ปักกิ่ง 10 ส.ค.- จีนประกาศจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และกล่าวหาสหรัฐที่ออกนโยบายใหม่เพื่อจำกัดการลงทุนในเทคโนโลยีจีนว่า กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างร้ายแรง
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ทางออนไลน์ว่า รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างยิ่งและคัดค้านอย่างจริงจังต่อการที่สหรัฐยืนกรานออกมาตรการจำกัดการลงทุนในจีน และได้แสดงความไม่พอใจทางการทูตต่อสหรัฐแล้ว การกระทำของสหรัฐเป็นความพยายามต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์และลดทอนความเป็นจีน ขอเตือนว่าจีนจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศอย่างเด็ดเดี่ยว คาดกันว่ามาตรการจำกัดดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ปี 2567
ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่า คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐที่ให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจำกัดการลงทุนในจีนที่เป็นการลงทุนภาคไฮเทคที่มีความอ่อนไหวอย่างเซมิคอนดักเตอร์ การคำนวณเชิงควอนตัม (quantum computing) และปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (artificial intelligence) เป็นการเบี่ยงเบนอย่างร้ายแรงจากหลักการเศรษฐกิจแบบตลาดและการแข่งขันเสรีที่สหรัฐประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด กระทบต่อการตัดสินใจบริหารงานตามปกติของธุรกิจ ทำลายระเบียบการค้าสากล และกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมโลก จีนขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งในเรื่องนี้และขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ยักษ์ใหญ่ด้านไฮเทคของจีนอย่างอาลีบาบา, ไป่ตู้, ไบแดนซ์ และเทนเซ็นต์ ได้สั่งชิปที่มีความจำเป็นต่อระบบเอไอแบบรู้สร้าง (generative artificial intelligence systems) จากบริษัทเอ็นวิเดีย (Nvidia) ในสหรัฐมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 175,550 ล้านบาท) เพราะวิตกว่าสหรัฐจะเริ่มจำกัดการส่งออกในเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย