“ไบเดน” ว่าสหรัฐอาจคว่ำบาตร “ปูติน” หากรัสเซียบุกยูเครน

วอชิงตัน 26 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า เขาจะพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หากรัสเซียบุกยูเครน ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ หากรัสเซียบุกรุกยูเครน การบุกข้ามพรมแดนยูเครนจะทำให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง และอาจเป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เน้นย้ำว่าสหรัฐไม่มีแผนส่งกองทหารไปยังยูเครนด้วยตัวเอง ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นในขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกได้ย้ำเตือนว่ารัสเซียจะต้องชดใช้อย่างหนักหากบุกยูเครน ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้กล่าวหาสหรัฐและกลุ่มชาติตะวันตกว่าทำให้สถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประเด็นระหว่างรัสเซียกับยูเครน และปฏิเสธว่ารัสเซียไม่ได้วางแผนบุกรุกยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียกลับส่งกองทหารกว่า 100,000 นายไปประจำการที่พรมแดนที่ติดกับยูเครนในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ฝั่งไอร์แลนด์

บรัสเซลส์ 24 ม.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยว่า ไอร์แลนด์ไม่ยินดีที่รัสเซียจะซ้อมรบใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองโลกอยู่ในภาวะตึงเครียดจากเรื่องที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่ามีแผนรุกรานยูเครน นายไซมอน โคฟนีย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์เผยกับสื่อขณะเดินทางมาร่วมการประชุมเรื่องสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมว่า รัสเซียเตรียมซ้อมรบในน่านน้ำสากลห่างจากชายฝั่งไอร์แลนด์ 240 กิโลเมตร แต่ยังอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของไอร์แลนด์ รัสเซียมีสิทธิจัดการซ้อมรบในน่านน้ำสากล และไอร์แลนด์ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่ได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำไอร์แลนด์ทราบชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดี เพราะไม่ใช่เวลาที่จะเพิ่มกิจกรรมทางทหารและความตึงเครียดในขณะที่กำลังมีสถานการณ์ในยูเครน อีกทั้งยังเป็นการซ้อมรบใกล้พรมแดนอียู และนอกชายฝั่งไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไอร์แลนด์ไม่ยินดีและไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ด้านนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูกล่าวว่า สมาชิกอียูกำลังแสดงความเป็นเอกภาพอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเรื่องสถานการณ์ในยูเครน และมีการประสานงานอย่างเข้มแข็งกับสหรัฐ ต่อข้อถามเรื่องอียูจะสั่งให้ครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานทูตในยูเครนกลับประเทศตามอย่างสหรัฐหรือไม่ นายบอร์เรลล์ตอบว่า อียูยังไม่อยากทำเช่นนั้น และอยากฟังเหตุผลจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่จะร่วมประชุมแบบออนไลน์ในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสั่งให้ครอบครัว จนท. สถานทูตเดินทางออกจากยูเครน

วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย

อังกฤษเผยรัสเซียวางแผนโค่นรัฐบาลยูเครน

รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุรัฐบาลรัสเซียกำลังทำทุกวิถีทางที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นมิตรกับรัสเซีย

อังกฤษกล่าวหารัสเซียหาทางตั้งผู้นำในยูเครน

ลอนดอน 23 ม.ค.- อังกฤษกล่าวหารัสเซียว่า กำลังหาทางตั้งผู้นำในยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย และให้หน่วยข่าวกรองติดต่อกับอดีตนักการเมืองยูเครนหลายคนหวังรุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีหลักฐานว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังคิดวางตัวนายเยฟเฮน มูราเยฟ นักการเมืองและเจ้าของสื่อยูเครนวัย 45 ปี เป็นผู้นำยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย นายมูราเยฟเคยอ้างว่าประชาคมโลกให้การรับรองเรื่องที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเมื่อปี 2557 เขามีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 7 ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนปี 2567 นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า อังกฤษจะไม่ยอมทนต่อแผนการของรัสเซียที่จะตั้งผู้นำยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย รัฐบาลรัสเซียรู้ดีว่า การใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนจะเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ เพราะสหราชอาณาจักรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียต้องรับผลอย่างร้ายแรง กระทรวงต่างประเทศอังกฤษไม่ยอมเปิดเผยหลักฐานตามที่กล่าวอ้าง ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า ปกติแล้วจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวกรอง และจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดต่อเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า จะเป็นไปเพื่อสกัดการรุกรานของรัสเซีย ด้านกระทรวงต่างประเทศรัสเซียโพสต์เฟซบุ๊กปฏิเสธถ้อยแถลงของอังกฤษว่า เป็นข้อมูลบิดเบือน ขอให้กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยุติการกระทำยั่วยุ ยุติการเผยแพร่สิ่งไร้สาระ และตั้งใจศึกษาประวัติศาสตร์สมัยมองโกลรุกรานรัสเซียดีกว่า พร้อมกับกล่าวหาอังกฤษและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนตกเหนือหรือนาโตว่า ทำให้สถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดมากยิ่งขึ้น อังกฤษอ้างเรื่องนี้หนึ่งวันหลังจากนักการทูตสหรัฐและรัสเซียไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขวิกฤตยูเครน ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเดินหน้าเจรจาต่อไป ชาติตะวันตกกังวลเรื่องที่รัสเซียระดมกำลังพลใกล้ชายแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน รัสเซียยืนยันว่า เป็นการเพียงการป้องกันประเทศ ไม่ใช่การรุกราน และเรียกร้องให้นาโตยุติการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออก รวมทั้งรับปากว่าจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเตือน “ปูติน-สี จิ้นผิง” ว่าจะยืนหยัดต้านเผด็จการ

ซิดนีย์ 21 ม.ค. – อังกฤษเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้ง ของจีน ว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรจะยืนหยัดร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากที่สุดในช่วงนี้นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเย็น นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีของออสเตรเลียกับอังกฤษ (AUKMIN) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันนี้ที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรในโลกเสรีต้องตอบโต้ภัยคุกคามระดับโลกร่วมกัน เสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อต้านผู้รุกรานรายใหญ่ที่ใช้นโยบายพึ่งพาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเตือนประธานาธิบดีปูตินให้สั่งยุติและถอยพลทหารออกจากยูเครนก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ นางทรัสส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังระบุว่า ผู้รุกรานรายใหญ่ของโลกกำลังแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปทั่วโลก จนเป็นเหตุให้ประเทศต่าง ๆ เช่น เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา กลายเป็นชาติพันธมิตรที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลรัสเซียและจีน อังกฤษจะต้องร่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านผู้รุกรานเหล่านี้โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิก เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียเป็นสัญญาณเตือนอังกฤษให้รู้ว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมประเทศอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะให้มีการสร้างฐานทัพอังกฤษในออสเตรเลียในขณะที่กองทัพเรืออังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อคานอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของจีน นอกจากนี้ […]

“ไบเดน” ชี้ “ปูติน” จะสั่งเคลื่อนทหารบุกยูเครน

วอชิงตัน 20 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน แต่คงไม่ใช่การทำสงครามอย่างเต็มรูปแบบ ประธานาธิบดีไบเดนตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเกี่ยวกับประเด็นภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซียว่า เขาคิดว่าประธานาธิบดีปูตินจะสั่งเคลื่อนกำลังทหารบุกยูเครน และต้องทำอะไรบางอย่างเป็นแน่ พร้อมทั้งกล่าวเตือนผู้นำรัสเซียว่าจะต้องชดใช้อย่างหนักจากการลองดีกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับแผนการจู่โจมหรือบุกรุกว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าได้วางกำลังทหารราว 100,000 นายไว้ที่ชายแดนของยูเครน ทำเนียบขาวสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงจุดยืนของสหรัฐในเวลาต่อมา หลังมีผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งถามประธานาธิบดีไบเดนว่า สหรัฐจะยอมให้เกิดการบุกรุกขนาดเล็กในยูเครนหรือไม่ นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวที่ได้รับการเผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า หากกองกำลังทหารรัสเซียเคลื่อนพลข้ามพรมแดนของยูเครน ก็ถือเป็นการบุกรุก และจะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างรวดเร็ว รุนแรง และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากสหรัฐและชาติพันธมิตร ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลชาติตะวันตกไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และว่ากิจกรรมทางทหารเพื่อป้องกันประเทศของกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวควรถูกจำกัดอยู่ในกลุ่มประเทศสมาชิกเท่านั้น ขณะที่การเจรจาระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยที่ข้อเรียกร้องบางส่วนของรัสเซียถูกปัดตกไป.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเลื่อนมาตรการสู้โควิดออกไปอีก

รัฐบาลรัสเซียตัดสินใจเลื่อนการประกาศห้ามผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนไปในที่สาธารณะออกไปอีก เนื่องจากมาตรการดังกล่าวยังมีผู้ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ทั้งที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์โอไมครอน ยังเป็นไปอย่างรวดเร็ว และคาดว่าสัปดาห์หน้าอาจมีมาตรการใหม่ออกมาแทนที่

สหรัฐและยุโรปจะเจรจากับรัสเซียเรื่องยูเครนวันนี้

บรัสเซลส์ 12 ม.ค.- สหรัฐและพันธมิตรยุโรปที่เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต เตรียมตัวเจรจากับรัสเซียเรื่องความตึงเครียดบริเวณพรมแดนยูเครนที่สำนักงานใหญ่นาโตในกรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียมในวันนี้ นางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐในฐานะผู้เจรจาของสหรัฐประชุมสรุปกับพันธมิตรยุโรปเมื่อวานนี้ โดยได้แจ้งให้นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตทราบผลการเจรจากับนายเซอร์เก เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันจันทร์ จากนั้นได้หารือกับเอกอัครราชทูตของสมาชิกนาโต เธอย้ำว่า สหรัฐมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดและรับมือกับวิกฤตความมั่นคงที่เกิดจากรัสเซีย ด้านนายอเล็กซานเดอร์ กรูชโค รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียที่จะเป็นผู้แทนเจรจากับนาโตกล่าวว่า การหารือวันนี้เป็นช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์รัสเซียกับนาโตจะต้อง “เผชิญหน้ากับความเป็นจริง” รัสเซียต้องการให้ชาติตะวันตกยุติการรุกคืบประชิดชายแดน และขอให้นาโตรับประกันอย่างเป็นรูปธรรมว่า จะไม่ให้ยูเครนเป็นสมาชิกนาโต แต่นาโตยืนกรานว่า ประเทศอธิปไตยมีสิทธิตัดสินใจเองเรื่องป็นสมาชิกนาโต และย้ำอีกครั้งว่ายังคงนโยบายเปิดกว้างการรับสมาชิก รวมทั้งขู่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินครั้งใหญ่กับรัสเซีย หากรัสเซียรุกรานยูเครนครั้งใหม่ รัสเซียได้ระดมกำลังพลบริเวณชายแดนด้านติดกับยูเครนตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้สหรัฐต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเกรงว่าความขัดแย้งจะบานปลายเป็นการเผชิญหน้าทางการทหาร แต่การเจรจาระหว่างสหรัฐ-รัสเซียที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์นาน 7 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด ต่อมาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ ซาเลนสกีของยูเครนย้ำข้อเรียกร้องเมื่อวานนี้ให้ฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด 4 ฝ่ายภายในสิ้นเดือนมกราคม โดยมียูเครนและรัสเซียเข้าร่วมด้วยเพื่อยุติความขัดแย้ง.-สำนักข่าวไทย

คาซัคสถานระบุสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ได้รับการดูแลแล้ว

ทำเนียบประธานาธิบดีคาซัคสถานกล่าววันนี้ว่า สถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศหลาย ๆ แห่งในคาซัคสถานได้รับการปกป้องดูและจากกองกำลังพันธมิตรที่มีรัสเซียเป็นแกนนำที่ได้รับเชิญให้เข้ามาช่วยฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

