BIG STORY : เปิดนาทีเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดคาท่าเรือพระประแดง

สมุทรปราการ 9 มี.ค. – เปิดนาทีเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้คาท่าเรือพระประแดง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย คาดสาเหตุช่วงถอนสมอเกิดประกายไฟบริเวณถังเก็บน้ำมัน เบื้องต้นมี 3 ชุมชน 200 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ เร่งเยียวยา


เกาะติดความคืบหน้าเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดที่ท่าเรือพระประแดง มีผู้บาดเจ็บ 3 คน สูญหาย 1 คน ล่าสุดคนที่สูญหายถูกพบเป็นศพอยู่บริเวณกราบเรือขวา ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

บึ้มสนั่น เรือขนน้ำมันระเบิด-ไฟไหม้ ตาย 1 เจ็บ 3
เวลา 09.00 น. วันนี้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นบริเวณท่าเรือ IRPC ซอยสุขสวัสดิ์ 45 ตำบลลัดหลวง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเรือบรรทุกน้ำมัน mt.smooth sea 2 น้ำหนัก 3,043 ตัน เกิดระบิดขึ้น ทำให้คนงานบนเรือได้รับบาดเจ็บ 3 คน และมีบางคนกระโดดลงไปในน้ำเพื่อหนีตาย ทำให้สูญหาย และมีผู้เสียชีวิต 1 คน การระเบิดในครั้งนี้วงจรปิดจับภาพวินาทีระเบิดไว้ได้อย่างชัดเจน โดยจะเห็นภาพเรือที่ระเบิดจอดเทียบอยู่ที่ท่าเรือ ขณะที่เรืออีก 2 ลำ กำลังแล่นเข้ามาเทียบท่า และหลังเกิดการระเบิดเสียงดังสนั่น มีเพลิงลุกไหม้ขึ้น แรงระเบิดยังส่งผลให้บ้านเรือนโดยรอบได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่วนเรือที่เกิดระเบิด ดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวงต้องเร่งเข้ามาช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิง ซึ่งใช้เวลาไม่นานสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมฉีดน้ำหล่อเลี้ยง เพื่อไม่ให้เกิดการระเบิดซ้ำ โดยทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ยังคงรักษาระยะปลอดภัยไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าท่าเรือ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังชัดเจน และบ้านเรือนถึงขั้นสะเทือน ซึ่งตนเองอยู่ที่นี่มานาน 30 ปี เพิ่งเคยเห็น


อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุนักข่าวพยายามเข้าไปในพื้นที่เพื่อติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ และทำหน้าที่ปลดเชือกของเรือ เจ้าหน้าที่เล่าว่าขณะเกิดเหตุเป็นจังหวะที่มีการถอนสมอเรือ โชคดีวันนี้รอดตายหวุดหวิด

ย้ำชัด!! ช่วงเรือระเบิดขนน้ำมันออกไปหมดแล้ว
ขณะที่หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสมุทรปราการ ระบุเรือลำดังกล่าวเข้ามาเทียบท่าเพื่อขนถ่ายน้ำมันเมื่อคืน ช่วงเกิดเหตุเอาน้ำมันออกหมดแล้ว ส่วนสำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการ ได้นำเรือตรวจการณ์เร่งตรวจสอบความเสียหาย นอกจากนี้การตรวจสอบข้อมูลเรือลำดังกล่าวพบเป็นเรือสัญชาติไทย หมายเลขทะเบียนเรือ 460003012 บรรทุกน้ำมันขนาด 1,989 ตันกรอส มีนายปารเมศ ประเสริฐวงศ์ เป็นนายเรือ และขณะเทียบท่าได้ขนน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 มาในปริมาณ 1.8 ล้านลิตร และดีเซลอีก 1.3 ล้านลิตร มาจากจังหวัดระยอง และเข้าเทียบท่าเรือ 13 บริษัท ไอ อาร์ พี ซี กลางดึก พร้อมย้ำว่าขณะเกิดเหตุระเบิด ในเรือไม่มีน้ำมันแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายพีรกานต์, นายสมพงศ์ และนายณัฐภูมิ ทั้ง 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางประกอก 3 ส่วนผู้สูญหาย 1 คน คือ นายศรรกฏิยพงศ์ อายุ 25 ปี ล่าสุดพบร่างแล้ว เสียชีวิตอยู่ที่กราบเรือด้านขวา ส่วนเรื่องความปลอดภัย นายอำเภอยืนยันว่าเพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด ขณะนี้ขอกันพื้นที่ไว้ก่อน หากปลอดภัย 100% จะแจ้งอีกครั้ง

คาดสาเหตุถอนสมอเรือทำให้เกิดประกายไฟ
เหตุการณ์นี้ผู้เกี่ยวข้องยังย้ำว่า การตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำมัน ไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เร่งตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดระเบิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า แต่เนื่องจากยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะตำรวจพิสูจน์หลักฐานยังกันพื้นที่ เพราะต้องการเก็บหลักฐานอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าน้ำมันที่ขนถ่ายออกไปแล้วอาจยังมีตกค้างอยู่ในถังเรือ และทันทีที่มีการถอนสมอ อาจเกิดเกิดประกายไฟ ทำเกิดระเบิดขึ้น ยอมรับเหตุการณ์นี้ถือเป็นโชคดีที่มีการขนถ่ายน้ำมันออกไปแล้ว เพราะหากเกิดขึ้นขณะเรือยังมีน้ำมันอยู่ การระเบิดจะรุนแรงมาก และอาจกระทบถังน้ำมันขนาดใหญ่ในท่าเรือ 3 ถัง ที่มีปริมาณน้ำมัน 6-7 ล้านลิตร ยิ่งจะทำให้ความเสียหายขยายวงกว้าง


เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเรือขนน้ำมันระเบิด
ขณะที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการทุกฝ่ายร่วมกันตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นทราบว่ามี 3 ชุมชน 200 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ จึงแนะประชาชนให้ถ่ายภาพความเสียหาย พร้อมเตรียมบัตรประชาชน เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในเบื้องต้นได้ที่ สภ.พระประแดง เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เข้าสำรวจและประเมินค่าเสียหาย เพื่อเยียวยาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย