รมว.ต่างประเทศเปรูลาออกหลังรับว่าฉีดวัคซีนก่อนประชาชน
ลิมา 15 ก.พ.- เอลิซาเบธ เอสเตเต รัฐมนตรีต่างประเทศเปรูเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว หลังจากยอมรับว่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของชิโนฟาร์มของจีน นอกการทดลองทางคลินิกและก่อนที่ทางการจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชน เอสเตเตวัย 68 ปี เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เธอยอมรับผ่านทวิตเตอร์เมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 22 มกราคมตามที่มหาวิทยาลัยเอกชนในเปรูที่รับผิดชอบการทดลองเสนอให้ฉีดวัคซีนของซิโนฟาร์มจากลอตที่เหลือจากการทดลอง เธอรู้ดีว่าทำความผิดร้ายแรงจึงตัดสินใจไม่รับวัคซีนเข็มที่สอง และด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้ยื่นหนังสือลาออกต่อประธานาธิบดีแล้ว รัฐบาลเปรูประกาศเมื่อต้นเดือนมกราคมว่า ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนของซิโนฟาร์มสูงสุด 38 ล้านโดส ลอตแรก 300,000 โดสส่งมาถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลเริ่มโครงการฉีดในวันอังคารให้แก่บุคลากรทางการแพทย์แนวหน้า และฉีดให้แก่ประธานาธิบดีฟรันซิสโก ซากัสตีด้วย ประธานาธิบดีเพิ่งเผยเมื่อวันก่อนว่า อนุมัติการลาออกของนางปิลาร์ มาซเชตตี รัฐมนตรีสาธารณสุข หลังจากมีข่าวในหนังสือพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า อดีตประธานาธิบดีมาร์ติน บิซการ์ราได้รับการฉีดวัคซีนอย่างลับ ๆ ในเดือนตุลาคม ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่เขาถูกไต่สวนและถอดถอนจากตำแหน่งในข้อหาไร้ศักยภาพทางศีลธรรม เปรูมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 1.22 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 43,400 คน.-สำนักข่าวไทย