คาซัคสถานรวบอดีตนายกฯ ข้อหากบฏ

อัลมาตี 8 ม.ค.- คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของคาซัคสถานแถลงว่า ทางการได้ควบคุมตัวนายคาริม มาสซิมอฟ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติฐานต้องสงสัยเป็นกบฏ คณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า นายมาสซิมอฟ วัย 56 ปี ถูกควบคุมตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่หลายคน เขาเพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติคนที่ 13 เมื่อวันที่ 5 มกราคม หลังเกิดเหตุประท้วงทั่วประเทศที่มีคนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง อาคารต่าง ๆ ถูกเผาทำลาย เป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่คาซัคสถานประกาศตัวเป็นเอกราชจากอดีตสหภาพโซเวียตในเดือนธันวาคม 2534 นายมาสซิมอฟเป็นคนสนิท และเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัยในปี 2550-2555 และปี 2557-2559 ของนายนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศที่ปกครองมาตั้งแต่ปี 2534-2562 เชื่อกันว่าตระกูลนาซาร์บาเยฟยังคงมีอิทธิพลในกรุงนูร์สุลต่าน เมืองหลวงที่ตั้งตามชื่ออดีตประธานาธิบดีวัย 81 ปีผู้นี้ ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟที่รับตำแหน่งต่อจากนายนาซาร์บาเยฟ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศได้แล้ว และได้ออกคำสั่งให้ยิงทิ้งเพื่อจัดการกับเหตุวุ่นวายจากกลุ่มคนที่เขาเรียกว่า “โจร” และ “ผู้ก่อการร้าย” ขณะเดียวกันกองกำลังพันธมิตรที่มีรัสเซียเป็นแกนนำได้มาประจำการในคาซัคสถานแล้วตามคำขอของคาซัคสถาน.-สำนักข่าวไทย

เผยกองกำลังคาซัคสถานสังหารผู้ประท้วงหลายสิบราย

อัลมาตี 6 ม.ค. – ตำรวจคาซัคสถานเผยวันนี้ว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงหลายสิบรายที่พยายามบุกเข้าไปในที่ทำการของรัฐบาลเมื่อคืนวันพุธ ขณะที่องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน หรือซีเอสทีโอ ซึ่งมีรัสเซียเป็นแกนนำ ตกลงที่จะส่งกองกำลังช่วยเหลือคาซัคสถานควบคุมเหตุประท้วงรุนแรง สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์-คาซัคสถาน สำนักข่าวทาสส์ และสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสตีของรัสเซีย ต่างรายงานอ้างคำพูดของโฆษกสำนักงานตำรวจคาซัคสถานว่า กองกำลังที่มีแนวคิดสุดโต่งได้พยายามโจมตีที่ทำการของรัฐ สำนักงานตำรวจของเมืองอัลมาตี รวมถึงสถานีตำรวจท้องถิ่นเมื่อคืนวันพุธ จนทำให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยของคาซัคสถานสังหารผู้ประท้วงไปหลายสิบราย ขณะที่คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียวันนี้แสดงให้เห็นภาพร้านค้าที่ถูกปล้น อาคารที่ถูกวางเพลิง เสียงยิงปืนบนท้องถนน และเสียงกรีดร้องของประชาชนด้วยความหวาดกลัว ในขณะเดียวกัน ซีเอสทีโอ เผยวันนี้ว่า รัสเซียได้ส่งกองทหารพลร่มเข้าไปยังคาซัคสถานเพื่อช่วยปราบปรามเหตุประท้วงรุนแรงในครั้งนี้แล้ว ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รถขนส่งเจ้าหน้าที่ติดอาวุธหลายคันและกองกำลังทหารจำนวนมากได้ลงพื้นที่ประจำการในจัตุรัสสำคัญของเมืองอัลมาตีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีผู้ประท้วงหลายร้อยคนชุมนุมต่อต้านรัฐบาลคาซัคสถานติดต่อกันเป็นวันที่สาม เนื่องจากปัญหาน้ำมันแพงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่.-สำนักข่าวไทย

1 185 186 187 188 189 289
...