จีนผุดไอเดียผลิต “โซลาร์เซลล์” ชนิดยืดหยุ่น รีดพับได้เหมือนกระดาษ
(แฟ้มภาพซินหัว : โครงการโซลาร์เซลล์ในเมืองอู่เวย มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 18 ก.พ. 2023)
(แฟ้มภาพซินหัว : โครงการโซลาร์เซลล์ในเมืองอู่เวย มณฑลกานซู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน วันที่ 18 ก.พ. 2023)
เหอเฝย, 31 พ.ค. (ซินหัว) — คณะนักวิทยาศาสตร์ของจีนสร้างสถิติโลกของการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัม (QKD) แบบสนามคู่ ผ่านสายใยแก้วนำแสงความยาว 1,002 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างเครือข่ายควอนตัมขนาดใหญ่ในอนาคต การกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมเป็นวิธีการหลักสำหรับการสื่อสารเชิงควอนตัม ช่วยให้ผู้ใช้งานระยะไกล 2 ฝ่าย สร้างกุญแจเข้ารหัสใช้งานร่วมที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ ซึ่งถูกใช้งานในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อความ อย่างไรก็ดี การประยุกต์ใช้งานการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมเผชิญปัญหาใหญ่คือระยะทางจำกัด เนื่องจากไม่สามารถขยายขอบเขตสัญญาณเชิงควอนตัมและการส่งสัญญาณผ่านของช่องทางสื่อสารจะลดลงแบบทวีคูณตามระยะทาง ก่อนหน้านี้มีการสาธิตการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมแบบสนามคู่ในห้องปฏิบัติการผ่านม้วนใยแก้วความยาว 830 กิโลเมตร ผลการศึกษาในวารสารฟิสิคัล รีวิว เลตเตอร์ส (Physical Review Letters) ระบุว่าคณะนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน สถาบันเทคโนโลยีควอนตัมแห่งจี่หนาน สถาบันไมโครซิสเต็มและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งเซี่ยงไฮ้ เผยว่าระยะการกระจายที่ยาวที่สุดอยู่ที่ 1,002 กิโลเมตร ด้วยอัตรากุญแจความปลอดภัย 0.0034 บิตต่อวินาที คณะนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาการประมาณค่าระยะแบบดูอัลแบนด์ (dual-band) หรือสองคลื่นอุปกรณ์ และเครื่องตรวจจับโฟตอนเดี่ยวเส้นลวดนาโนที่มีตัวนำยิ่งยวด (SNSPD) ระหว่างการทดลอง เพื่อลดเสียงรบกวนของระบบซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการผลิตกุญแจความปลอดภัยในระยะไกล การศึกษาครั้งนี้ได้ตรวจสอบความเป็นไปได้ของการกระจายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัมแบบสนามคู่ในระยะทางไกลมาก และบ่งชี้โอกาสในการสื่อสารเชิงควอนตัมระยะไกล-สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230530/e64de946b18c4458adc9f524b34d76b6/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/361459_20230601ขอบคุณภาพจาก Xinhua
ลี่หยาง, 25 พ.ค. (ซินหัว) — เครื่องจักรปลูกข้าวอัตโนมัติในเมืองลี่หยาง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน สามารถหว่านเมล็ดพันธุ์ได้มากพอที่จะคลุม “สนามฟุตบอล” ถึง 93 รอบ ภายในเวลาเพียงวันเดียว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทุ่นแรงมนุษย์อย่างมาก หวังหลินซง ผู้อำนวยการสมาคมสหกรณ์ท้องถิ่น บอกเล่าว่าเมื่อฤดูกาลเพาะกล้าข้าวชุดแรกเริ่มต้น โรงงานเพาะกล้าของเราได้ปรับปรุงสายการผลิตจากแบบกึ่งอัตโนมัติให้กลายเป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้จากเดิมที่ต้องใช้คนงานดูแลสายการผลิตกึ่งอัตโนมัติอย่างน้อย 10 คน ลดเหลือเพียง 5 คน ก่อนหน้านี้โรงงานของหวังหว่านข้าวได้ประมาณ 125 ไร่ ต่อวันเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาหวานเมล็ดพันธุ์ได้วันละมากกว่า 416 ไร่ แล้ว การเพาะต้นกล้าถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในกระบวนการเตรียมการเพาะปลูก ก่อนที่จะย้ายข้าวลงไปปลูกในแปลงนา ซึ่งสารพัดเทคโนโลยีอัตโนมัติในปัจจุบันทำให้การทำฟาร์มทั้งชาญฉลาดและสะดวกสบายขึ้น – สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230523/6a964d6353be4bd6977af087df32e54b/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/vdo/360003_20230525ขอบคุณภาพจาก Xinhua
