รัสเซีย

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เข้าพบหารือกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย

วลาดิวอสตอก 4 ก.ย. – ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียแถลงวันนี้ว่า รัสเซียกำลังปรับเปลี่ยนหลักการนิวเคลียร์ (nuclear doctrine) เนื่องจากสหรัฐและพันธมิตรชาติตะวันตกกำลังคุกคามรัสเซีย ด้วยการทำให้สงครามในยูเครนรุนแรงขึ้น และปฏิบัติอย่างเลวร้ายต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงอันชอบธรรมของรัสเซีย โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่า สาเหตุที่ทำให้รัสเซียปรับเปลี่ยนหลักการนิวเคลียร์ ซึ่งกำหนดสถานการณ์ที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ คือ ภัยคุกคามที่ชาติตะวันตกสร้างขึ้น พร้อมกับกล่าวโทษสหรัฐว่า กำลังทำลายสถาปัตยกรรมความมั่นคงแห่งยุโรปยุคหลังสงครามเย็น ชาติตะวันตกบอกปัดการเจรจากับรัสเซีย และโจมตีผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของรัสเซีย ควบคู่ไปกับการทำให้สงครามในยูเครนทวีความรุนแรง ส่วนสหรัฐ คือ ผู้บงการกระบวนการยั่วยุความตึงเครียด อย่างไรก็ดี โฆษกกล่าวว่า จะมีการวิเคราะห์ความตึงเครียดในปัจจุบันอย่างรอบคอบ จากนั้นจึงจะกำหนดพื้นฐานของการปรับเปลี่ยนหลักการนิวเคลียร์ เป็นการบ่งชี้ว่า การทบทวนหลักการนิวเคลียร์ของรัสเซียยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น หลักการนิวเคลียร์ในปัจจุบันของรัสเซียกำหนดขึ้นในปี 2565 ตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยระบุไว้ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่ถูกศัตรูโจมตีด้วยนิวเคลียร์ หรือในกรณีที่ถูกโจมตีด้วยอาวุธธรรมดาที่เป็นภัยต่อการดำรงอยู่ของรัสเซียในฐานะรัฐประเทศ ข้อมูลของสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (FAS) ระบุว่า รัสเซียและสหรัฐเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบครองหัวรบนิวเคลียร์รวมกันร้อยละ 88 ของทั้งโลก และกำลังปรับปรุงคลังแสงนิวเคลียร์ให้ทันสมัย สงครามยูเครนทำให้รัสเซียและชาติตะวันตกเผชิญหน้ากันครั้งใหญ่ที่สุด นับจากวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา ปี 2505 ที่สหรัฐและรัสเซียสมัยที่เป็นสหภาพโซเวียตต่างเล็งหัวรบนิวเคลียร์ใส่กัน โดยที่สหรัฐมีหัวรบอยู่ที่ตุรกี และโซเวียตมีหัวรบอยู่ที่คิวบา.-814.-สำนักข่าวไทย  

เคียฟ 4 ก.ย.- นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ยื่นหนังสือลาออกในวันนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ยูเครนเริ่มทำสงครามกับรัสเซียเมื่อ 30 เดือนก่อน ประธานสภาผู้แทนราษฎรของยูเครนเป็นผู้โพสต์หนังสือลาออกของนายคูเลบาในเฟซบุ๊ก และระบุว่า สมาชิกสภาจะอภิปรายการยื่นขอลาออก และจะลงมติในวันนี้ตามธรรมเนียมทางการเมือง รอยเตอร์คาดว่า จะมีรัฐมนตรียูเครนลาออกติดตามมาอีกหลายคน หลังจากรัฐมนตรี 5 คนยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันอังคาร จากนั้นจะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ในช่วงหลายวันข้างหน้า ตามที่คนสนิทของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนระบุว่า เป็นการเริ่มต้นการปรับคณะรัฐมนตรีก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ขณะที่สมาชิกสภาพรรครัฐบาลเผยเมื่อวานนี้ว่า จะมีรัฐมนตรีถูกปรับมากกว่าครึ่งหนึ่งของคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า การปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของการทำสงครามเต็มรูปแบบ เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและการบรรลุเป้าหมายในการทำสงคราม ฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึงจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อยูเครน จึงควรมีการปรับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ยูเครนสามารถบรรลุเป้าหมายทุกอย่างที่ต้องการ.-814.-สำนักข่าวไทย      . 

รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารของโรงเรียนฝึกทหารแห่งหนึ่งในเมืองโปลตาวา ทางตอนกลางของประเทศยูเครนเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 270 คน

เบลโกรอด 2 ก.ย.- ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับยูเครนแจ้งว่า การเรียนการสอนในเมืองเบลโกรอดที่เป็นเมืองเอกของแคว้นได้รับผลกระทบ หลังจากยูเครนทำลายโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งพังเสียหายในวันนี้ ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า เป็นเช้าที่เลวร้ายสำหรับแคว้นนี้ ในวันที่สถานศึกษาต่าง ๆ เตรียมเปิดภาคการศึกษาใหม่วันแรกหลังจากปิดภาคฤดูร้อน โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองเบลโกรอดถูกทำลายเสียหายเกือบสิ้นเชิงจากการโจมตีของยูเครน ทำให้ทางการประกาศให้โรงเรียนหลายแห่งในเขตใหญ่ที่สุดของเมืองเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนออนไลน์ และปิดโรงเรียนอนุบาลหลายแห่งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดเผยด้วยว่า เมื่อวานนี้ยูเครนได้ยิงปืนใหญ่เข้ามาในแคว้นแห่งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่าสิบคน เมืองเบลโกรอดและเขตใกล้เคียงตกเป็นเป้าหมายโจมตีของยูเครนมาโดยตลอด ยูเครนอ้างว่า ต้องการทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการทำสงครามของรัสเซีย ทั้งนี้ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างปฏิเสธว่า ไม่ได้เล็งเป้าหมายที่เป็นพลเรือนในการทำสงครามที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565.-814-สำนักข่าวไทย

มอสโก 2 ก.ย.- รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธเข้าใส่กรุงเคียฟของยูเครนในเช้าวันนี้ ซากของขีปนาวุธที่ถูกยูเครนยิงสกัดทำให้มีคนบาดเจ็บ และเกิดไฟไหม้ทำบ้านเรือนเสียหาย รัสเซียยังคงระดมโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธหลายจุดทั่วประเทศต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดช่วงเช้าตรู่วันนี้ได้ยิงขีปนาวุธเข้าใส่กรุงเคียฟ แม้ว่ากองทัพยูเครนสามารถยิงสกัดได้ แต่เศษซากของขีปนาวุธที่ตกลงมาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน ทำให้เกิดไฟไหม้ อาคารบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหลายหลัง  ต่อมากระทรวงกลาโหมยูเครนแจ้งว่า ต้องเปิดสัญญาณเตือนภัยนานเกือบ 2 ชั่วโมง จนถึงเวลา 03.30 น.วันนี้ตามเวลามาตรฐานสากล และได้ยิงทำลายขีปนาวุธของรัสเซียราว 20 ลูก ขณะที่โปแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านยูเครนได้ส่งเครื่องบินขึ้นเพื่อลาดตระเวนเพื่อปกป้องน่านฟ้าให้ปลอดภัย หลังจากที่รัสเซียเคยยิงขีปนาวุธผ่านน่านฟ้าโปแลนด์มาก่อน.-812(814).-สำนักข่าวไทย

มอสโก 2 ก.ย.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวหาชาติตะวันตกว่า กลั่นแกล้งผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียอย่างโจ่งแจ้ง หลังจากเมื่อหลายวันก่อนรัสเซียได้สั่งห้ามผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันสิบกว่าคนเข้าประเทศ เว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเผยแพร่ถ้อยคำที่นายปูตินให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ของมองโกเลียก่อนเดินทางไปเยือนในวันที่ 3 กันยายนว่า ชาติตะวันตกที่คิดว่าตนเองเป็นมาตรฐานแห่งเสรีภาพได้เปิดฉากการกลั่นแกล้งผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย เพื่อปกปิดข้อเท็จจริงที่ไม่สะดวกใจและปิดกั้นข่าวสารที่เป็นความจริง ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียถูกตรวจสอบโดยตรงในชาติตะวันตกเกือบทุกประเทศ ทั้งที่ทำหน้าที่นำเสนออย่างชัดเจนเกี่ยวกับมุมมองของรัสเซียที่มีต่อปัญหาและกระบวนการต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในโลก ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า ในรัสเซียนั้น สื่อมีเสรีภาพ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของรัสเซียเท่านั้น ผู้สื่อข่าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในรัสเซียจึงควรเข้าใจในเรื่องนี้ รัฐบาลรัสเซียประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ได้สั่งห้ามพลเรือนชาวอเมริกัน 92 คนเข้ารัสเซีย มีทั้งผู้สื่อข่าว ทนายความ และผู้บริหารบริษัทอุตสาหกรรมทางทหาร เนื่องจากมีจุดยืนเกลียดกลัวรัสเซียตามแนวทางของรัฐบาลสหรัฐ ส่วนเมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐสภารัสเซียได้ผ่านร่างกฎหมายให้อำนาจอัยการในการปิดสำนักงานสื่อต่างชาติในกรุงมอสโก หากชาติตะวันตกแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรกับสื่อรัสเซีย.-814.สำนักข่าวไทย

คาร์คิฟ 2 ก.ย.- รัสเซียระดมยิงขีปนาวุธหลายลูกโจมตีเมืองคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากรัสเซียถูกยูเครนใช้โดรนโจมตีครั้งใหญ่ในวันเดียวกัน ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครชาวยูเครนช่วยกันนำตัวพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรัสเซียยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่ห้างสรรพสินค้าและสถานที่จัดกิจกรรมในเมืองคาร์คิฟเมื่อช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น  สร้างความเสียหายอย่างหนักให้แก่อาคารหลายหลัง เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 47 คน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนใช้เหตุการณ์นี้เรียกร้องอีกครั้งให้ชาติพันธมิตรอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับจากชาติตะวันตก ยิงเข้าไปในดินแดนรัสเซียให้ลึกขึ้น เพื่อลดภัยคุกคามจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันรัสเซียแถลงว่า ยูเครนได้ใช้โดรนโจมตีรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยการโจมตีโรงไฟฟ้าหลายแห่งและโรงกลั่นน้ำมัน 1 แห่งของรัสเซีย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกับยูเครนครั้งใหญ่ที่สุด ด้วยการถล่มเป้าหมายหลายแห่ง รวมถึงโรงงานด้านพลังงาน โดยอ้างว่าเป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยรัสเซียไม่พบผู้รอดชีวิตจากซากเฮลิคอปเตอร์ที่ตกในป่าภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 22 คน คาดเสียชีวิตทั้งหมด

มอสโก 1 ก.ย.- สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของทางการรัสเซียรายงานวันนี้ว่า ทีมค้นหาไม่พบผู้รอดชีวิตจากซากเฮลิคอปเตอร์ที่ตกขณะมีคนบนเครื่องทั้งหมด 22 คน ก่อนหน้านี้ทาสส์รายงานเมื่อวานนี้ว่า เฮลิคอปเตอร์หายไปขณะบินอยู่ใกล้ภูเขาไฟวัชคาเชตส์ บนคาบสมุทรคัมชัตคา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย พร้อมกับอ้างข้อมูลของศูนย์อุทกอุตุนิยมวิทยาคัมชัตคาว่า มีรายงานฝนตกปรอย ๆ และทัศนวิสัยต่ำเพราะหมอกลงจัดในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์หายไป สำนักงานการขนส่งทางอากาศแห่งชาติของรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ว่า เฮลิคอปเตอร์มิล เอ็มไอ-8 ที (Mil Mi-8T) ของวิตยาซ-แอโร (Vityaz-Aero) ผู้ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำขาดการติดต่อเมื่อถึงกำหนดเวลา 07.15 น.วันเสาร์ตามเวลามอสโก โดยขาดการติดต่อในพื้นที่ของภูเขาไฟ หลังทะยานขึ้นจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟลูกนี้ ด้านเจ้าหน้าที่บริการเหตุฉุกเฉินเผยว่า เฮลิคอปเตอร์รับนักท่องเที่ยวและหายไปจากจอเรดาร์แทบจะทันทีหลังจากทะยานขึ้น บนเครื่องมีผู้โดยสาร 19 คน และลูกเรือ 3 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

เบอร์ลิน 1 ก.ย.- ชาวเยอรมันร่วมการชุมนุมในหลายเมืองทั่วประเทศช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ เพื่อประท้วงที่รัฐบาลเยอรมนีเข้าไปพัวพันทางการทหารในปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน การชุมนุมมีขึ้นในหลายเมือง รวมทั้งที่เมืองดึสเซิลดอร์ฟ เมืองเอกของรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลียที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ผู้ชุมนุมแสดงความคัดค้านนโยบายการทหารและการทูตของรัฐบาลเยอรมนี พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำโลกแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาและการทูต เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซียได้ทำให้เศรษฐกิจของเยอรมนีอ่อนแอลงและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูง ผู้ชุมนุมคนหนึ่งกล่าวว่า ต้องการมีสันติภาพและความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป รวมถึงรัสเซียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุโรปเช่นกัน แต่รัฐบาลเยอรมนีชุดนี้ไม่ใช้วิถีทางการทูต แต่กลับจัดส่งอาวุธให้แก่ยูเครน เท่ากับยิ่งราดน้ำมันลงบนกองไฟ รอยเตอร์ระบุว่า เยอรมนีเป็นประเทศที่จัดหาอาวุธให้ยูเครนมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ รัฐบาลเยอรมนีประกาศในการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า สหรัฐจะเริ่มติดตั้งขีปนาวุธยิงพิสัยไกลของกองกำลังเฉพาะกิจหลายพื้นที่ปฏิบัติการที่เยอรมนีในปี 2569 สร้างความไม่สบายใจให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ เพราะเกรงว่าจะทำให้เยอรมนีกลายเป็นเป้าหมายทิ้งระเบิดของรัสเซีย.-810(814).-สำนักข่าวไทย