เรือบรรทุกน้ำมัน

กัวลาลัมเปอร์ 2 มี.ค. – มาเลเซียจะไม่อนุญาตให้เรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือกัวลาสุไหงลิงกีของมาเลเซีย ท่ามกลางกระแสกดดันให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกยูเครน กระทรวงคมนาคมของมาเลเซียระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ของท่าเรือกัวลาสุไหงลิงกีได้ตัดสินใจปฏิเสธคำขอจอดเทียบท่าของเรือบรรทุกน้ำมัน ‘ลินดา’ (Linda) ของรัสเซียที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากมาเลเซียไม่ต้องการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ทั้งยังระบุว่า กระทรวงฯ จะประเมินสถานการณ์ต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลมาเลเซีย แต่ไม่ได้เปิดเผยจุดยืนของรัฐบาลต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐ ก่อนหน้านี้ มาเลเซียได้ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ขัดแย้งในยูเครน แต่ไม่ได้ประณามการกระทำของรัสเซีย รวมถึงไม่ได้แสดงความเห็นต่อการใช้มาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติหลังรัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนสหรัฐเชื่อว่าเรือลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดิบของอิหร่าน ซึ่งถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำ ดร. ยวน แกรห์ม นักวิจัยระดับสูงของสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (IISS) ของอังกฤษ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของกระทรวงคมนาคมมาเลเซียที่ระบุถึงการตัดสินใจปฏิเสธคำขอจอดเทียบท่าโดยเจ้าหน้าที่ท่าเรือแทนที่จะเป็นรัฐบาลมาเลเซีย แสดงให้เห็นว่ามาเลเซียสงวนท่าทีโดยยืนอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะต้องพยายามสร้างความสมดุลระหว่างสองประเทศใหญ่ แต่สงสัยว่า สหรัฐกำลังพยายามกดดันมาเลเซียอย่างหนักให้ยอมรับในมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้หารือกับรองประธานาธิบดีของอิหร่าน หวังขยายความร่วมมือแบบทวิภาคีในทุกด้านทันทีที่มีการฟื้นคืนแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม

โซล 6 ม.ค. – เกาหลีใต้ส่งคณะผู้แทนไปอิหร่านเพื่อเจรจาหาทางให้รัฐบาลอิหร่านปล่อยเรือบรรทุกน้ำมันและลูกเรือ 20 คนของเกาหลีใต้ที่ถูกกองกำลังของอิหร่านยึดในน่านน้ำอ่าวเปอร์เซีย รัฐบาลอิหร่านออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีเจตนายึดเรือฮันกุกเคมีและจับกุมลูกเรือของเกาหลีใต้ที่ช่องแคบฮอร์มุซในอ่าวเปอร์เซียเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองให้เกาหลีใต้ยกเลิกการอายัดรายได้จากการขายน้ำมันของอิหร่านราว 7,000 ล้านดอลลาร์ ที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ขณะที่กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้หารือกับทูตอิหร่านวานนี้เพื่อเรียกร้องให้อิหร่านปล่อยเรือบรรทุกน้ำมันและลูกเรือ 20 คนของเกาหลีใต้ แต่รัฐบาลอิหร่านอ้างว่า จำเป็นต้องยึดเรือลำดังกล่าวเพราะฝ่าฝืนข้อบังคับด้านมลพิษ ขณะนี้กระทรวงต่างประเทศกำลังตรวจสอบว่า เรือบรรทุกน้ำมันของเกาหลีใต้ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศโดยการปล่อยมลพิษในน้ำตามข้อกล่าวหาของอิหร่านหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่า อิหร่านได้ละเมิดกฎหมายดังกล่าวจากการยึดเรือของเกาหลีใต้หรือไม่เช่นกัน ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้มีกำหนดการเดินทางเยือนอิหร่านในวันอาทิตย์นี้เพื่อเจรจาเกี่ยวกับประเด็นทวิภาคี ซึ่งเป็นกำหนดการเดิมที่มีขึ้นก่อนเกิดเหตุยึดเรือลำดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ริยาด 14 ธ.ค.- เกิดเหตุระเบิดบนเรือบรรทุกน้ำมันติดธงชาติสิงคโปร์ นอกเมืองท่าเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบียในวันนี้ เป็นการโจมตีครั้งล่าสุดต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ฮาฟเนีย (Hafnia) บริษัทขนส่งที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์แถลงว่า เรือ บี ดับเบิลยู ไรน์ (BW Rhine) ถูกโจมตีจากภายนอก ขณะกำลังเคลื่อนตัวออกจากเมืองท่าเจดดาห์หลังเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตามมา แต่ลูกเรือสามารถดับไฟได้ โดยได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยดับเพลิงบนฝั่งและเรือโยง ลูกเรือทั้ง 22 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวเรือเสียหายจากการระเบิด และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจมีน้ำมันรั่วหรือไม่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่กลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้เพิ่มการโจมตีข้ามพรมแดนต่อเป้าหมายในซาอุดีอาระเบีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารในเยเมนที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำมาตั้งแต่กลุ่มกบฏฮูธีเข้ายึดกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนเมื่อปี 2557 และรุกคืบยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือ เดือนที่แล้วเรือบรรทุกน้ำมันติดธงชาติมอลตาที่เดินเรือโดยบริษัทกรีกเกิดระเบิดขณะเทียบท่าทางใต้ของซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรทางทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบียโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮูธี ไม่มีคนบาดเจ็บ กลุ่มฮูธีอ้างในเดือนเดียวกันว่า ยิงขีปนาวุธวุธกัดส์-2 ถล่มโรงงานของซาอุดีอารามโกเจดดาห์ อารามโกแจ้งว่า ขีปนาวุธทำให้ถังน้ำมันเป็นรู เกิดระเบิดและไฟไหม้.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติปานามานอกชายฝั่งศรีลังกา หลังเกิดเหตุหม้อต้มภายในห้องเครื่องยนต์ระเบิด ทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน