ยูเครนอ้างยึดพื้นที่หลายสิบแห่งคืนจากรัสเซียได้แล้ว

เคียฟ 9 ก.ย. – ยูเครนระบุว่า กองทัพยูเครนได้ใช้ปฏิบัติการทหารที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบเข้าไปยึดพื้นที่ทางตะวันออกและตอนใต้ของยูเครนคืนจากรัสเซียได้สำเร็จ ขณะที่สหรัฐประกาศมอบเงินช่วยเหลือด้านทหารแก่ยูเครนและพันธมิตรครั้งใหม่ราว 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 98,000 ล้านบาท) ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดดินแดนกว่าสิบแห่งทางตะวันออกและตอนใต้ของยูเครนคืนจากรัสเซียได้สำเร็จ โดยคิดเป็นพื้นที่ราว 1,000 ตารางกิโลเมตรนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ผู้นำยูเครนยังได้โพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นภาพทหารยูเครนระบุว่าสามารถยึดพื้นที่เมืองบาลากลียา ทางตะวันออกของยูเครน และตั้งอยู่ใกล้เมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน คืนจากรัสเซียได้สำเร็จ อย่างไรก็ดี นายวิทาลี กานเชฟ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่รัสเซียหนุนหลัง กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียว่า กองทัพรัสเซียได้ต่อสู้อย่างสุดกำลังจนทำให้ยูเครนไม่อาจปิดล้อมและยึดเมืองบาลากลียา ซึ่งเขาอ้างว่ายังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ในขณะเดียวกัน นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ประกาศในงานประชุมรัฐมนตรีกลาโหมที่ฐานทัพอากาศแรมชไตน์ของสหรัฐในเยอรมนีว่า สหรัฐจะมอบเงินช่วยเหลือยูเครนและพันธมิตรครั้งใหม่ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่า 675 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22,600 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนเพื่อนำไปป้องกันการรุกรานของรัสเซีย เช่น ปืนใหญ่วิถีโค้ง ยุทโธปกรณ์ ยานยนต์ขับเคลื่อนฮัมวี่ (Humvee) รถพยาบาลกันกระสุน […]

“สี” และ “ปูติน” จะพบกันที่อุซเบกิสถานในสัปดาห์หน้า

เจ้าหน้าที่รัสเซียเปิดเผยวันนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะพบกันสัปดาห์หน้าในระหว่างการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นที่ประเทศอุซเบกิสถาน

“ปูติน” ยืนยันไม่สูญเสียอะไรเลยในเรื่องยูเครน

วลาดิวอสต็อก 7 ก.ย.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้สูญเสียอะไรเลยในการเผชิญหน้ากับสหรัฐเรื่องความขัดแย้งในยูเครน แต่กลับเป็นฝ่ายได้ เพราะได้กำหนดแนวทางอธิปไตยใหม่ที่จะทำให้รัสเซียกลับมาอิทธิพลบนเวทีโลกอีกครั้ง ประธานาธิบดีปูตินกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจเอเชียที่เมืองวลาดิวอสต็อก ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้ โดยแทบไม่ได้เอ่ยชื่อยูเครน ยกเว้นเมื่อพูดถึงเรื่องการส่งออกธัญพืช และเมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า รัสเซียสูญเสียอะไรบ้างในความขัดแย้งกับยูเครน เขายืนยันว่า รัสเซียไม่ได้สูญเสียสิ่งใดเลย และจะไม่สูญเสียด้วย สิ่งใดที่ไม่จำเป็น เป็นอันตราย และขัดขวางไม่ให้รัสเซียก้าวหน้า จะถูกขจัดหมดสิ้น ส่วนในเรื่องที่รัสเซียได้นั้นคือ ได้สร้างความแข็งแกร่งให้แก่อธิปไตยของประเทศ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้จะทำให้รัสเซียแข็งแกร่งจากภายใน ประธานาธิบดีปูตินซึ่งจะมีอายุครบ 70 ปีในเดือนตุลาคมนี้กล่าวว่า ตะวันตกกำลังล้มเหลว เพราะความพยายามก้าวร้าวและไร้ผลที่จะโดดเดี่ยวรัสเซียด้วยมาตรการคว่ำบาตรกำลังทำลายเศรษฐกิจโลก ในขณะที่เอเชียกำลังผงาดขึ้นครอบครองอนาคต มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกเปรียบเสมือนการประกาศสงครามเศรษฐกิจ เป็นความพยายามกำหนดรูปแบบพฤติกรรมให้แก่ประเทศอื่น แล้วบังคับให้ทำตามความต้องการ ชาติตะวันตกกำลังบ่อนทำลายเสาหลักของระบบเศรษฐกิจโลกที่สร้างขึ้นมาหลายศตวรรษ ขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ยูโร และปอนด์อังกฤษกำลังเสียความน่าเชื่อถือ ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจรัสเซียกำลังรับมือกับการรุกรานทางการเงินและทางเทคโนโลยีของชาติตะวันตก แต่ก็ยอมรับว่าบางอุตสาหกรรมและบางภูมิภาคประสบปัญหาบางประการ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียขอ IAEA แจงรายงานผลตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่ม

มอสโก 7 ก.ย. – รัสเซียขอให้สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดบางส่วนที่อยู่ในรายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครอง แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องการให้ไอเออีเออธิบายเกี่ยวกับประเด็นใด นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของทางการรัสเซียว่า รัฐบาลรัสเซียขอให้ไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ในรายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย เขาไม่ขอระบุว่าเป็นประเด็นใดบ้าง แต่ได้ยื่นคำร้องขอให้ชี้แจงรายละเอียดไปยังผู้อำนวยการของไอเออีเอแล้ว ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานอ้างคำพูดนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศรัสเซียที่กล่าวหาชาติตะวันตกว่ากดดันภารกิจตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของไอเออีเอ รัสเซียได้ให้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับที่มาของการระดมยิงโจมตีให้แก่ไอเออีเอ และรู้สึกข้องใจว่า ทำไมไอเออีเอจึงไม่ระบุในรายงานว่ายูเครนเป็นผู้ก่อเหตุยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย นางซาคาโรวายังอ้างว่า ยูเครนได้ก่อเหตุยิงโจมตีพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐและชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี ยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย และกล่าวหารัสเซียว่าเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์อันตรายไว้ในโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียระบุว่าไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ ไอเออีเอได้เผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ระบุว่า การระดมยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อาจทำให้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอย่างไร้ขีดจำกัด และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” ปัดเสียงเรียกร้องให้รัสเซียเป็น “รัฐหนุนก่อการร้าย”

วอชิงตัน 7 ก.ย.- รัฐบาลสหรัฐปฏิเสธเสียงเรียกร้องของยูเครนและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐที่ต้องการให้สหรัฐประกาศให้รัสเซียเป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้าย เนื่องจากเห็นว่าจะไม่เป็นผลดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิเสธเพียงสั้น ๆ เมื่อวันจันทร์ว่า ไม่ หลังจากผู้สื่อข่าวถามเรื่องจะขึ้นบัญชีดำรัสเซียว่าเป็นรัฐสนุนการก่อการร้ายหรือไม่ ต่อมาโฆษกทำเนียบขาวตอบเมื่อวันอังคารเรื่องรัฐบาลตัดสินใจแล้วหรือไม่ว่า การประกาศดังกล่าวไม่ใช่หนทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดหรือรุนแรงที่สุดที่จะทำให้รัสเซียรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการลำเลียงความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในยูเครนที่ย่อยยับเพราะสงคราม และขัดขวางการที่กลุ่มบรรเทาทุกข์และภาคธุรกิจจะเข้าร่วมข้อตกลงที่สหประชาชาติและตุรกีเป็นคนกลางเรื่องลำเลียงธัญพืชออกจากท่าเรือในยูเครนที่ถูกรัสเซียปิดล้อม นอกจากนี้ยังจะบั่นทอนความร่วมมือพหุภาคีที่จนถึงขณะนี้สามารถลงโทษประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอย่างได้ผล และบั่นทอนศักยภาพในการสนับสนุนยูเครน การที่สหรัฐประกาศให้รัฐใด ๆ เป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้ายจะมีผลต่อรัฐนั้นอย่างกว้างขวาง เนื่องจากภาคธุรกิจรวมทั้งธนาคารจะไม่กล้าทำธุรกรรมกับรัฐนั้น ๆ เพราะเสี่ยงจะถูกอัยการสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ฟ้องร้องดำเนินคดี ปัจจุบันมี 4 ประเทศที่ถูกสหรัฐประกาศให้เป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้ายได้แก่ อิหร่าน ซีเรีย เกาหลีเหนือและคิวบา ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเรียกร้องให้ชาติตะวันตกประกาศอย่างเป็นทางการให้รัสเซียเป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้าย หลังจากมีพลเรือนเสียชีวิตจากการถูกรัสเซียโจมตีหลายครั้ง ขณะที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐรวมถึงนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้ประธานาธิบดีประกาศ เพราะเห็นว่าเป็นวิธีเพิ่มแรงกดดันรัสเซีย หลังจากชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียมาแล้วหลายเดือน.-สำนักข่าวไทย

IAEA เรียกร้องให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเขตปลอดภัย

เคียฟ 7 ก.ย. – รายงานของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า การระดมยิงโจมตีในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชียอาจทำให้สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลอย่างไร้ขีดจำกัด และอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัย รายงานของไอเออีเอที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารระบุว่า เจ้าหน้าที่ชาวยูเครน 907 คนที่ทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียต้องเผชิญกับภาวะตึงเครียดอย่างหนักขณะทำงานภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย เจ้าหน้าที่เหล่านี้ควรมีสิทธิได้พบปะกับครอบครัวและทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ขณะที่การระดมยิงต่อเนื่องของรัสเซียกับยูเครนยังไม่ได้ถึงขั้นทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน แต่ก็ทำให้เป็นภัยต่อความปลอดภัยที่อาจนำไปสู่หายนะด้านกัมมันตภาพรังสีอย่างมีนัยสำคัญ ไอเออีเอยังเรียกร้องให้มีการจัดทำข้อตกลงชั่วคราวโดยด่วนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการทางทหาร ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเห็นพ้องในข้อตกลงที่กำหนดให้โรงไฟฟ้าซาปอริชเชียเป็นเขตปลอดภัยทางนิวเคลียร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งยังเตือนว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียที่ตั้งอยู่ในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และการสู้รบในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นภัยต่อระบบป้องกันของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และเรียกร้องให้กองทัพรัสเซียเคลื่อนย้ายยานพาหนะทางทหารที่อาจเป็นภัยต่อความปลอดภัยออกจากเขตโรงไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขารู้สึกพอใจกับรายงานดังกล่าวของไอเออีเอที่ระบุถึงประเด็นเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพรัสเซียในเขตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย การกดดันเจ้าหน้าที่ชาวยูเครน และการยึดครองทางทหารของรัสเซียอย่างชัดเจน ทั้งยังระบุว่า เขาจะสนับสนุนเรื่องการกำหนดให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นพื้นที่ปลอดภัย ถ้าการทำเช่นนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหาร.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียคาดเศรษฐกิจจะกลับมาโตเร็วกว่าที่คาด

รัสเซียคาดว่า เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวต่อไตรมาสได้อย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้ และจะหดตัวต่อปีน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

เผยรัสเซียซื้อกระสุนปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือ

สื่อในสหรัฐรายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐได้ประเมินไว้ว่า รัสเซียกำลังซื้อกระสุนปืนใหญ่จากเกาหลีเหนือ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่า รัสเซียได้เริ่มใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่ผลิตโดยอิหร่านแล้ว

ยูเครนว่าภารกิจของ ‘IAEA’ ไร้ประสิทธิภาพ

เคียฟ 5 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนระบุว่า รัฐบาลยูเครนกำลังรอรายงานจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เกี่ยวกับสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ถูกรัสเซียยึดครอง ทั้งยังกล่าวว่า ภารกิจของไอเออีเอไม่มีประสิทธิภาพ นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในวันนี้ว่า ยูเครนไม่ทราบเลยว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่ไอเออีเอเข้าไปตรวจสอบมีความปกติหรือไม่ ทั้งในด้านความปลอดภัย ระบบระบายความร้อนของเตาปฏิกรณ์ สวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนในโรงไฟฟ้า และขั้นตอนการทำงาน เพราะยูเครนยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าภารกิจของไอเออีเอไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง นายโปโดเลียกยังกล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียควรเป็นการตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์และเทคโนโลยีวิศวกรรมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ยูเครนที่ทำงานอยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทั้งยังระบุว่า กองทัพรัสเซีย ซึ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ไม่มีทางประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องแน่นอน ก่อนหน้านี้ นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการของไอเออีเอ เผยเมื่อวันศุกร์ว่า ไอเออีเอได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้มากขึ้นหลังลงพื้นที่ตรวจโรงไฟฟ้า และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบยังคงอยู่ที่โรงไฟฟ้าต่อไป. -สำนักข่าวไทย

“มิน อ่อง หล่าย”เยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน

เนปิดอว์ 5 ก.ย. – พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการเดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในรอบไม่ถึง 2 เดือน สื่อของทางการเมียนมารายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้เดินทางเยือนรัสเซียอีกครั้งในวันนี้ โดยมีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเศรษฐกิจ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญ มหาวิทยาลัย และโรงงานต่าง ๆ ส่วนคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเมียนมาก็จะเดินทางไปพบปะกับคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซียเพื่อกระชับความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ถูกประชาคมนานาชาติปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการประชุมส่วนใหญ่ในนามตัวแทนของเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ก่อนหน้านี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เคยเดินทางเยือนกรุงมอสโกในฐานะผู้นำประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปีก่อน ครั้งนั้นได้ประกาศความร่วมมือทางทหารร่วมกับรัสเซีย และเพิ่งเดินทางเยือนรัสเซียเป็นการส่วนตัวในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทั้งนี้ รัสเซีย ซึ่งป็นแหล่งนำเข้าอาวุธรายสำคัญของเมียนมา เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาหลังเกิดเหตุรัฐประหาร ในขณะที่ประชาคมโลกต่างประณามรัฐบาลทหารเมียนมาเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารสังหารฝ่ายตรงข้าม. -สำนักข่าวไทย

นักปีนเขาเสียชีวิต 8 รายบนภูเขาไฟในรัสเซีย

มอสโก 5 ก.ย. – สื่อรัสเซียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 8 รายขณะปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา (Klyuchevskaya Sopka) ในดินแดนคัมชัตคาของรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเดินทางเข้าไปช่วยเหลือได้ เนื่องจากประสบปัญหาลมพายุพัดแรง สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดนายโรมัน วิซิเลฟสกี รองนายกรัฐมนตรีของดินแดนคัมชัตคา ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองทางตะวันออกของรัสเซีย ที่ระบุว่า เขาได้รับรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 8 รายขณะปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา และคาดว่ามีนักปีนเขา 6 คนติดอยู่บนภูเขาจากคณะเดินทางที่มีสมาชิก 12 คน ซึ่งรวมถึงมัคคุเทศก์ 2 คน ทั้งยังระบุว่า เขาได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าวจากมัคคุเทศก์คนหนึ่งที่โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมมาจากบนภูเขาไฟ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของดินแดนคัมชัตคาระบุว่า คณะนักปีนเขา 12 คนได้เริ่มภารกิจปีนภูเขาไฟคลูเชฟสกายา โซปกา ที่สูง 4,754 เมตรตั้งแต่เมื่อวันอังคารก่อน แต่ประสบปัญหายากลำบากเมื่อวันเสาร์ หลังมีสมาชิกบางส่วนตกเขาเสียชีวิตที่ระดับความสูง 4,200 เมตร และมีสมาชิกคนหนึ่งขาหัก ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือคณะนักปีนเขาเมื่อวันอาทิตย์ แต่จำเป็นต้องยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากเผชิญกับลมแรงถึง 107 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้ […]

ผู้นำอันดับ 3 ของจีนจะเยือนรัสเซีย

ปักกิ่ง 4 ก.ย.- นายลี่ จ้านซู ประธานคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีนจะเยือนรัสเซียในสัปดาห์หน้า เขาเป็นผู้นำอันดับ 3 ของจีน และจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะไปเยือนรัสเซียตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายลี่จะเยือนรัสเซีย มองโกเลีย เนปาล และเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 6-17 กันยายน โดยในระหว่างที่เยือนรัสเซียเขาจะเข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจตะวันออกครั้งที่ 7 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วันเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ทางตะวันออกไกลของรัสเซียด้วย นายลี่เป็นผู้นำอันดับ 3 ในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำฯ นี้ประกอบด้วยผู้นำระดับสูงของพรรค ปัจจุบันมี 7 คน อันดับหนึ่งคือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง วัย 69 ปี อันดับ 2 คือ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง วัย 67 ปี และอันดับ 3 คือนายลี่ จ้านซู วัย 72 ปี คาดกันว่านายลี่จะเกษียณตัวเองในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 20 ซึ่งยังไม่มีการประกาศวันที่ที่ชัดเจน […]

1 104 105 106 107 108 293
...