ผลดำเนินงาน บจ. ไตรมาส 1 ยอดขาย 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6%

บจ.รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ยอดขาย 4.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% เติบโตจากท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น หลังเปิดประเทศ

โออาร์ เตรียมบริหารจัดการ หากค่าแรงปรับขึ้น

กรุงเทพฯ 26 พ.ค.-บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) OR เตรียมพร้อมบริหารต้นทุนหากรัฐบาลใหม่ปรับขึ้นค่าแรง   มั่นใจ ผลประกอบการปี 2566 เติบโตกว่าปี 2565 รับทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ฟื้น คาดราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยปีนี้  80-86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  

จี 7 วอนทุกประเทศอย่าขู่เข็ญทางเศรษฐกิจ

ฮิโรชิมะ 20 พ.ค.- ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) เรียกร้องทุกประเทศทั่วโลกงดใช้การขู่เข็ญทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ทางการเมือง โดยระบุว่ามีเศรษฐกิจประชาธิปไตยบางแห่งได้รับผลกระทบเชิงลบจากการที่ประเทศเผด็จการใช้วิธีการนี้ แถลงการณ์ของผู้นำจี 7 ที่แถลงในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 3 วันที่เมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่นระบุว่า จี 7 จะร่วมกันสร้างหลักประกันว่า ความพยายามนำการพึ่งพาทางเศรษฐกิจมาใช้เป็นอาวุธ ด้วยการบีบให้สมาชิกจี 7 และหุ้นส่วน รวมถึงเศรษฐกิจขนาดเล็กต้องเชื่อฟังและทำตาม จะล้มเหลวและต้องรับผลที่ติดตามมา สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อความดังกล่าวดูเหมือนบ่งชี้ไปที่จีน แถลงการณ์ยังได้ย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานสำหรับการผลิตวัสดุสำคัญทางอุตสาหกรรม เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อตอบโต้การใช้มาตรการจำกัดทางการค้าแต่ฝ่ายเดียว ผู้นำจี 7 ยืนยันว่า จะเพิ่มความช่วยเหลือด้านพลังงานและการพัฒนาให้แก่ประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ในช่วงที่มีความกังวลมากขึ้นว่าจีนกำลังใช้ “การทูตกับดักหนี้” ด้วยการนำการปล่อยสินเชื่อมาใช้เป็นเครื่องต่อรองในการหาประโยชน์จากประเทศลูกหนี้ และเห็นพ้องกันว่าจะดำเนินมาตรการปกป้องความมั่นคงด้านอาหารที่ถูกคุกคามจากสงครามในยูเครน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐ-ไต้หวันสรุปข้อตกลงกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า

วอชิงตัน 19 พ.ค.- สหรัฐและไต้หวันสรุปการเจรจาเรื่องข้อตกลงทางการค้าเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันแล้ว ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า ความสำเร็จนี้เป็นก้าวสำคัญของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐกับไต้หวันให้แข็งแกร่ง โดยได้บรรลุข้อตกลงแรกภายใต้ความริเริ่มสหรัฐ-ไต้หวัน เรื่องการค้าในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นความริเริ่มที่มุ่งส่งเสริมการค้าด้วยการลดขั้นตอนศุลกากร ปรับปรุงกระบวนการด้านกฎระเบียบ และกำหนดมาตรการต่อต้านการทุจริตระหว่างกัน ข้อตกลงแรกจะเปิดทางให้ธุรกิจอเมริกันสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังไต้หวันและผู้บริโภคชาวไต้หวันได้มากขึ้น ขณะเดียวกันจะสร้างกระบวนการด้านกฎระเบียบที่โปร่งใสและคล่องตัวมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนและโอกาสทางเศรษฐกิจในทั้ง 2 ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน แถลงว่า ประธานาธิบดีให้การรับรองข้อตกลงนี้ และมุ่งหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐมากยิ่งขึ้นไปอีก ข้อตกลงนี้จะเป็นกรอบให้แก่การทำข้อตกลงการค้าของไต้หวันกับประเทศอื่น ๆ และจะทำให้ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” จะพบกับ “คิฃิดะ” ที่ญี่ปุ่นสัปดาห์นี้

ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีนี้ที่เมือฮิโรชิมา ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ หรือ จี 7

นักวิชาการแนะจัดตั้งรัฐบาลได้รวดเร็วหลังการเลือกตั้ง

นักวิชาการแนะเร่งจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ช่วยฟื้นเศรษฐกิจและการลงทุน มุ่งปฏิรูปและปรับโครงสร้างใหม่รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล หวั่นนโยบายประชานิยมกระทบฐานะทางการคลัง

สิงคโปร์ชี้อาเซียนต้องเหนียวแน่นและเป็นเอกภาพ

นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวว่า อาเซียนได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดีในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด จึงขอให้เหนียวแน่นและเป็นเอกภาพกันต่อไปในช่วงที่สถานการณ์โลกกำลังมีปัญหาถึงระดับสูงสุด

กกร.เสนอ 6 มาตรการขับเคลื่อน-แก้เศรษฐกิจ

กกร. เตรียมเสนอ 6 แนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจแก่พรรคการเมืองและรัฐบาลในอนาคต วางกรอบ GDP 66 โต 3-3.5% ผู้ประกอบการเตรียมขึ้นราคาสินค้ารอบสอง 5-10% เหตุต้นทุนยังสูง ห่วงภัยแล้งทำต้นทุนภาคอุตสาหกรรม-เกษตรพุ่งขึ้นอีก

IMF ปรับเพิ่มการคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชีย

วอชิงตัน 2 พ.ค.- กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย อันเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน แต่เตือนว่ามีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงและตลาดโลกผันผวนเพราะปัญหาภาคการธนาคารในโลกตะวันตก ไอเอ็มเอฟออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในวันนี้ว่า การที่จีนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งจะมีผลสำคัญต่อเอเชียในแง่ของผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคและความต้องการภาคบริการมากกว่าที่จะเกิดจากการลงทุน เอเชียและแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตรมากที่สุดของโลกในปี 2566 โดยเกิดจากการขับเคลื่อนของจีนและอินเดียเป็นหลัก และจะยังคงมีการบริโภคในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนใหญ่ที่สุดต่อไป เช่นเดียวกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.8 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 4.6 ในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากที่ประมาณการในรายงานเดือนตุลาคม 2565 เฉพาะจีนและอินเดียจะขยายตัวร้อยละ 5.2 และ 5.9 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในปี 2567 ลงร้อยละ 0.2 เหลือร้อยละ 4.4 และเตือนว่าเอเชียเสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อยาวนานกว่าที่คาด ความต้องการของโลกชะลอตัว และผลกระทบจากปัญหาภาคการธนาคารในสหรัฐและยุโรป ไอเอ็มเอฟเตือนว่า แม้เอเชียมีเงินทุนและสภาพคล่องสูงมากพอที่จะรองรับผลกระทบจากตลาดภายนอก แต่ภาคธุรกิจและครัวเรือนที่มีหนี้สินสูงกำลังเสี่ยงมากขึ้นกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอเอ็มเอฟยังขอให้ธนาคารกลางในเอเชีย ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น คงนโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไปเพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อให้ลดลง เพราะอัตราเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อไปส่วนหนึ่งเพราะมีความต้องการบริโภคในประเทศอย่างคึกคัก.-สำนักข่าวไทย

“เศรษฐา” โพสต์คลิปวันแรงงาน ย้ำทุกคนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“เศรษฐา” โพสต์คลิปในวันแรงงาน ย้ำทุกคนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย พร้อมยืนยันทุกนโยบายเป็นฟันเฟืองทำงานเชื่อมต่อกันเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบ ตั้งแต่ค่าครองชีพคนจนถึงโครงสร้างความเหลื่อมล้ำ มุ่งยกระดับประเทศตั้งแต่ฐานราก

รัฐบาลเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระตุ้นเศรษฐกิจ

โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลเร่งเดินหน้าพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน

นายกฯ สิงคโปร์คาดเศรษฐกิจไม่น่าจะหดตัว

สิงคโปร์ 30 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์คาดว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์จะชะลอการขยายตัวในปีนี้ แต่ไม่น่าจะหดตัวอย่างทันทีทันใด นายกรัฐมนตรีลีกล่าวในสารเนื่องในแรงงานว่า มีความหวังว่าภาวะเงินเฟ้อจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจำนวนผู้ถูกเลิกจ้างจะยังคงเป็นตัวเลขที่จัดการได้ อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมภายนอกยังคงผันผวน อีกทั้งยังมีความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์อย่างรุนแรง เขาชี้ว่า มีความเสี่ยงที่ชาติตะวันตกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะยังคงมีการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหวังควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ระบบการค้าแบบพหุภาคีกำลังถูกสั่นคลอนอย่างหนักจากกระแสชาตินิยมและปกป้องทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการค้าและความร่วมมือสากล ผู้นำสิงคโปร์ระบุว่า สิงคโปร์จะต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะผกผันจากอุตสาหกรรมเกิดใหม่และเทคโนโลยี การอยู่รอดของสิงคโปร์ขึ้นอยู่กับการยังคงเปิดกว้างและทำธุรกิจกับทั้งโลก ซึ่งหมายความว่า สิงคโปร์จะต้องปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรม ส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่และสร้างศักยภาพใหม่อย่างต่อเนื่องในขณะที่เข้าสู่ตลาดที่มีการเติบโต เอเอฟพีระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจของสิงคโปร์มักถูกใช้เป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสิงคโปร์พึ่งพาการค้ากับทั้งโลก เศรษฐกิจสิงคโปร์ในปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 3.6 ลดลงอย่างมากจากร้อยละ 8.9 ในปี 2564 สำนักงานการเงินแห่งสิงคโปร์ซึ่งทำหน้าที่เหมือนธนาคารกลางของสิงคโปร์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้จะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5-2.5 เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

1 8 9 10 11 12 69
...