ผู้นำสหรัฐและเกาหลีใต้เตือนเกาหลีเหนือจะตอบโต้หากโจมตี

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ ตกลงกระชับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐในเกาหลีใต้อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมให้สัญญาว่า จะลงมือดำเนินการอย่างฉับพลัน เด็ดขาดและครอบคลุม หากถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ

สหรัฐ-ฟิลิปปินส์ซ้อมระดมยิงเรือรบในทะเลจีนใต้

สหรัฐและฟิลิปปินส์ระดมยิงใส่เรือรบที่จำลองว่าเป็นเรือศัตรูในทะเลจีนใต้ในวันนี้ อันเป็นช่วงสุดท้ายของการฝึกซ้อมทางทหารที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ประเทศนี้ซ้อมด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้

ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียพบผู้นำไต้หวันที่กรุงไทเป

เกล็นน์ ยังคิน ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ของสหรัฐ พบกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวันที่กรุงไทเปเพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสการลงทุน

ปธน.เกาหลีใต้ เยือนสหรัฐ 6 วัน ส่งเสริมความร่วมมือทางทหาร

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เดินทางเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ 6 วัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางทหารในสหรัฐ-ญี่ปุ่น หลังเกาหลีเหนือขยายโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อเนื่อง

ชาวเกาหลีใต้เกินครึ่งหนุนพัฒนานิวเคลียร์ต้านเกาหลีเหนือ

โซล 23 เม.ย.- ผลสำรวจความเห็นชาวเกาหลีใต้พบว่า ร้อยละ 56 สนับสนุนให้เกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อใช้ต้านทานภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ สำนักสำรวจเรียลมิเตอร์สอบถามความเห็นชาวเกาหลีใต้วัยผู้ใหญ่จำนวน 1,008 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ตอบร้อยละ 56.5 สนับสนุนให้เกาหลีใต้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ด้วยตัวเอง และเห็นว่าควรต้องหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในโอกาสที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลจะเดินทางไปประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐในวันจันทร์นี้ ขณะที่ผู้ตอบร้อยละ 40.8 คัดค้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ต่อข้อถามถึงเหตุผลที่สนับสนุนให้เกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผู้ตอบร้อยละ 45.2 ชี้ว่า เกาหลีใต้ควรต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ และต่อข้อถามถึงเหตุผลที่คัดค้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผู้ตอบร้อยละ 44.2 ชี้ว่า จะทำให้เกาหลีใต้ถูกนานาชาติคว่ำบาตร ประธานาธิบดียุนจะเยือนสหรัฐในฐานะประมุขของรัฐเป็นเวลา 6 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน เนื่องในวาระครบ 70 ปีที่ 2 ประเทศเป็นพันธมิตรกัน โดยคาดว่าประเด็นภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะเป็นหัวข้อหลักของการสนทนา.-สำนักข่าวไทย

ทหารสหรัฐอพยพคนออกจากสถานทูตในซูดาน

วอชิงตัน 23 เม.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเผยว่า กองทัพสหรัฐได้อพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมของซูดานแล้ว และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ “ที่ไร้เหตุผล” ในกรุงคาร์ทูมระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน ประธานาธิบดีไบเดนแถลงเมื่อเย็นวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า เขาได้สั่งการในวันเสาร์ให้กองทัพสหรัฐปฏิบัติการนำบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐออกจากกรุงคาร์ทูม และขณะนี้สถานทูตสหรัฐได้ระงับทำการเป็นการชั่วคราว เขามีความภาคภูมิใจในตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเป็นมืออาชีพ เสริมสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างชาวอเมริกันกับประชาชนชาวซูดาน ผู้นำสหรัฐยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไร้เงื่อนไข เปิดทางให้แก่การเข้าถึงด้านมนุษยธรรม และเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนชาวซูดาน ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า ได้สั่งการให้อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกจากซูดาน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงและเพิ่มขึ้น สหรัฐขอย้ำเตือนทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กันให้ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองพลเรือน และขอเรียกร้องให้ขยายข้อตกลงหยุดยิงให้นอกเหนือไปจากช่วงตรุษอีดิลฟิตริด้วย นายทหารสหรัฐนายหนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเพียง 100 นายเศษ ใช้เฮลิคอปเตอร์ซีเอช-47 ชีนุกจำนวน 3 ลำบินจากจิบูตีไปยังเอธิโอเปียแล้วต่อไปยังซูดาน โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีอพยพคนจากภาคพื้นดิน นายจอห์น เบส ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า มีคนได้รับอพยพไม่ถึง 100 คน ซึ่งมีนักการทูตต่างชาติรวมอยู่ด้วย และไม่น่าจะมีการอพยพชาวอเมริกันครั้งใหม่ในเร็ววันนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ส่วนกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่กำลังสู้รบกับกองทัพซูดานประสานงานเพียงว่าจะไม่ยิงทหารสหรัฐเท่านั้น ก่อนหน้านี้อาร์เอสเอฟเผยว่า ได้ประสานกับกองกำลังสหรัฐที่ประกอบด้วยเครื่องบิน 6 ลำเรื่องอพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากซูดานในเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

