fbpx

รัฐบาลไบเดนชี้ขาดเมียนมา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โรฮิงญา

วอชิงตัน 21 มี.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐชี้ขาดอย่างเป็นทางการว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะประกาศการตัดสินใจในวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สหรัฐในกรุงวอชิงตัน ซึ่งกำลังจัดแสดงนิทรรศการว่าด้วยสถานการณ์เลวร้ายของชาวโรฮิงญา นายบลิงเคนให้คำมั่นขณะรับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ว่าจะทบทวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาในเมียนมา หลังจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อนหน้าเขาไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งรวบรวมหลักฐานนำเสนอให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในเวลานั้นเร่งยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรง เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า นายบลิงเคนได้สั่งการให้วิเคราะห์เชิงกฎหมายและข้อเท็จจริง ผลการวิเคราะห์สรุปว่า กองทัพเมียนมากำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการชี้ขาดอย่างเป็นทางการจะเพิ่มแรงกดดันของนานาชาติในการทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาต้องรับโทษและทำผิดได้ยากขึ้น คณะทำงานค้นหาความจริงของสหประชาชาติสรุปในปี 2561 ว่า ปฏิบัติการทางทหารในปี 2560 ที่รัฐบาลทหารเมียนมาอ้างว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย มีการกระทำที่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (genocidal acts) แต่รัฐบาลสหรัฐในเวลานั้นระบุว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งไม่มีคำนิยามทางกฎหมายในกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ทั้งนี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา สหรัฐใช้คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อย่างเป็นทางการเพียง 6 ครั้งกับเหตุสังหารหมู่ในบอสเนีย, รวันดา, อิรักและดาร์ฟูร์, เหตุกลุ่มรัฐอิสลามปองร้ายชาวยาซิดีและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ และการที่จีนปฏิบัติไม่ดีต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิม.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลทรัมป์ทิ้งทวนเรื่องไต้หวัน

วอชิงตัน 10 ม.ค.- นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศยุติข้อจำกัดว่าด้วยการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวันทุกอย่าง ก่อนที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่งในอีกไม่กี่วัน นายพอมเพโอ วัย 57 ปี รัฐมนตรีต่างประเทศคนที่สองของรัฐบาลทรัมป์ที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 แถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า การออกข้อจำกัดภายในยุ่งยากเรื่องการติดต่อกับไต้หวันของนักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ของสหรัฐเป็นความพยายามเอาใจรัฐบาลคอมมิวนิสต์ในกรุงปักกิ่ง ขณะนี้ไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้อีกแล้ว เขาไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้จะมีความหมายอย่างในเชิงปฏิบัติ โดยกล่าวเพียงว่าสถาบันอเมริกันในไต้หวันหรือเอไอที (AIT) ที่ทำหน้าที่เสมือนสถานทูตสหรัฐในไต้หวันจะรับผิดชอบเรื่องการติดต่อสื่อสารกับไต้หวัน สหรัฐตั้งเอไอทีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2522 หลังจากสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบกับจีนในวันที่ 1 มกราคมปีเดียวกัน ตัวแทนทูตไต้หวันประจำสหรัฐแถลงตอบว่า การเลือกปฏิบัติมาหลายทศวรรษถูกขจัดแล้ว เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ขณะที่นายโจเซฟ หวู รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันกล่าวว่า ยินดีที่นายพอมเพโอยกเลิกข้อจำกัดไม่จำเป็นที่จำกัดการติดต่อสัมพันธ์กัน ความเป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดระหว่างไต้หวันกับสหรัฐตั้งมั่นอยู่บนค่านิยมร่วม ผลประโยชน์ร่วม และความเชื่อที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้เรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย

‘โป๊ปฟรานซิส’ เสด็จเยือนไทยทางการ 20-23พ.ย.นี้

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเตรียมเสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ 20-23 พ.ย.นี้ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย

ศึกเลือกตั้ง 62 : “พปชร.” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เป็นทางการ

นับถอยหลังอีก 50 วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว พรรคพลังประชารัฐวันนี้ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.อย่างเป็นทางการ ขณะที่แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ลงพื้นที่ขอคะแนนรับตรุษจีน

...