อีลอน มัสก์

วอชิงตัน 18 ก.พ.- มีผู้ชุมนุมใน 2 เมืองของสหรัฐ ประท้วงต่อต้านนโยบายปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลกลางซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้งให้นายอีลอน มัสก์เป็นผู้ดูแล นายมัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาลหรือโดจ (DOGE) ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อลดขนาดองค์กรและลดรายจ่ายที่สูญเปล่า ส่งผลให้มีการเลิกจ้างลูกจ้างภาครัฐเป็นจำนวนมาก ประชาชนหลายพันคนชุมนุมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แสดงความไม่พอใจว่า นายมัสก์และโดจมีอำนาจมากเกินไป ขอให้รัฐสภาเข้าแทรกแซงและยกเลิกสิ่งที่นายทรัมป์และนายมัสก์ได้ตัดสินใจไปแล้ว ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าวว่า นายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา และทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันที่เมืองออสติน เมืองเอกของรัฐเท็กซัส ประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมประท้วงแบบเดียวกัน เรียกร้องให้รัฐสภาเข้าแทรกแซง และเห็นว่าโดจไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของประชาชน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ทำเนียบขาวระบุว่าเป็นลูกจ้างพิเศษ ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ด้วยกัน พูดเรื่องสื่อพยายามเสี้ยมให้ทั้ง 2 คนแตกคอกัน

วอชิงตัน 13 ก.พ.- นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีของอินเดียเดินทางถึงสหรัฐแล้ว เพื่อพบหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายกรัฐมนตรีโมดีเดินทางถึงสหรัฐเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเยือนเป็นเวลา 2 วัน ถือเป็นผู้นำต่างชาติคนที่ 3 ที่พบกับนายทรัมป์ที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยมีกำหนดพบกันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ แหล่งข่าวเผยว่า นายโมดีพร้อมให้ “ของขวัญ” แก่นายทรัมป์ ด้วยการรับปากเพิ่มการซื้อก๊าซธรรมชาติ ยานยนต์ต่อสู้ และเครื่องยนต์เครื่องบินจากสหรัฐ การเจรจาข้อตกลงเรื่องสินค้าเกษตรสหรัฐส่งออกมาอินเดียและการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์ การลดภาษีศุลกรกรให้สินค้าสหรัฐสิบกว่าประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ อุปกรณ์ผ่าตัด สารเคมี ขณะเดียวกันนายโมดีต้องการความช่วยเหลือจากนายทรัมป์เรื่องนายโกตัม อดานี มหาเศรษฐีชาวอินเดียที่ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องร้องในเดือนพฤศจิกายนเรื่องติดสินบน กำหนดการแรกของนายโมดีทันทีที่เดินทางถึงสหรัฐ คือ การพบกับนางทัลซี กับบาร์ด วัย 43 ปีที่เพิ่งได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติในวันเดียวกัน สื่อของอินเดียรายงานว่า การที่นางกับบาร์ด พบกับผู้นำอินเดีย สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านข่าวกรอง เพราะโดยปกติแล้วผู้มีตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองมักจะไม่พบกับผู้นำต่างชาติ แหล่งข่าวเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีโมดีมีกำหนดพบกับนายอีลอน มัสก์ เพื่อพูดคุยเรื่องที่สตาร์ลิงก์ของนายมัสก์ต้องการให้บริการบรอดแบนด์ดาวเทียมในอินเดียมานานแล้ว แต่ติดขัดที่นายมูเกซ อัมบานี มหาเศรษฐีชาวอินเดียต้องการให้เปิดประมูล […]

