ออสเตรเลียจะเลิกบังคับคนติดโควิดกักตัวในบ้าน

ซิดนีย์ 30 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เผยว่า ออสเตรเลียจะยุตินโยบายบังคับให้ผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ต้องกักตัวในบ้านเป็นเวลา 5 วัน ขณะที่แพทย์เตือนว่า จะทำให้คนในสังคมเสี่ยงอันตราย นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี เผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า นับตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมเป็นต้นไป ผู้ติดโควิดสามารถตัดสินใจเองว่าจะกักตัวหรือไม่ ออสเตรเลียต้องมีนโยบายที่ส่งเสริมความยืดหยุ่นและการสร้างศักยภาพ ควบคู่ไปกับการลดการพึ่งพาการแทรกแซงจากรัฐบาล และเมื่อนโยบายบังคับกักตัวไม่มีผลบังคับใช้ การลากักตัวโดยได้รับค่าจ้างสำหรับผู้ไม่ทำงานประจำก็จะไม่มีผลอีกต่อไป ผู้นำออสเตรเลียเผยเรื่องนี้หลังจากออสเตรเลียลดระยะเวลากักตัวจาก 7 วัน เหลือ 5 วัน ได้ประมาณ 1 เดือน ด้าน นพ.พอล เคลลี นายแพทย์ใหญ่ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาล กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือควรยุติการใช้มาตรการรับมือฉุกเฉิน เพราะถึงเวลาที่จะต้องคิดหาวิธีการใหม่ในการรับมือกับเชื้อไวรัสที่จะยังคงอยู่ไปอีกหลายปี อย่างไรก็ดี มีแพทย์หลายคนติงว่า การยุติการบังคับกักตัวกับผู้ติดโควิดจะทำให้คนในสังคมตกอยู่ในความเสี่ยง ศ.สตีฟ ร็อบสัน ประธานแพทยสมาคมออสเตรเลีย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ก่อนรัฐบาลประกาศเรื่องนี้ว่า ผู้ที่ผลักดันให้ยกเลิกการกักตัวเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ออสเตรเลียมียอดติดเชื้อสะสม 10 ล้าน 2 […]

ออสเตรเลียจะจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านทุจริต

รัฐบาลออสเตรเลียกล่าววันนี้ว่า จะเสนอร่างกฎหมายเพื่อให้มีการจัดั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หลังจากมีการถกเถียงกันมาเป็นเวลาหลายปีเกี่ยวกับความจำเป็นในการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อกำกับดูแลการกระทำของนักการเมือง

ออสเตรเลียจัดพิธีถวายความอาลัยควีนเอลิซาเบธที่ 2

ซิดนีย์ 22 ก.ย.- ออสเตรเลียจัดพิธีถวายความอาลัยระดับประเทศในวันนี้แด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษที่สวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายน และมีพระราชพิธีพระบรมศพที่อังกฤษเมื่อวันที่ 19 กันยายน ออสเตรเลียประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการพิเศษ มีแขกผู้มีเกียรติประมาณ 600 คนเข้าร่วมในพิธีถวายความอาลัยที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา โดยมีวีโอเล็ต เชอริแดน ผู้เฒ่าชนพื้นเมืองของออสเตรเลียเป็นผู้เปิดงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียที่เพิ่งกลับจากการเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพที่กรุงลอนดอนเมื่อวันก่อนกล่าวในพิธีถวายความอาลัยว่า เป็นการรำลึกถึงพระองค์บนดินแดนที่มีการสานต่อวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สุดในโลก ออสเตรเลียมีการเปลี่ยนผ่านตลอดรัชสมัย  70 ปี โดยในระหว่างนั้นพระองค์ได้เสด็จฯ เยือนในฐานะองค์พระประมุขทั้งหมด 16 ครั้ง ช่วงที่เสด็จฯ เยือนครั้งแรกในปี 2497 อังกฤษกำลังเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และมีคนในออสเตรเลีย 7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรยินดีต่อการเสด็จฯ ของพระองค์ ทรงภาคภูมิใจกับความก้าวหน้าของออสเตรเลียและทรงอยู่เคียงข้างออสเตรเลียเสมอ ดังนั้นสิ่งที่ชาวออสเตรเลียจะถวายแด่ราชวงศ์และความทรงจำที่มีต่อพระองค์จึงไม่ใช่รูปแกะสลักหินอ่อนหรือแผ่นป้ายโลหะ แต่เป็นการให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในพิธีถวายความอาลัย ขณะเดียวกันที่นครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย ผู้ประท้วงประมาณ 600 คนนำโดยกลุ่มนักรบแห่งชาวอะบอริจินผู้ต่อต้าน เดินขบวนไปชุมนุมหน้าสถานกงสุลอังกฤษ แล้วประทับฝ่ามือทาสีแดงลงบนผนังอาคาร พร้อมกับเรียกร้องให้ยกเลิกระบอบกษัตริย์ ปัจจุบันออสเตรเลียเป็น 1 ใน 15 ประเทศเครือจักรภพที่มีกษัตริย์อังกฤษเป็นองค์พระประมุข.-สำนักข่าวไทย

วาฬเกยตื้นในออสเตรเลียตายเพิ่มอีก 200 ตัว

โฮบาร์ต 22 ก.ย.- ออสเตรเลียแจ้งวันนี้ว่า วาฬนำร่องประมาณ 200 ตัวตาย หลังจากเกยตื้นหมู่บนชายหาดรัฐแทสเมเนีย หลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อนมีวาฬสเปิร์ม หรือวาฬหัวทุยเพศผู้อายุน้อยสิบกว่าตัว เกยตื้นหมู่และตายที่เกาะคิงไอส์แลนด์ที่อยู่ระหว่างเกาะแทสเมเนียและทวีปออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าออสเตรเลียเผยกับสื่อที่ชายหาดโอเชียนบีช ทางฝั่งตะวันตกของแทสเมเนียที่เป็นเกาะทางใต้ของทวีปออสเตรเลีย และเป็นจุดที่วาฬเกยตื้นว่า มีวาฬเพียง 35 ตัวที่มีชีวิตรอด จากวาฬทั้งหมดประมาณ 230 ตัวที่มีคนพบเกยตื้นหมู่เมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่จะหาทางนำวาฬที่รอดชีวิตกลับสู่ทะเล เป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีวาฬตายจำนวนมาก ทั้งที่ชาวบ้านละแวกนั้นช่วยกันนำผ้ามาห่มแล้วรดน้ำรักษาความชุ่มชื้นให้แก่วาฬเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้การเกยตื้นหมู่ครั้งนี้มีอัตราการตายสูงมากมาจากสภาพชายหาดที่เปิดโล่งและมีคลื่นซัดเข้ามาตลอดเวลา ต่างจากการเกยตื้นหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศเมื่อปี 2563 ที่อ่าวแมคควารี ซึ่งอยู่ใกล้กันและเป็นน่านน้ำที่มีการกำบังคลื่นลม ครั้งนั้นมีวาฬนำร่องเกยตื้นหมู่เกือบ 500 ตัว ตายไปมากกว่า 300 คน แม้ว่าอาสาสมัครพยายามช่วยเหลือตลอดหลายวันท่ามกลางกระแสน้ำที่เย็นจัด.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียหาสาเหตุวาฬเกยตื้นหมู่ตาย 14 ตัว

ซิดนีย์ 21 ก.ย.- เจ้าหน้าที่สอบสวนด้านสัตว์ป่าของออสเตรเลียกำลังหาสาเหตุที่ทำให้วาฬสเปิร์มหรือวาฬหัวทุยเพศผู้อายุน้อยจำนวน 14 ตัว เกยตื้นหมู่และตายบริเวณชายหาดห่างไกลของรัฐแทสเมเนียที่เป็นเกาะทางตอนใต้ของทวีปออสเตรเลีย นักชีววิทยาและสัตวแพทย์ของสำนักงานอนุรักษ์ธรรมชาติประจำรัฐแทสมาเนียเดินทางไปหาสาเหตุที่เกาะคิงไอส์แลนด์ นอกชายฝั่งทางเหนือของเกาะแทสเมเนีย ขณะที่การตรวจสอบทางอากาศไม่พบวาฬเกยตื้นเพิ่มเติม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เหตุวาฬเกยตื้นหมู่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอุบัติเหตุ วาฬอาจว่ายเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากเกินไปเพื่อกินอาหารบริเวณนั้น แล้วเกยตื้นบนชายหาดในช่วงที่น้ำลง เรื่องนี้เป็นข้อสันนิษฐานสำหรับเหตุการณ์ล่าสุด คาดว่าวาฬเกยตื้นหมู่ในวันอาทิตย์ ก่อนมีคนพบในวันจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายสำหรับรัฐแทสเมเนีย เพราะปี 2563 เคยมีวาฬเกยตื้นหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียมากถึง 470 ตัว อาสาสมัครพยายามช่วยอยู่หลายวัน แต่ไม่สามารถช่วยวาฬนำร่องที่ตายกลางกระแสน้ำเย็นจัดมากกว่า 300 ตัว.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเตรียมถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพควีน

ซิดนีย์ 19 ก.ย.- ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเครือจักรภพ 15 ประเทศที่มีกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรทรงเป็นพระประมุข เตรียมถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันนี้ สถานีโทรทัศน์หลัก ๆ ในออสเตรเลียจะถ่ายทอดสดพระราชพิธี และจะออกอากาศรายงานพิเศษหลายชั่วโมงก่อนการถ่ายทอดสด ทางการเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรียจะตั้งจอขนาดใหญ่ให้ประชาชนชมการถ่ายทอดสดที่จัตุรัสสหพันธ์ ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ส่วนที่สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีการลดธงครึ่งเสาถวายความอาลัย สะพานแห่งนี้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯ ครั้งแรกในปี 2497 หลังจากนั้นเสด็จฯ รวมทั้งหมด 16 ครั้ง ร้านค้าแห่งหนึ่งที่ขายสินค้าอังกฤษในเมืองโกลด์โคสต์ รัฐควีนส์แลนด์ โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนลูกค้ามาชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพด้วยกัน โดยที่ทางร้านจะมีชาและขนมบริการฟรี ออสตรเลียจะถวายความอาลัยระดับประเทศในวันที่ 22 กันยายน ซึ่งเป็นวันหยุดราชการพิเศษ โดยจะมีการสงบนิ่งในเวลา 11:00 น.ตามเวลาออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียยืนยันไม่แบนนักท่องเที่ยวรัสเซีย

นายริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย ยืนยันว่า ออสเตรเลียจะไม่ห้ามนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าประเทศ แม้ว่าใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ทำสงครามกับยูเครนก็ตาม

ออสเตรเลียจะมีฝนตกหนักผิดปกติเพราะลานีญา

ซิดนีย์ 13 ก.ย.- สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเตือนวันนี้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียจะเผชิญกับฝนตกหนักผิดปกติในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากมีการยืนยันว่าปรากฏการณ์ลานีญากำลังเกิดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และน่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียยืนยันตามที่เคยออกคำแนะนำเรื่องสภาพอากาศของออสเตรเลียประจำปี 2565 ว่า ฤดูร้อนปีนี้จะมีฝนตกหนักและลมแรง หลังจากก่อนหน้านี้พยากรณ์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดสภาพอากาศดังกล่าว สำนักอุตุนิยมวิทยาฯ จัดให้พื้นที่ริมฝั่งตะวันออกที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่นี้เพิ่งเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อต้นนี้ โดยระบุว่า ลานีญาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้สภาพอากาศของออสเตรเลียมีฝนตกมากขึ้น และมีโอกาสมากกว่าร้อยละ 80 ที่พื้นที่ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียจะมีฝนตกมากกว่าปริมาณเฉลี่ย ออสเตรเลียเกิดไฟป่ารุนแรงที่สุดในหนึ่งชั่วอายุคนเมื่อปลายปี 2562 จนถึงต้นปี 2563 จากนั้นเกิดลานีญา 2 ครั้ง ทำให้ฝนตกหนักและแม่น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง ลานีญาเป็นปรากฏการณ์ที่ผิวน้ำทะเลทางฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ ขณะที่ผิวน้ำทะเลทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เป็นเหตุให้เกิดฝนตกหนักทางตอนกลางและตะวันออกของออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียอาจใช้ภาพบุคคลสำคัญบนธนบัตรแทนควีนอังกฤษ

ซิดนีย์ 13 ก.ย. – รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียจะไม่เปลี่ยนไปใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แทนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 บนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และอาจเปลี่ยนไปใช้รูปบุคคลสำคัญของออสเตรเลียแทน นายแอนดรูว์ ลีห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย เผยวันนี้ว่า แม้เหรียญกษาปณ์ของออสเตรเลียมีข้อกำหนดให้ใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ แต่การตัดสินใจใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 บนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลียนั้นไม่ได้อยู่ในข้อกำหนด และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ นายลีห์ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะพิจารณาเปลี่ยนพระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษเป็นบุคคลสำคัญของออสเตรเลีย เช่น นายเอ็ดเวิร์ด มาโบ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในดินแดนชนพื้นเมืองหรือไม่ว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คือการเปลี่ยนพระบรมฉายาทิสสลักษณ์บนเหรียญกษาปณ์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้จุดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของออสเตรเลียในฐานะประเทศในเครือจักรภพของอังกฤษ ซึ่งเป็นรัฐกึ่งเอกราชที่ยอมรับพระมหากษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขแห่งรัฐ ขณะที่นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า เขายังไม่ได้คิดเรื่องการเปลี่ยนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนโรงกษาปณ์ออสเตรเลียระบุว่า จะออกเหรียญกษาปณ์ที่ไม่มีพระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 2566.-สำนักข่าวไทย  

ชายสูงวัยออสเตรเลียถูกจิงโจ้ที่เลี้ยงไว้ทำร้ายจนตาย

เพิร์ท 13 ก.ย. – ตำรวจออสเตรเลียเผยว่า ชายชาวออสเตรเลีย วัย 77 ปี เสียชีวิตหลังถูกจิงโจ้ที่คาดว่าเขาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงทำร้ายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า หน่วยกู้ชีพของออสเตรเลียได้รับแจ้งเหตุญาติพบชายออสเตรเลีย วัย 77 ปี ที่บ้านพักในเมืองเรดมอนด์ ทางตอนใต้ของนครเพิร์ทห่างออกไปราว 400 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ โดยที่ร่างกายของเขามีบาดแผลถูกทำร้ายอย่างสาหัส หน่วยกู้ชีพได้แจ้งเหตุดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งมีนครเพิร์ทเป็นเมืองเอก หลังจิงโจ้ที่ชายคนดังกล่าวเลี้ยงไว้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าใกล้ชายคนนี้จนทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โฆษกตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดสินใจยิงจิงโจ้ตัวดังกล่าวตาย เนื่องจากมันมีท่าทีเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ตำรวจคาดว่าชายคนดังกล่าวถูกจิงโจ้ทำร้ายเมื่อวันอาทิตย์ และเชื่อว่าเขานำจิงโจ้ตัวนี้มาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีประชากรจิงโจ้ราว 50 ล้านตัว และมักไม่ค่อยเกิดเหตุจิงโจ้ทำร้ายมนุษย์ อย่างไรก็ดี ชายคนดังกล่าวนับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากการถูกจิงโจ้ทำร้ายนับตั้งแต่ปี 2479.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ออสเตรเลียชี้ยังไม่เหมาะพูดเรื่องแยกตัวจากอังกฤษ

แคนเบอร์รา 12 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการเปิดลงประชามติให้ออสเตรเลียเป็นสาธารณรัฐและแยกตัวออกจากประเทศในเครือจักรภพของอังกฤษ แต่ระบุว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสม เนื่องจากอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซีกล่าวในรายการ ‘เอบีซี นิวส์ เบรกฟาสต์’ ของออสเตรเลียหลังถูกถามว่าจะเปิดลงประชามติให้ออสเตรเลียเป็นสาธารณรัฐหากเขาชนะการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะพูดถึงประเด็นนี้ แต่สิ่งที่พึงกระทำในตอนนี้คือการไว้ทุกข์ต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทั้งยังระบุว่า นโยบายที่เขาผลักดันให้เกิดขึ้นขณะที่ดำรงตำแหน่งในสมัยนี้ก็คือ การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญของออสเตรเลียให้ยอมรับการมีอยู่ของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย โดยมองว่าประเด็นนี้ควรสำเร็จก่อนเรื่องการเปลี่ยนประมุขของประเทศ หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี และนายเดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการเครือรัฐออสเตรเลีย จะเดินทางไปยังกรุงลอนดอนของอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันที่ 19 กันยายน ก่อนเดินทางกลับออสเตรเลียในวันที่ 21 กันยายน. -สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียประกาศรับรองกษัตริย์องค์ใหม่

ออสเตรเลียทำพิธีประกาศรับรองพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 เป็นพระประมุขของออสเตรเลีย อย่างเป็นทางการ พร้อมกำหนดวันไว้ทุกข์แห่งชาติ 22 ก.ย.นี้

1 27 28 29 30 31 174
...