student using smartphone

ท่าทีวัยรุ่นหลังออสเตรเลียห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียล

ซิดนีย์ 29 พ.ย.- วัยรุ่นในออสเตรเลียและอีกหลายประเทศแสดงความคิดเห็น หลังจากรัฐสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย วุฒิสภาออสเตรเลียผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวเเมื่อเย็นวันที่ 28 พฤศจิกายน หลังจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีสายกลางซ้ายได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านสายอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 และจะกลายเป็นมาตรฐานให้แก่ประเทศอื่นในการบังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องมีความรับผิดชอบในการปกป้องเด็ก นักเรียนหญิงในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียที่มีอายุครบ 16 ปีได้ไม่กี่วันยอมรับว่า โซเชียลมีเดียมีส่วนทำให้เกิดประเด็นเรื่องการเปิดเผยร่างกายและการรังแกทางไซเบอร์ แต่การห้ามใช้โดยสิ้นเชิงอาจผลักให้เด็กหลุดไปยังพื้นที่อันตรายและไม่เปิดเผยในโลกอินเทอร์เน็ต และจะสร้างคนรุ่นที่สามารถใช้เทคโนโลยีหลบหลีกการปิดกั้นได้เก่งยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผลที่ทางการต้องการ ส่วนที่เบลเยียมซึ่งห้ามเด็กใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในกรุงบรัสเซลส์และแคว้นที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เด็กหญิงวัย 12 ปี มองว่า กฎหมายของออสอตรเลียไม่สมเหตุสมผล ทางการควรแบนบัญชีต้นทางที่โพสต์สิ่งไม่เหมาะสม มากกว่าการห้ามเด็กใช้งานอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับเด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งในสเปนที่ไม่เห็นด้วย เพราะคนจำนวนมากที่ทำอาชีพนี้อาจได้รับผลกระทบ ขณะที่เด็กในวัยของเขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้านเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นในคิวบาเผยว่า มีเพื่อนสนิทถูกข่มขู่ทางไซเบอร์มาโดยตลอด จึงอยากให้ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งคิวบาบังคับใช้กฎหมายแบบออสเตรเลีย.-814.-สำนักข่าวไทย

people using smartphones

สภาออสเตรเลียผ่าน กม.ห้ามเด็กใช้สื่อออนไลน์

แคนเบอร์รา 29 พ.ย.- รัฐสภาออสเตรเลียลงมติผ่านกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากมองว่าเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของเด็ก ถือเป็นประเทศที่มีกฎหมายคุมเข้มเรื่องการใช้งานสื่อออนไลน์ในเด็กมากที่สุดในโลก รัฐสภาออสเตรเลียผ่านกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากการอภิปรายกันอย่างเผ็ดร้อนหลายวันจนถึงช่วงดึกวานนี้ วุฒิสภาหรือสภาสูงลงมติให้ผ่านกฎหมายดังกล่าว โดยที่รัฐบาลพรรคแรงงานฝ่ายกลางซ้ายของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม เป็นการกำหนดมาตรฐานให้ประเทศอื่น ๆ ปฏิบัติตามในการผลักดันระดับโลกเพื่อควบคุมอำนาจของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ คาดว่ากฎหมายจะบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2568  กำหนดมาตรการควบคุมการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้มงวดที่สุดในโลก และจะบังคับให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่า มีการคุ้มครองการยืนยันอายุก่อนเข้าใช้งาน การที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นด่านสุดท้ายทางนิติบัญญัติ หลังจากที่สภาล่างหรือสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีอัลบาเนซี ซึ่งกำลังพยายามเพิ่มคะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ย้ำเตือนก่อนหน้านี้ว่า สื่อสังคมออนไลน์โซเชียลก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของเด็ก และเขากำลังมองหาการสนับสนุนจากผู้ปกครอง ให้ออสเตรเลียเดินหน้าแผนทดลองใช้ระบบตรวจสอบอายุ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลชีวภาพหรือการระบุตัวตนของรัฐบาลเพื่อบังคับใช้การห้ามดังกล่าว การทดลองดังกล่าวจะดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือน และผลการทดลองจะได้รับการทบทวนภายในกลางปี 2568.-815(814).-สำนักข่าวไทย

“อีลอน มัสก์” โวยร่าง กม. ออสเตรเลียห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย

นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นเจ้าของแพลนฟอร์มโซเชียลมีเดีย “เอ็กซ์” หรือ ทวิตเตอร์เดิม วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออสเตรเลียที่เสนอร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี

person uses social media

ออสเตรเลียจะห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย

แคนเบอร์รา 7 พ.ย.- ออสเตรเลียเตรียมออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีเข้าถึงการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า รัฐบาลจะออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้งานเพื่อเป็นตัวช่วยในการปิดกั้นเด็กจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คาดว่ากฎหมายนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ได้เร็วที่สุดในราวปลายปีหน้า ผู้นำออสเตรเลียให้เหตุผลว่า ปัจจุบันโซเชียลมีเดียกำลังส่งผลร้ายต่อเด็ก ๆ  โดยอ้างว่าการใช้งานโซเชียลมีเดียที่มากเกินไปในเด็กมีความเสี่ยงทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยเฉพาะความเสี่ยงในเด็กผู้หญิงที่อาจถูกล่อลวงให้เปิดเผยภาพของร่างกายที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้เด็กๆ ยังอาจเจอปัญหาการถูกบุลลี่จากโซเชียลมีเดียอีกด้วย รัฐบาลออสเตรเลียจะนำเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาในปีนี้ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบก็จะมีผลบังคับใช้ในอีก 12 เดือนหลังจากรัฐสภาให้สัตยาบันรับรองแล้ว คาดว่าการออกหมายนี้น่าจะผ่านสภาได้ไม่ยาก เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านก็ให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน ขณะนี้มีหลายประเทศที่มีกฎหมายควบคุมการใช้งานโซเชียลมีเดียของเด็ก แต่ออสเตรเลียนั้นถือว่ามีความเข้มงวดมากเพราะจะไม่มีข้อยกเว้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็ก แม้ว่าเด็กจะได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครองก็ตาม โดยเมื่อปีที่แล้วฝรั่งเศสได้เสนอให้ห้ามเด็กต่ำกว่า 15 ปีใช้โซเชียลมีเดีย แต่มีข้อยกเว้นให้ใช้ได้ถ้าพ่อแม่อนุญาต ขณะที่สหรัฐใช้เวลานับสิบปีเรียกร้องให้บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มต่าง ๆ จัดหาเทคโนโลยีปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปีหากไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ ทำให้แพลตฟอร์มส่วนใหญ่ต้องปิดกั้นการเข้าถึงบริการของเด็กที่อายุน้อยกว่า 13 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย  

Trump posts he won't do another presidential debate

“ทรัมป์” ประกาศไม่ดีเบตกับ “แฮร์ริส” อีก

นิวยอร์ก 13 ก.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐประกาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า จะไม่เข้าร่วมการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบต กับนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตอีก อดีตประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในบัญชีทรูธโซเชียล (Truth Social) ของเขาว่า เมื่อนักชกล่าเงินรางวัลพ่ายแพ้ คำแรกที่ออกจากปาก คือ ต้องการชกล้างตา ผลสำรวจชี้ชัดว่า เขาชนะการดีเบตกับนางแฮร์ริสที่เป็นผู้สมัครฝ่ายซ้ายจัดของพรรคเดโมแครตในการดีเบตเมื่อคืนวันอังคาร ส่วนเธอขอให้มีการดีเบตครั้งที่ 2 ทันที เธอและโจ ไบเดน ที่หลอกลวงทำลายประเทศ ปล่อยให้อาชญากรและผู้มีปัญหาทางจิตหลายล้านคนหลั่งไหลเข้าสหรัฐโดยไร้การตรวจสอบ และปล่อยให้เงินเฟ้อทำให้ชนชั้นกลางล้มละลาย เขาได้พูดเรื่องเหล่านี้อย่างละเอียดไปแล้วในการดีเบตครั้งแรกกับไบเดน และครั้งที่ 2 กับแฮร์ริส จากนั้นทรัมป์ได้โพสต์เป็นอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดว่า คอมมาลาควรสนใจเรื่องที่ควรทำแต่ไม่ได้ทำในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และจะไม่มีการดีเบตครั้งที่ 3 การประกาศดังกล่าวเท่ากับว่า ทรัมป์และแฮร์ริสได้เผชิญหน้ากันครั้งแรกและครั้งเดียวในการดีเบตที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อค่ำวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายน ทั้งนี้ทันทีที่เสร็จสิ้นการดีเบต ทีมงานหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้ท้าทายให้ทรัมป์ขึ้นเวทีดีเบตอีกครั้ง ครั้งนั้นทรัมป์ตอบเพียงว่า อาจจะดีเบตอีกครั้งหากจัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ที่มีความเป็นธรรม ทั้งนี้ทรัมป์และผู้สนับสนุนในพรรครีพับลิกันกล่าวหานายเดวิด เมียร์และลินซีย์ เดวิส […]

นายกฯ ย้ำทุกหน่วยชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ทันเวลา

นายกฯ ประชุม คกก.ป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์ เน้นย้ำทุกหน่วยเร่งชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ทันเวลา โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาล

นายกฯ หญิงอิตาลีประกาศเลิกคู่ครองผ่านโซเชียล

โรม 21 ต.ค.- นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลีประกาศเลิกรากับคู่ครองผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากเขาแสดงความเห็นลามกในรายการโทรทัศน์ นายกรัฐมนตรีเมโลนี วัย 46 ปี ประกาศทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับนายอันเดรีย จัมบรูโนที่ดำเนินมาเกือบ 10 ปี ได้ยุติลงแล้ว ขอขอบคุณเขาที่ได้ใช้เวลายอดเยี่ยมร่วมกันมาหลายปี ผ่านพ้นปัญหามาด้วยกัน และให้สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ นั่นคือจีเนวรา บุตรสาววัย 7 ขวบ ผู้นำอิตาลีประกาศเรื่องนี้ 2 วันหลังจากนายจัมบรูโน วัย 42 ปี ที่ใช้ชีวิตคู่กับเธอโดยไม่ได้แต่งงานกัน แสดงความเห็นลามกและจับของสงวนของตนเองขณะชวนพิธีกรร่วมที่เป็นสตรีคุยเรื่องเพศในช่วงพักโฆษณา ซึ่งยังมีการถ่ายทอดสดทางสื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ของรายการ เขาแถลงผ่านตัวแทนในวันศุกร์ว่า ได้ตกลงกับบริษัทผู้ผลิตรายการว่าจะพักการทำหน้าที่พิธีกรหลังเกิดเหตุดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามจะให้คนใช้โซเชียลยืนยันตัวตน

เวียดนามจะขอให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทุกคนยืนยันตัวตน โดยให้เหตุผลว่า มีความจำเป็นต้องกวาดล้างการหลอกลวงทางออนไลน์

ชาวซูดานใช้สื่อออนไลน์ระดมความช่วยเหลือ

คาร์ทูม 20 เม.ย.- ชาวกรุงคาร์ทูมของซูดานที่ต้องติดอยู่ในบ้านเรือนนานหลายวัน เนื่องจากท้องถนนมีการสู้รบกันระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่ขัดแย้งกัน หันมาใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ และกำลังใจแก่ผู้ประสบชะตากรรมเดียวกัน กลุ่มสนทนาหลายกลุ่มในแอปพลิเคชันวอตส์แอปป์ (WhatsApp) กลายเป็นศูนย์กลางความช่วยเหลือและกระจายข่าว เช่น แจ้งเรื่องมีคนต้องการนมผงสำหรับทารก แจ้งขอให้ช่วยเติมเงินในโทรศัพท์เพื่อโทรติดต่อครอบครัว ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ช่วยกันอัปโหลดคลิปสาธิตการปฐมพยาบาลและการให้ความช่วยเหลือผู้คนในกรุงคาร์ทูมที่มีมากกว่า 5 ล้านคน นอกจากนี้ยังเปิดเว็บไซต์ชื่อคาร์ทูมเมดิคัล (Khartoum Medical) เป็นช่องทางให้แพทย์และผู้บาดเจ็บติดต่อเรื่องการรักษาพยาบาล เนื่องจากโรงพยาบาลเสียหายหนักจนไม่สามารถให้บริการได้ และการออกไปนอกบ้านเป็นเรื่องอันตราย ส่วนทวิตเตอร์มีการติดแฮชแท็กเป็นภาษาอาหรับเพื่อให้ชาวบ้านในแต่ละย่านใช้ระดมความช่วยเหลือและความสามัคคี ชาวกรุงคาร์ทูมมีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากมาหลายปี เพราะซูดานถูกนานาชาติคว่ำบาตรและสาธารณูปโภคในประเทศย่ำแย่ เช่น กระแสไฟฟ้าดับ ต้องรับการปันส่วนอาหาร แต่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะมีการโจมตีทางอกาศเกิดขึ้นในเมืองหลวงแห่งนี้ การปะทะกันระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่แย่งชิงอำนาจกันและกลายเป็นความรุนแรงมาตั้งแต่วันเสาร์ ทำให้มีพลเรือนล้มตายแล้วไม่ต่ำกว่า 270 คน.-สำนักข่าวไทย

อาร์มติดเสื้อรูปหมีพูห์ถูกต่อยกลายเป็นกระแสโซเชียล

ไทเป 11 เม.ย.- อาร์มติดเสื้อรูปหมีพูห์ถูกหมีดำไต้หวันต่อยหน้ากำลังเป็นสินค้าที่คนในสื่อสังคมออนไลน์ตามหา หลังจากจีนเปิดการฝึกซ้อมทางทหารรอบไต้หวันเพื่อแสดงความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีไต้หวันแวะพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่นครลอสแอนเจลิส สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์พากันสะดุดตาภาพนักบินกองทัพอากาศของไต้หวันนายหนึ่งที่กำลังตรวจสอบเครื่องบินขับไล่ เนื่องจากอาร์มติดเครื่องแบบของเขาเป็นรูปหมีดำฟอร์โมซาที่เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของไต้หวันถือธงชาติไต้หวันต่อยหน้าหมีพูห์อย่างเต็มแรง คล้ายกับต้องการสื่อสารไปถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่ถูกล้อเลียนว่าเหมือนหมีพูห์ หรือวินนี เดอะพูห์ ภาพนี้จุดกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมาอย่างฉับพลันตั้งแต่วันเสาร์ จนเต็มไปด้วยโพสต์ของผู้ขอซื้อที่อยู่นอกไต้หวัน อาร์มติดเสื้อนี้มี 2 แบบ จำหน่ายชิ้นละ 200 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 225 บาท) มีจุดเริ่มต้นจากร้านแห่งหนึ่งในเมืองเถาหยวน ห่างจากกรุงไทเปไปทางตะวันออก และขณะนี้จำหน่ายหมดเกลี้ยงแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ออกแบบอาร์มติดเสื้อรูปนักบินเครื่องบินขับไล่ของไต้หวันตบหัวแพนด้าที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน หลังจากจีนจัดการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่เพื่อแสดงความไม่พอใจที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นแวะเยือนไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคม 2565.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเร่งหาต้นตอเอกสารลับรั่วออกสื่อโซเชียล

วอชิงตัน 10 เม.ย.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเร่งค้นหาต้นตอที่ทำให้เอกสารลับรั่วไหลถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเอกสารทางทหารและข่าวกรองที่มีความอ่อนไหวสูง ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่สหรัฐบางคนสันนิษฐานว่าอาจเป็นฝีมือของคนในสหรัฐ เอกสารเหล่านี้มีหัวข้อกว้างขวางตั้งแต่เรื่องสงครามในยูเครน สถานการณ์ในจีน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นเอกสารรั่วครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง นับจากเว็บไซต์วิกิลีกส์สร้างความสั่นสะเทือนด้วยการปล่อยเอกสาร คลิป และโทรเลขทางการทูตมากกว่า 700,000 ชิ้นเมื่อปี 2556 นายไมเคิล มัลรอย อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐด้านตะวันออกกลางเผยว่า ความสนใจในขณะนี้มุ่งไปที่เป็นการรั่วไหลจากสหรัฐเอง เนื่องจากเอกสารรั่วส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า การสอบสวนยังอยู่ในขั้นต้น และไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นฝีมือของกลุ่มสนับสนุนรัสเซีย หรืออาจมีการตกแต่งดัดแปลงหวังทำให้เจ้าหน้าที่สับสนเรื่องต้นตอเอกสาร หรือหวังแพร่กระจายข้อมูลเท็จที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ รอยเตอร์เผยว่า ได้เห็นเอกสารที่ประทับตราว่า “ลับ” และ “ลับสุดยอด” แล้วมากกว่า 50 ชิ้นตั้งแต่มีการนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม เริ่มจากแพลตฟอร์มสนทนาดิสคอร์ด (Discord) และกระดานสนทนานิรนามโฟร์แชน (4Chan) เอกสารบางชิ้นโพสต์เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน จนกระทั่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์นำมารายงานเป็นสื่อแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เปิดการสอบสวนเรื่องนี้ในฐานะคดีอาญาแล้ว หลังจากได้รับเรื่องอย่างเป็นทางการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ขณะที่ประเทศพันธมิตรของสหรัฐที่ถูกพาดพิงถึงในเอกสารรั่วพากันเคลื่อนไหว ยูเครนเผยว่า ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงได้หารือเมื่อวันศุกร์เรื่องหาทางป้องกันเอกสารรั่วไหล หลังจากมีเอกสารรั่วประทับตราว่า “ลับ” ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์แจกแจงรายละเอียดเรื่องระบบป้องกันภัยทางอากาศเอส-300 (S-300) ของยูเครนจะถูกใช้หมดภายในวันที่ 2 พฤษภาคม […]

1 2 3 5
...