วัคซีน

โตเกียว 7 พ.ย.- คณะผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะรัฐบาลญี่ปุ่นยุติโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยอ้างเรื่องฐานะการคลังของประเทศ ซึ่งย่ำแย่ที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ คณะอนุกรรมการในกระทรวงคลังญี่ปุ่นเสนอแนะว่า การฉีดวัคซีนโควิดควรเป็นแบบเดียวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคทั่วไป เนื่องจากประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยมีเชื้อไวรัสเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน รัฐบาลใช้งบประมาณไปแล้วราว 17 ล้านล้านเยน (ราว 4.32 ล้านล้านบาท) ให้บริการทางการการแพทย์เพื่อรับมือกับการระบาด เช่น จัดหาเตียงในโรงพยาบาล ให้การฉีดวัคซีนฟรี โดยในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 ญี่ปุ่นฉีดวัคซีนฟรีไปแล้ว 257 ล้านเข็มให้แก่ประชากร 125 ล้านคน คิดเป็นงบประมาณ 2.3 ล้านล้านเยน (ราว 584,860 ล้านบาท) เนื่องจากการฉีดวัคซีนแต่ละเข็มมีค่าใช้จ่ายราว 9,600 เยน (ราว 2,440 บาท) คณะอนุกรรมการเสนอด้วยว่า ชุดตรวจหาเชื้อแบบเอทีเค (ATK) ที่รัฐบาลซื้อมาแจกฟรี ควรให้ภาคเอกชนเข้ามารับผิดชอบแทน และควรทบทวนศักยภาพของบริษัทญี่ปุ่นที่ได้รับทุน 500,000 ล้านเยน (ราว 127,140 ล้านบาท) สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด เนื่องจากไม่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 5 ต.ค.- หน่วยงานในญี่ปุ่นของบริษัทโมเดอร์นาขอให้กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ออกแบบมาป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) โมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐได้ยื่นขออนุมัติวัคซีนดังกล่าวที่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยบีเอ.4 (BA.4) และบีเอ.5 (BA.5) ของสายพันธุ์โอไมครอน และสายพันธุ์ก่อนหน้า หลังจากไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งสัญชาติเดียวกันได้ยื่นขออนุมัติวัคซีนลักษณะเดียวกันต่อกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนกันยายน วัคซีนรุ่นใหม่ของโมเดอร์นาใช้สำหรับฉีดให้แก่ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินในสหรัฐแล้ว ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนที่ผลิตโดยโมเดอร์นาและไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้นภูมิเมื่อเดือนกันยายน หวังยับยั้งการระบาดระลอกที่ 7 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ แต่วัคซีนดังกล่าวออกแบบมาป้องกันสายพันธุ์ย่อยบีเอ.1 (BA.1) ขณะที่ไวรัสสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในญี่ปุ่นเป็นสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5).-สำนักข่าวไทย

นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีเหนืออาจจะสามารถเริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

โคเปนเฮเกน 24 ส.ค.- บาวาเรียน นอร์ดิก (Bavarian Nordic) บริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิงที่ได้รับอนุมัติเพียงรายเดียวจนถึงขณะนี้เผยว่า กำลังสำรวจลู่ทางความเป็นไปได้ในการนำวัคซีนที่หมดอายุในทางเทคนิคมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาวัคซีนขาดแคลน ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 40,000 คนในกว่า 80 ประเทศที่ไม่เคยพบการระบาดมาก่อน ในจำนวนนี้ 1 ใน 3 อยู่ในสหรัฐ นายพอล แชปลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบาวาเรียน นอร์ดิกเผยกับรอยเตอร์ว่า ความต้องการใช้วัคซีนฝีดาษลิงทั่วโลกสูงเกินกว่าที่บริษัทจะสามารถผลิตเพื่อส่งมอบได้ หนทางหนึ่งที่แก้ปัญหาได้คือ ประเมินว่าวัคซีนหลายล้านโดสที่ส่งไปให้สหรัฐเมื่อหลายปีก่อนและหมดอายุในทางเทคนิค ยังคงสามารถใช้ได้หรือไม่ ผลการทดสอบจนถึงขณะนี้พบว่า วัคซีนราว 500,000 โดสยังคงอยู่ในอายุการเก็บรักษา อย่างไรก็ดี การตัดสินใจว่าจะใช้วัคซีนเหล่านี้หรือไม่เป็นอำนาจของทางการสหรัฐเท่านั้น ซีอีโอของบาวาเรียน นอร์ดิกยังได้พูดถึงเรื่องที่สหรัฐ สหภาพยุโรปและอังกฤษหันมาฉีดวัคซีนฝีดาษลิงเข้าในชั้นผิวหนัง แทนการฉีดเข้าชั้นไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง เพื่อทำให้วัคซีน 1 ขวดฉีดเพิ่มขึ้นได้เป็น 5 เท่าว่า ยังมีข้อมูลจำกัดเรื่องความปลอดภัยของการฉีดวิธีนี้ และมีหลักฐานว่าอาจทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยามากกว่าวิธีเดิม.-สำนักข่าวไทย