คาดเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 ขยายตัวร้อยละ 4.5 ในปี 67

กรุงเทพฯ 10 พ.ค.-เวทีประชุม ผู้ว่าฯ ADB คาดเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 ขยายตัวร้อยละ 4.5 ในปี 67 ใช้เงินกองทุนกองทุน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มุ่งช่วยเหลือประเทศสมาชิก ห่วงราคาสินค้า ค่าขนส่งพุ่ง ค่าเงินทั่วโลกผันผวน


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในฐานะผู้ว่าการสำรองชั่วคราวของไทยในธนาคารพัฒนาเอเชีย เข้าร่วมการประชุม ผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการ ADB ครั้งที่ 57 ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ณ กรุงทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 จะขยายตัวร้อยละ 4.5 ในปี 2567 และร้อยละ 4.2 ในปี 2568 ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการลงทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 จะเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลก และมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึงร้อยละ 45 ในปี 2567 – 2573 สำหรับปัจจัยเสี่ยงในระยะสั้น ได้แก่ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกและค่าขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น ความผันผวนของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

สำหรับปัจจัยเสี่ยงในระยะกลาง – ยาว ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และสังคมผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าและมอบหมายนโยบายด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินในกรอบอาเซียน+3 ได้แก่ ทิศทางการดำเนินการในอนาคตของโครงสร้างความช่วยเหลือทางการเงินของภูมิภาค การเสริมสร้างประสิทธิภาพของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี การจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การดำเนินการของ AMRO มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย และข้อริเริ่มภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+3


ที่การประชุม Business Session หารือ ภายใต้แนวคิด “Bridge to the Future” ในการพัฒนาการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค รวมถึงได้มีการเรียกร้องให้ ADB ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหาและรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ซึ่งต้องการความช่วยเหลือทางการเงินแบบให้เปล่า (Grants) อย่างทั่วถึง ADB โดยประเทศสมาชิก รวมถึงประเทศไทย แสดงเจตจำนง บริจาคเงินเพิ่มทุนในกองทุนพัฒนาเอเชีย 14 (Asian Development Fund 14: ADF 14) ขนาดกองทุนสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วงเวลาดำเนินการระหว่างปี 2568 – 2571

ที่ประชุมมุ่งเน้นแก้ไขปัญหา การเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเกษตรกรรมซึ่งนำไปสู่ปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร การใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อย่างระมัดระวังและเท่าเทียมเพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุม การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประเทศที่ยากจนที่สุดและมีความเปราะบาง โดยการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการ ADB ครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2568 ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งผู้ว่าการของไทย เตรียมเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ Procedures Committee ด้วย .-515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก