หุบเขามรณะในสหรัฐอุณหภูมิพุ่ง 54 องศาเซลเซียส

แคลิฟอร์เนีย 12 ก.ค. – คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมฝั่งตะวันตกของสหรัฐทำให้อุณหภูมิที่หุบเขามรณะ หรือเดธวัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 54 องศาเซลเซียส และกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ (NWS) เผยว่า บันทึกอุณหภูมิที่หุบเขามรณะได้สูงถึง 54 องศาเซลเซียสเมื่อวันเสาร์ ซึ่งหากได้รับตรวจสอบก็จะกลายเป็นสถานที่ที่ร้อนระอุที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นความร้อนสูงที่ปกคลุมหลายพื้นที่ของภูมิภาค และเตือนประชาชนว่าอุณหภูมิสูงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงวัย ในขณะเดียวกัน เครื่องวัดอุณหภูมิที่ตั้งอยู่ด้านนอกศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวดังกล่าวบันทึกอุณหภูมิก่อนถึงเวลา 16.00 น. ในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นได้สูงถึง 56.6 องศาเซลเซียส แม้เจ้าหน้าที่หน่วยงานอุทยานแห่งชาติระบุว่า เครื่องวัดอุณหภูมิมักวัดอุณหภูมิได้สูงกว่าที่ทางการรายงานก็ตาม คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมในหลายพื้นที่ของภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์หรือตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ ยังส่งผลกระทบต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้าและทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่หลายแห่ง ไฟป่าบูตเลก (Bootleg Fire) ในพื้นที่ทางใต้ของรัฐออริกอนที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา เผาไหม้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฟรีมองต์-วิเนมาแล้วราว 364,000 ไร่จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ ขณะนี้ไฟป่ายังคงลุกลามไปตามเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างรัฐออริกอนกับรัฐแคลิฟอร์เนีย จนทำให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองรัฐวิตกกังวลว่าอาจเกิดไฟดับที่ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนและภาคธุรกิจจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย

คลื่นความร้อนสูงถล่มแคนาดา ตายแล้ว 134 ราย

แวนคูเวอร์ 30 มิ.ย. – คลื่นความร้อนสูงเป็นประวัติการณ์ที่กำลังปกคลุมภาคตะวันตกของแคนาดาและภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 134 รายที่เมืองแวนคูเวอร์และพื้นที่โดยรอบในรัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา ตำรวจแคนาดาระบุในแถลงการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างกะทันหันอย่างน้อย 134 รายในเมืองแวนคูเวอร์และพื้นที่โดยรอบตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจเมืองแวนคูเวอร์เผยว่า ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตกว่า 65 รายในเมืองแวนคูเวอร์ตั้งแต่วันศุกร์ ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับคลื่นความร้อน ส่วนทางการท้องถิ่นอื่น ๆ ระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตกะทันหันอีกหลายราย แต่ยังไม่ได้ประกาศยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด เอนไวรอนเมนต์แคนาดา (Environment Canada) หน่วยงานด้านสภาพอากาศของแคนาดา เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่แคนาดาทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่สามติดต่อกันเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองลิตตันในรัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองแวนคูเวอร์ไปทางตะวันออกราว 250 กิโลเมตร โดยมีอุณหภูมิสูงถึงสูงถึง 49.5 องศาเซลเซียส คลื่นความร้อนสูงที่แผ่ขยายมาจากรัฐออริกอนในภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ของสหรัฐมายังดินแดนนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ของแคนาดาเกิดจากหย่อมความกดอากาศสูงที่ปกคลุมพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐรายงานว่า เมืองพอร์ตแลนด์ของรัฐออริกอนและเมืองซีแอตเทิลในรัฐวอชิงตัน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ มีอุณหภูมิพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกสถิติอุณหภูมิตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1940 โดยที่เมืองพอร์ตแลนด์มีอุณหภูมิสูงถึง 46.1 องศาเซลเซียส และเมืองซีแอตเทิลมีอุณหภูมิ 42.2 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์.-สำนักข่าวไทย

...