วอชิงตัน 10 ก.พ.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐคาดหวังว่า นายอีลอน มัสก์ จะตรวจพบการฉ้อโกงและการประพฤติมิชอบมูลค่ามหาศาลในกระทรวงกลาโหม ระหว่างที่เป็นผู้นำการตรวจสอบบัญชีกระทรวงกลาโหม ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ที่มีการผยแพร่บทสัมภาษณ์บางส่วนเมื่อเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาจะบอกกับนายมัสก์ภายใน 24 ชั่วโมงให้ตรวจสอบกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นจะบอกให้ตรวจสอบกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คาดว่าจะตรวจพบการฉ้อโกงและการประพฤติมิชอบมูลค่าหลายพันล้านหรือหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันงบประมาณของกระทรวงกลาโหมสหรัฐต่อปีใกล้แตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34 ล้านล้านบาท) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนในขณะนั้นได้ลงนามร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 895,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30.3 ล้านล้านบาท) ให้แก่กระทรวงกลาโหมสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 แกนนำทางการเมืองจากหลากหลายจุดยืนได้วิพากษ์วิจารณ์กระทรวงกลาโหมมานานแล้วเรื่องความสิ้นเปลืองและไร้ประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตและสหภาพข้าราชการมองว่า กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลที่มีนายมัสก์เป็นผู้นำ ไม่มีประสบการณ์ในการปรับโครงสร้างกระทรวงกลาโหม และเสี่ยงที่จะเปิดเผยโครงการที่เป็นชั้นความลับ นอกจากนี้บริษัทหลายแห่งของเขายังมีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับกระทรวงกลาโหม จึงอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน นายมัสก์ ผู้ที่ทำเนียบขาวระบุว่าเป็นลูกจ้างพิเศษของรัฐบาล ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีทรัมป์ให้เป็นผู้นำการลดขนาดหน่วยงานรัฐบาลกลาง ที่ปรึกษาของเขาได้ขอเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับในระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่ง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า น่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ทำให้ข้อมูลชั้นความลับเสี่ยงถูกเปิดเผย และกระทำโดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐสภา.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 4 ก.พ.- สมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตเข้าร่วมการประท้วงหน้าสำนักงานขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐหรือยูเอสเอด (USAID) เนื่องจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมปิดหน่วยงานนี้ สมาชิกสภาพรรคเดโมแครตที่เข้าร่วมการประท้วงได้แก่ นายเจอรัลด์ คอนนอลลีและนายโดนัลด์ ไบเออร์ สส.เขตรัฐเวอร์จิเนีย นายเจมี ราสกิน สส.เขตรัฐแมริแลนด์ นายคริสโตเฟอร์ แวน โฮลแลนด์ จูเนียร์ สว.รัฐแมริแลนด์ และนายคริสโตเฟอร์ เมอร์ฟี สว.รัฐคอนเนตทิคัต รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ USAID ได้รับอีเมลแจ้งไม่ให้เข้าทำงานที่สำนักงานเมื่อวันจันทร์ แต่ใช้การทำงานจากบ้านแทน จึงได้มีคนไปรวมตัวประท้วงหน้าสำนักงาน USAID ในกรุงวอชิงตันดีซี เพื่อคัดค้าน  ก่อนหน้านี้นาย อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีหมายเลขหนี่งของโลกที่นายทรัมป์แต่งตั้งให้รับผิดชอบการปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาล ได้ประกาศยืนยันว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าปิด USAID โดยเขาได้กล่าวมาหลายครั้งว่า งานของ USAID เป็นการสิ้นเปลืองและสหรัฐไม่ได้ประโยชน์อะไร.-812(814).-สำนักข่าวไทย

นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ให้ดูแลเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐบาลแจ้งความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ว่า กำลังหาทางปิดองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือยูเอสเอด (USAID)

วอชิงตัน 29 ม.ค.- รัฐบาลสหรัฐกำลังเสนอมาตรการจูงใจทางการเงินให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางที่ทำงานเต็มเวลาจำนวน 2 ล้านคนลาออก อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดขนาดรัฐบาลให้เล็กลง รอยเตอร์รายงานอ้างอีเมลที่ส่งถึงลูกจ้างรัฐบาลกลางว่า “โครงการลาออกแบบยืดเวลา” เปิดโอกาสให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางได้รับเงินเดือนโดยไม่ต้องทำงานไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน และในระหว่างนั้นอาจจะถูกลดหรือยกเลิกหน้าที่การทำงาน โดยให้เวลาตัดสินใจภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ ลูกจ้างที่สนใจจะต้องตอบด้วยบัญชีอีเมลของรัฐบาลและพิมพ์คำว่า “ลาออก” ในอีเมล อีเมลดังกล่าวระบุด้วยว่า รัฐบาลคาดหวังว่าจะมีกำลังคนที่คล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น แม้ว่ากองทัพและหน่วยงานบางแห่งจะมีจำนวนคนทำงานเพิ่มขึ้น แต่หน่วยงานส่วนใหญ่จะถูกลดขนาดลงผ่านการปรับโครงสร้างและเลิกจ้าง โครงการนี้เปิดให้แก่ลูกจ้างรัฐบาลกลางทุกหน่วยงาน ยกเว้นคนทำงานด้านคนเข้าเมือง ความมั่นคงแห่งชาติ และไปรษณีย์ ปัจจุบันสหรัฐมีลูกจ้างรัฐบาลกลางไม่รวมงานไปรษณีย์ประมาณ 2.3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 2 ของแรงงานนอกภาคเกษตรทั้งหมด และลดลงมาตลอดหลายทศวรรษ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ (NBC News) รายงานอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ประเมินว่า จะมีคนเข้าร่วมโครงการร้อยละ 5-10 ช่วยประหยัดงบประมาณได้ราว 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.37 ล้านล้านบาท) ด้านสหภาพลูกจ้างคลังแห่งชาติ (NTEU) ที่เป็นตัวแทนลูกจ้าง 150,000 คนในหน่วยงานรัฐบาล 35 แห่งเตือนสมาชิกว่าอย่าลาออกตามที่อีเมลล่อลวงหรือข่มขู่ นายอีลอน มัสก์ […]

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ทำให้เกิดกระแสการคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ อีกครั้ง เมื่อเขาเปลี่ยนชื่อบัญชีผู้ใช้งานในสื่อสังคมออนไลน์ แอปพลิเคชั่น “เอ็กซ์” ของเขา เป็น “เคคิอัส แม็กซิมัส” (Kekius Maximus)

