ซานฟรานซิสโก 20 พ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่พนักงานทวิตเตอร์ตบเท้าลาออก หลังจากที่มีการเลิกจ้างมากถึงครี่งหนึ่ง นับตั้งแต่อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเข้ามาเป็นเจ้าของและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่ อาจทำให้แพลตฟอร์มนี้ไม่สามารถรับมือกับการแพร่ข่าวเท็จและการขโมยข้อมูล พับลิกซิติเซน ซึ่งเป็นกลุ่มปกป้องสิทธิผู้บริโภคในสหรัฐเตือนว่า การเลิกจ้างและลาออกจำนวนมาก จากเดิมที่ทวิตเตอร์มีพนักงาน 7,500 คน สร้างความวิตกอย่างยิ่งเรื่องการตรวจสอบเนื้อหาและดูแลความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน ทางการสหรัฐจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ข้อมูลผู้ใช้งานถูกนำไปใช้ประโยชน์หรือถูกขโมย จากการที่ทวิตเตอร์มีพนักงานไม่เพียงพอ ขณะที่นิวส์การ์ด แพลตฟอร์มจัดอันดับความน่าเชื่อถือของข่าวสาร สำรวจพบว่า ผู้แพร่กระจายข่าวเท็จเคลื่อนไหวในทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57 ในสัปดาห์หลังจากมัสก์เข้าซื้อทวิตเตอร์ในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.57 ล้านล้านบาท) เมื่อปลายเดือนตุลาคม ด้านกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตส่งหนังสือถึงคณะกรรมการธิการการค้าแห่งชาติเมื่อวันพฤหัสบดี ตำหนิมัสก์ว่า นำฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นอันตรายด้านความปลอดภัยมาใช้งานทั้งที่มีการเตือนแล้ว เห็นได้จากการที่มีบัญชีปลอมผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก หนึ่งในบริษัทที่ตกเป็นเหยื่อคือ อีไล ลิลลี่ บริษัทอเมริกันที่ราคาหุ้นดิ่งเหว จนมูลค่าตลาดหายไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีปัญชีปลอมที่มีเครื่องหมายถูกสีฟ้าทวีตว่า บริษัทกำลังแจกอินซูลินฟรีให้แก่ผู้ป่วยเบาหวาน ทวิตเตอร์เริ่มเก็บค่าสมัคร 8 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 286 บาท) สำหรับบัญชีที่ต้องการมีเครื่องหมายถูกเพื่อยืนยันตัวตนหรือที่เรียกว่าทวิเตอร์บลู และเพิ่งระงับการสมัครเมื่อสัปดาห์ก่อนหวังสกัดบัญชีปลอม แต่มีหลายบัญชีเสียหายไปแล้ว ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ มัสก์ได้คืนบัญชีทวิตเตอร์ของโดนัลด์ ทรัมป์ […]
50 
