชา และมีการหลอกลวงหลายประเภท เช่น คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเงินของเหยื่อไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา หลอกลวงให้ลงทุน และหลอกลวงให้เกิดความชอบความรัก โดยคนร้ายที่หลอกสำเร็จจะได้ค่าคอมมิชชั่นสูงถึงหลักแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขยายผลจนทราบแผนผังองค์กรของผู้ประทำผิดที่เชื่อมโยงกับคดีหลอกลวงอื่นอีกหลายคดีที่ใช้กาสิโนดังกล่าว เป็นที่ตั้งในการปฏิบัติการ จึงรวบรวมพยานหลักฐานชอศาลออกหมายจับ นายรณชัย อายุ 31 ปี ผู้ทำหน้าที่รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร (สายที่ 2) ในข้อหา “ร่วมกันอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่า เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 […]

สว.เปรมศักดิ์ จี้กระทรวงดีอี เร่งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รัฐสภา 21 ก.ค.-สว.เปรมศักดิ์ จี้กระทรวงดีอี เร่งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน-เว็บโป๊ ให้สิ้นซาก หลัง พ.ร.ก.ปราบคอลเซ็นเตอร์มีผลบังคับใช้ รมว.ดีอีรับปากตามจับ “ก๊ก อาน” และจัดการแฟลตฟอร์ม FB ต้นตอหลอกลวงในต่างประเทศ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นกระทู้ถามนายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังค เกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า รัฐบาล พยายามแก้ไขปัญหานี้โดยได้ออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาประชาชนถูกหลอกลวง แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีวิธีการที่ศรีธนญชัยเรียกพี่ทำทุกวิถีทางหลอกเอาเงินจากกระเป๋าประชาชน แม้มีการเตือนให้คนมีสติก่อนจะถูกหลอก แต่ก่อนจะมีสติสตางค์หมดแล้ว นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลออกพระราชกำหนด โดยเฉพาะให้บริษัทมือถือได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายของประชาชน เมื่อกำหนดโทษมากขึ้นมีเครื่องมือในการดูแลประชาชนมากขึ้น แต่ทำไมยังมีปัญหาประชาชนถูกหลอก แสดงว่ากฎหมายมีปัญหาหรือไม่ หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ใช้ศักยภาพตามกฎหมายอย่างเต็มศักยภาพหรือไม่ จะทำอย่างไร เมื่อรัฐบาลมีเครื่องมือแล้ว จะนำเครื่องมือไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก้ปัญหาได้เต็มศักยภาพ จึงขอถามว่า รัฐบาลมีแผนงานและการดำเนินงานอย่างไร รวมถึงการตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ตั้งแล้วทำงานได้จริงหรือไม่ มีปัญหาอุปสรรคระหว่างหน่วยงานหรือไม่ เพราะปัญหาสำคัญของราชการไทยคือ […]

เตือนภัยแก๊งคอลฯ อ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ-หลอกโอนเงิน

ทำเนียบ 18 ก.ค.- “จิรายุ” เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อฟรี หลอกโอนเงิน ย้ำอย่าติดต่อหรือโอนเงินผ่านทางออนไลน์เด็ดขาด มอบตำรวจสืบจับทันที นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านรายการ “เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” ว่าปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ โดยที่ผ่านมามักจะใช้ช่องทางผ่านการโทรศัพท์หาเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็น หน่วยงานราชการสำคัญบ้าง อ้างว่ามีไปรษณีย์ตกค้างบ้าง รวมทั้งการส่งเอกสารหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสังคมไทยเริ่มคุ้นชินแล้ว ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยปัจจุบันพบว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดเพจแอบอ้างเป็น มูลนิธิหรือสำนักงานทนายสาธารณะที่ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือ ศูนย์ช่วยเหลือการถูกหลอกลวง โดยปัจจุบันพบว่าในแพลตฟอร์ม Facebook มีชื่อว่า “สำนักงานช่วยเหลือเหยื่อคดีทางออนไลน์” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงซ้ำกับคนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ หรือกรณีที่ซื้อสินค้าไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ตรงปกเป็นจำนวนมาก “กระบวนการเหล่านี้จะเปิด Facebook แฟนเพจและขึ้นหน้าเพจว่าเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โดนหลอกลวงทางออนไลน์โดยจะให้แอด LINE กับทนายความ โดยระบุว่าจะมีทีมทนายให้การช่วยเหลือเมื่อขบวนการมิจฉาชีพได้รับเรื่องจากผู้ที่เป็นเหยื่อก็จะส่งต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมตัวเป็นตำรวจจากหลายหน่วยงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการส่งบัตรข้าราชการตำรวจให้เหยื่อได้หลงเชื่อ จากนั้นจะทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่โชคร้ายอยู่แล้วต้องโชคร้ายซ้ำสอง โดยคณะทำงานได้ ตรวจสอบบัตรประจำตัวตำรวจดังกล่าวไม่ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง และได้ตรวจสอบพบว่าชื่อ ทนายความดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในสารบบของทะเบียนทนายความ” จิรายุ กล่าว นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบและจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในกระบวนการหลอกลวงรูปแบบต่าง […]

ตร.เล็งออกหมายจับเพิ่มเครือข่าย “ก๊กอาน”

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์จ่อออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายก๊กอาน ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งตรวจสอบ “เชอรี่” ลูกสาวก๊กอาน มีบทบาทบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติว่า ขณะนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่ามีผู้กระทำความผิดมากกว่าที่ศาลอนุมัติหมายจับไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการจัดการระบบบัญชีม้าและขบวนการฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รวมถึงเร่งตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากพบมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะมีการดำเนินคดีออกหมายจับตามกฎหมายทันที รวมถึงหากพบพฤติการณ์ฟอกเงินหรือมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด และยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึง “เชอรี่” ลูกสาวของก๊กอาน ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า มีบทบาทในการบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ ส่วนตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของก๊กอานนั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการดำเนินการออกหมายแดงหรือหมายจับผ่านตำรวจสากลหรือ Interpol ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศในเครือข่ายอินเตอร์โพล 196 ประเทศสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่ร่วมกันกระทำผิด ซึ่งอาจต้องประสานหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมเพื่อร่วมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ร่วมกัน- -สำนักข่าวไทย

เร่งล่าแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้า

14 ก.ค.- ผบช.ไซเบอร์ สั่งเร่งหาผู้เกี่ยวข้องแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้าเวทีประกวด จนต้องจบชีวิตจากความเครียด จากกรณีที่นายพิชญ์ศุธางศุ์ หรืออั้ม อายุ 38 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ช่างแต่งหน้าชื่อดังให้กับเวทีประกวดมิสแกรนด์และเวทีประกวดอื่นๆอีกหลายเวที ต้องจบชีวิตลงจากความเครียด หลังมีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “บจก.ทรัพย์โพศาล” ติดต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับร่วมอุดหนุนสินค้า จึงโอนเงินเข้าร่วมลงทุนหลายครั้งสูญเงินไปราว 50,000 บาท ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.68 กระทั่งมาก่อเหตุสลดจากความเครียดที่ถูกหลอก เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากพฤติการณ์ของคนร้ายน่าจะเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน เชื่อว่ามีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกอีกหลายราย เร่งติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ นอกจากนี้ สั่งการให้ พลตำรวจตรีศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่าดำเนินการเรื่องนี้ไปอย่างไรบ้าง และได้นำเรื่องลงในระบบไทยโปลิศออนไลน์แล้วหรือไม่ เนื่องจากในคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะนำข้อมูลมาช่วยกันเพื่อเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด -สำนักข่าวไทย