กองทัพสหรัฐพร้อมอพยพคนออกจากสถานทูตในซูดาน

ฐานทัพอากาศรัมชไตน์ 22 เม.ย.- กองทัพสหรัฐเตรียมพร้อมอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในซูดานในระหว่างที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่า จะอพยพคนออกจากกรุงคาร์ทูมของซูดานที่สถานการณ์มีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นหรือไม่ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐแถลงข่าวที่ฐานทัพอากาศรัมชไตน์ ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนีเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพได้ส่งกำลังพลบางส่วนเข้าไปในพื้นที่แล้วเพื่อสำรวจหลากหลายลู่ทางที่จะสามารถดำเนินการได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการใด ๆ เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 คนคาดว่า จะมีการตัดสินใจเรื่องอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่แน่ชัดว่าจะมีการประกาศต่อสาธารณะหรือไม่ โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้อนุมัติเมื่อไม่กี่วันก่อนให้เคลื่อนกำลังพลของสหรัฐที่อยู่ใกล้ซูดานในกรณีที่ต้องเข้าไปช่วยอพยพนักการทูตอเมริกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าเคลื่อนกำลังพลไปยังประเทศใด ด้าน พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐได้หารือทางโทรศัพท์กับ พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพของซูดานเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ เรื่องความปลอดภัยของชาวอเมริกันในซูดาน ขณะนี้ท่าอากาศยานในกรุงคาร์ทูมตกอยู่ท่ามกลางการสู้รบกันระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่มีความขัดแย้งกัน และน่านฟ้าไม่มีความปลอดภัย ทำให้หลายประเทศรวมถึงสหรัฐไม่สามารถอพยพคนออกจากสถานทูตได้ นักการทูตตะวันตกคนหนึ่งชี้ว่า สถานการณ์ในกรุงคาร์ทูมไม่เอื้อต่อการอพยพอย่างยิ่ง เนื่องจากการสู้รบเกิดขึ้นในเมืองหลวงซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตและท่าอากาศยาน คาดว่าสหรัฐจะมุ่งหาทางให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงให้ได้ เพื่อเป็นโอกาสในการอพยพคน ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า มีชาวอเมริกัน 1 คนเสียชีวิตจากการสู้รบในซูดาน.-สำนักข่าวไทย

“ออสติน” วอนชาติพันธมิตรรักษาสัญญา

รมต.กลาโหมสหรัฐประชุมร่วมกับ รมต.กลาโหม 50 ชาติพันธมิตรที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์ในเยอรมนี วอนรักษาคำมั่นสัญญาช่วยสนับสนุนยูเครน

ศาลฎีกาสหรัฐคุ้มครองชั่วคราวสิทธิเข้าถึงยาทำแท้ง

วอชิงตัน 22 เม.ย.- ศาลฎีกาสหรัฐมีคำชี้ขาดคุ้มครองเป็นการชั่วคราวสิทธิการเข้าถึงยาเม็ดยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้งที่มีการใช้อย่างกว้างขวาง เท่ากับระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ห้ามหรือจำกัดการใช้ยาเม็ดทำแท้งอย่างเคร่งครัด ในคำชี้ขาดความยาว 1 ย่อหน้าเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ศาลฎีกาไม่ได้แสดงความเห็นต่อรูปคดีที่กลุ่มต่อต้านการทำแท้งยื่นขอให้ห้ามการใช้มิฟิฟริสโตน (mifepristone) ซึ่งเป็นยาที่ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งในการทำแท้งในสหรัฐ โดยระบุเพียงว่า ยาขนานนี้ยังสามารถใช้ได้ต่อไปจนกว่าศาลอุทธรณ์หลายแห่งจะเสร็จสิ้นการตัดสินคดี อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาศาลฎีกาสายอนุรักษนิยม 2 ใน 6 คนจากองค์คณะทั้งหมด 9 คนไม่เห็นด้วยกับคำชี้ขาดนี้ ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการทำแท้งที่มีความสำคัญที่สุดนับจากศาลฎีกามีคำตัดสินยกเลิกสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ศาลฎีกาสหรัฐมีคำชี้ขาดตามที่กระทรวงยุติธรรมยื่นฎีกาฉุกเฉินขอให้ระงับคำตัดสินของศาลระดับล่างที่ห้ามหรือจำกัดการใช้ยามิฟิพริสโตน หลังจากผู้พิพากษาศาลแขวงในรัฐเทกซัสมีคำตัดสินห้ามใช้ยาขนานนี้ตามที่กลุ่มต่อต้านการทำแท้งยื่นขอ ต่อมาศาลอุทธรณ์ในรัฐเดียวกันได้ระงับคำสั่งห้าม แต่ให้ใช้มาตรการจำกัดอย่างเคร่งครัดแทน ขณะนี้ศาลอุทธรณ์หลายแห่งกำลังพิจารณาคดีนี้อยู่ตามที่มีผู้ยื่นร้อง มิฟิพริสโตนได้รับอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอ (FDA) ในปี 2543 เป็นยาเม็ดทำแท้งที่ใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสตอล (misoprostol) สำหรับทำแท้งอายุครรภ์ไม่เกิน 10 สัปดาห์ เอฟดีเอประเมินว่า มีสตรีอเมริกันใช้ยาขนานนี้แล้วราว 5 ล้าน 6 แสนคน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำสหรัฐจะพบกับผู้นำฟิลิปปินส์ที่ทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะต้อนรับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันของสหรัฐในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความใกล้ชิดระหว่างสองประเทศท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนเรื่องไต้หวัน

สหรัฐสนับสนุนงิน 500 ล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือป่าแอมะซอน

สหรัฐสนับสนุนเงิน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปกป้องผืนป่าแอมะซอน โดยเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงเงินก้อนแรกจากจำนวนเงินทั้งหมดที่สหรัฐรับปากจะช่วยเหลือ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

1 91 92 93 94 95 596
...