ปักกิ่ง, 22 พ.ค. (ซินหัว) — ทางรถไฟใต้ดินสายหนึ่งในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน อนุญาตให้ผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกผ่านจุดตรวจบัตรโดยสารแบบ “มือเปล่า” ด้วยการใช้ฝ่ามือเป็นตัวสแกน โดยไม่จำเป็นต้องรูดบัตรหรือสแกนคิวอาร์โค้ดแต่อย่างใด คณะกรรมการการขนส่งเทศบาลกรุงปักกิ่ง ระบุว่ามีการเปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้บนเส้นทางรถไฟต้าซิง แอร์พอร์ต เอ็กซ์เพรส (Daxing Airport Express) ที่เชื่อมโยงท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งต้าซิง เมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ผู้โดยสารสามารถสแกนฝ่ามือเพื่อเข้า-ออกจุดตรวจบัตรโดยสารของสถานีต่างๆ ตามแนวทางรถไฟดังกล่าว หลังจากป้อนข้อมูลฝ่ามือที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารของสถานีและอนุญาตการใช้งานผ่านวีแชท (WeChat) แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมของจีน โดยค่าธรรมเนียมจะถูกหักอัตโนมัติหลังออกจากสถานีแล้ว คณะกรรมการฯ เปิดเผยว่าจุดตรวจบัตรโดยสารจะจดจำลายฝ่ามือและเส้นเลือดของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องมีการสัมผัส ทำให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นรถไฟใต้ดินได้เมื่อไม่มีเงินสด ในกรณีที่สมาร์ตโฟนแบตเตอรีหมดและไม่อาจใช้งานได้ และยังมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการปิดบังข้อมูลและการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้ด้วย -สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ http://english.news.cn/20230521/bd86cab15a1a481684dd21e28981b8aa/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/359213_20230522ขอบคุณภาพจาก Xinhua
โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ชื่นชมโครงการ “DIPROM Startup Connect” ได้รับความร่วมมือต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริม Startup ยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท
กทม.ยืนยัน เลือกตั้ง ส.ส. โปร่งใส ใช้เทคโนโลยีมาช่วย ชวนคนกรุงฯ แสดงพลังโหวตให้ถึง 80% เพราะทุกเสียงจะกำหนดทิศทางบ้านเมืองในอนาคต
วอชิงตัน 2 พ.ค.- นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อแห่งปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI)” ลาออกจากการทำงานที่กูเกิล บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก และได้แสดงความคิดเห็นเตือนภัยถึงอันตรายของเอไอ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ฉบับวันจันทร์รายงานว่า นายเจฟฟรีย์ ฮินตัน วัย 75 ปี ผู้สร้างเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับระบบเอไอได้แจ้งลาออกจากกูเกิลเมื่อเดือนเมษายน พร้อมกับตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เขาว่า การพัฒนาไอเอได้ทำให้สังคมและมนุษย์ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างยิ่ง เพราะเอไอเมื่อ 5 ปีก่อนกับเอไอในปัจจุบันมีความแตกต่างและก้าวหน้าไปไกลจนน่าตกใจ การแข่งขันระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีผลักดันให้บริษัทต่าง ๆ พากันเผยแพร่เทคโนโลยีเอไอใหม่ ๆ ด้วยความเร็วที่เป็นอันตราย จนยากที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนำเอไอไปใช้ในทางมิชอบ นายฮินตันเชื่อว่า เอไอกำลังบดบังความสามารถของสติปัญญามนุษย์ เนื่องจากเอไอสามารถประมวลข้อมูลในปริมาณมหาศาล เอไอถูกพัฒนาขึ้นมาช่วยเหลือคนทำงาน แต่แชทบอทที่เป็นแอปพลิเคชันเลียนแบบการสนทนาของมนุษย์อย่างแชทจีพีที (ChatGPT) อาจทำให้คนตกงาน นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่เกิดการแพร่กระจายข่าวเท็จที่สร้างขึ้นโดยเอไอ ซึ่งคนทั่วไปจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าสิ่งใดคือความจริง นายฮินตันเตือนด้วยว่า นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ควรเร่งพัฒนาแชทบอท จนกว่าจะมีความเข้าใจชัดเจนว่าจะสามารถควบคุมได้ ด้านนายเจฟฟ์ ดีน นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของกูเกิล เอไอแถลงขอบคุณนายฮินตัน และยืนยันว่าในฐานะที่เป็นบริษัทแรก ๆ ที่เผยแพร่หลักการเอไอ กูเกิลจะยังคงยึดมั่นเรื่องการใช้เอไออย่างมีความรับผิดชอบ จะเดินหน้าเรียนรู้เพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมอย่างกล้าหาญ.-สำนักข่าวไทย
นักเศรษฐศาสตร์ หนุนยกระดับเทคโนโลยี พัฒนาแรงงาน แทนพึ่งพาแรงงานราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน แนะรัฐบาลใหม่ วางยุทธศาสตร์ประเทศ ถ่วงดุลอำนาจเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ
กรุงเทพฯ 11 เม.ย. –กมธ.ไอซีที วุฒิสภา หนุนใช้เทคโนโลยีกับผู้มีภาวะพึ่งพิงด้านสุขภาพ ผลักดันงานวิจัยออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์
กทม. เล็งนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ติดกล้อง CCTV ถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง ห้องเก็บรักษาบัตร
ฉางชุน, 4 เม.ย. (ซินหัว) — บริษัท ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล จำกัด ในมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน รายงานการทดสอบระบบลอยตัวด้วยพลังงานไฟฟ้าสภาพนำยวดยิ่งอุณหภูมิสูงครั้งแรกของรถไฟแมกเลฟที่จีนพัฒนาเอง ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงถึง 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบข้างต้นประกอบด้วยระบบย่อยของรถไฟ ราง แหล่งจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อน และการสื่อสารปฏิบัติการ สามารถประยุกต์ใช้กับท่อสุญญากาศระดับต่ำ ความเร็วสูง และความเร็วสูงพิเศษ โดยระบบนี้อาจเป็นตัวเลือกสำคัญของการขนส่งอันรวดเร็วระหว่างเมืองใหญ่และเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้วในอนาคต อนึ่ง ซีอาร์อาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล มุ่งมั่นทำการวิจัย พัฒนา และผลิตรถไฟแมกเลฟ ตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990 ซีอาร์อาร์ซีฯ ได้ก่อสร้างทางรถไฟแมกเลฟสภาพนำยวดยิ่งอุณหภูมิสูงสายทดสอบ ระยะ 200 เมตร และพัฒนาแม่เหล็กสภาพนำยวดยิ่งอุณหภูมิสูงที่ทำงานอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องใช้พลังงาน รวมถึงตัวอย่างรถไฟแมกเลฟพลังงานไฟฟ้าและรางกำลังสูงที่ไม่ใช่แม่เหล็กในช่วงหลายปีที่ผ่านมา – สำนักข่าวซินหัว คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/20230404/fbccd5717d924455880d47c5f17ca030/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/china/349579_20230405ขอบคุณภาพจาก Xinhua
กรุงเทพฯ 28 มี.ค.-พรรคการเมือง โชว์นโยบาย หวังฟื้นเศรษฐกิจไทย ทั้งเติมทุน ส่งเสริมเทคโนโลยี ยกระดับสินค้าเกษตร