สว.นพดล เตรียมเสนอญัตติ ร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์

รัฐสภา 12 ก.ค.-สว.นพดล เตรียมเสนอญัตติ ร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังกลไกรัฐจัดการไม่ทันท่วงที ก่อความเสียหายวันละ 100 ล้าน ขณะที่ 6 เดือนทะลุหมื่นกว่าล้าน แนะหากเอาจริงเอาจังแก้ไม่ยาก บอกง่ายกว่า ครม.ชุดที่แล้ว นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะผู้จะเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ที่จะพิจารณาในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามานานมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเป็นคนพูดในวุฒิสภาเป็นคนแรกๆ ซึ่งปัญหานี้รัฐบาลก็ดำเนินการมาตลอด และถึงแม้จะมีพระราชกำหนด ไซเบอร์ (พ.ร.ก.) ฉบับใหม่แก้ปัญหาบังคับใช้มาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลงเท่าที่ควร หรือยังไม่ลดลงแบบมีนัยยะสำคัญ จึงคิดว่าวุฒิสภาควรเข้ามามีส่วนในการเข้ามาศึกษาและเสนอแนะ เพราะวันหนึ่งเราเสียเงินกับเรื่องนี้ร่วม 100 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าเยอะมาก ปีหนึ่งตก 2-3 หมื่นล้านบาท เราสามารถอำนวยประโยชน์ได้อย่างมากมาย สว.เราได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงเสนอญัตติขึ้น นายนพดล กล่าวย้ำว่า หากเราเอาจริงเอาจังบังคับใช้กฎหมาย มันก็ไม่ยาก เพราะผู้ประกอบการตามแนวชายแดนก็เป็นคนไทยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนบ้านใช้สัญญาณต่างๆของประเทศไทยแล้วกลับมาทำร้ายประเทศไทยเอง เมื่อถามว่ามองว่าในช่วงที่รัฐบาลสั่นคลอนแบบนี้ […]

ตร.ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ “I2LAI” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

10 ก.ค.- ตร. เผยสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านยังน่าห่วง พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ “I2LAI” ผนึกกำลังประชาคมโลกปราบปราม ตั้งเป้าเห็นผลใน 3 เดือน เร่งไล่ล่าเครือข่าย “ก๊ก อาน” วันนี้ (10 กรกฎาคม) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ UNODC ต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ เปิดเผยสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังคงปักหลักในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา เมียนมา และลาว โดยใช้ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเดินทางผ่าน เพื่อลักลอบข้ามแดนไปทำงานหรือหลอกลวงทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้เข้าไปทำงานในแก๊งเหล่านี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า จากมาตรการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมันในเมียนมา ได้ส่งผลให้มีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ในเขตเมืองชเวโก๊กโก๋และเคเคพาร์ค ซึ่งตรวจพบผู้เสียหายถึง 36 สัญชาติ รวม 8,893 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบซ่อนอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเมียวดี สำหรับประเทศกัมพูชา พบการขยายตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างมากถึง 52 จุด ใน 10 จังหวัด […]

ย้ำไทยยังคงมาตรการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทำเนียบ 10 ก.ค.- โฆษกรัฐบาล ย้ำ ไทยยังคงมาตรการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลัง ออกหมายจับ “ก๊ก อาน” พร้อมเดินหน้าประสานงานกับทั่วโลกอย่างเข้มข้น ตั้งเป้าหมายจัดการวงการต้มตุ๋นระดับโลกให้สิ้นซาก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลรับทราบรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ดำเนินการเข้มข้นในการสืบสวนสอบสวน และจับกลุ่มกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และผู้อยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีการออกหมายจับ “ก๊ก อาน” เจ้าพ่อบ่อนปอยเปต กัมพูชาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณาจักรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยและคนต่างชาติไปทั่วโลก จากการรายงานทราบว่า ตำรวจได้บุกค้น 19 จุดใน 3 จังหวัด กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี นำหมายค้นของศาลอาญาและอนุมัติหมายจับ MR.Kok An หรือ “ก๊ก อาน” สัญชาติกัมพูชา เจ้าของเครือข่าย crown casino resort ตึก 25 ชั้น, ตึก 18 ชั้น และตึก […]

1 2 3 35
...