ฟีนิกซ์ 23 ธ.ค.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐย้ำว่า ประธานาธิบดีสหรัฐคือเขา ไม่ใช่นายอีลอน มัสก์ ตามที่ฝ่ายต่อต้านเขาพยายามปั่นกระแสอยู่ในขณะนี้ นายทรัมป์วัย 78 ปี กล่าวกับผู้สนับสนุนที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนาเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาจะมีคำสั่งให้คนทำงานของหน่วยงานรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน ไม่เช่นนั้นจะถูกเลิกจ้างทันที และจะตั้งกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลที่มีนายมัสก์เป็นผู้ดูแล แต่ไม่ใช่ประธานาธิบดีตามกระแสข่าวหลอกลวงในขณะนี้ที่ว่า เขาได้มอบตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่นายมัสก์ นายทรัมป์กล่าวถึงนายมัสก์ วัย 53 ปีว่า ทำงานได้ยอดเยี่ยม แต่ไม่สามารถเป็นประธานาธิบดีสหรัฐได้ เพราะไม่ได้เกิดในสหรัฐ นายมัสก์เกิดที่กรุงพริทอเรียของแอฟริกาใต้ มีสัญชาติแอฟริกาใต้ตามบิดา สัญชาติแคนาดาตามมารดา และได้รับสัญชาติอเมริกันเมื่อปี 2545 กระแสข่าวเรื่องมัสก์คือประธานาธิบดีตัวจริง ไม่ใช่ทรัมป์เกิดขึ้นเมื่อเขาและทรัมป์คัดค้านร่างงบประมาณฉบับแรกที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเห็นชอบ ทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราวหรือชัตดาวน์หลังเข้าสู่วันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ดี รัฐสภาสามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ในเช้าวันเสาร์ หลังจากพ้นเส้นตายไปไม่กี่ชั่วโมง.-814.-สำนักข่าวไทย  

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- สหรัฐเผชิญวิกฤติงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ โดยหากไม่มีทางออกก็จะต้องชัตดาวน์ในวันเสาร์นี้ วิกฤติครั้งนี้มองกันว่าเริ่มต้นมาจากนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่จะทำหน้าที่ในรัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นายมัสก์ต่อต้านร่างกฎหมายงบประมาณเดิม ทำให้นายทรัมป์ต่อต้านไปด้วย ด้านพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์จึงได้เสนอร่างงบประมาณใหม่ขึ้นมาแทน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิมทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่รับรองเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะไม่มีกฎหมายทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่หน่วยงานรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณใช้ หรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ร่างงบประมาณใหม่ที่ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐมีเนื้อหาไม่ต่างจากร่างงบประมาณที่นายทรัมป์และนายมัสก์ตำหนิว่าอ่อนข้อให้แก่พรรคเดโมแครตมากเกินไป โดยร่างงบประมาณใหม่ได้ขยายเวลาจัดสรรงบประมาณไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 จัดสรรงบบรรเทาภัยพิบัติ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) และระงับการใช้เพดานหนี้สาธารณะเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ทรัมป์สามารถผ่านมาตรการลดภาษีตามที่หาเสียงไว้ ขณะนี้ยังไม่ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาชุดปัจจุบันที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตและสมาชิกวุฒิสภาอิสระคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากไม่มีทางออกจะเป็นการชัตดาวน์ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีซ้ำสอง จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่างสมัยแรก และจะกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนช่วงหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่.-812(814).-สำนักข่าวไทย  

อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ส่อที่จะวืดค่าตอบแทนจากบริษัทเทสลาของเขาสูงเกือบ 2 ล้านล้านบาท เมื่อศาลตัดสินว่า ไม่เป็นธรรม

นิวยอร์ก 17 พ.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐไปร่วมชมการแข่งขันของสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือยูเอฟซี (UFC) พร้อมกับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้สนับสนุน นายทรัมป์ วัย 78 ปี และนายมัสก์ วัย 53 ปี ไปชมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานหรือเอ็มเอ็มเอ (MMA) ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างล้นหลามจากแฟนกีฬาภายในสนามกีฬาในร่มอเนกประสงค์ เมดิสัน สแควร์ การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์กของสหรัฐ โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐนั่งชมการแข่งขันโดยมีมัสก์ขนาบด้านซ้าย และนายดานา ไวท์ วัย 55 ปี ประธานยูเอฟซีขนาบด้านขวา นายทรัมป์เคยใช้สนามกีฬาย่านแมนฮัตตันแห่งนี้เป็นเวทีหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม โดยระดมผู้มีชื่อเสียงหลายคนมาขึ้นเวที หนึ่งในนั้นคือนายโทนี ฮินช์คลิฟฟ์ นักเล่าเรื่องตลกที่พูดถึงเครือรัฐเปอร์โตรีโกว่า เป็นเกาะลอยน้ำแห่งขยะ จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทรัมป์มีกำหนดทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า.-820(814).-สำนักข่าวไทย