แนะผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ พัฒนาระบบรักษาโควิดให้เข้าถึงง่ายขึ้น

กรุงเทพฯ ครองแชมป์เป็นจังหวัดที่มียอดผู้ป่วยโควิดสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศมาโดยตลอด ขณะที่การเข้าสู่ระบบการรักษายังติดขัดปัญหาในหลายด้าน จึงมีการเรียกร้องให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ เข้ามาช่วยพัฒนาระบบสาธารณสุข ทำให้คนกรุงเข้าถึงการรักษาโควิดได้ง่ายขึ้น

ปตท.ผนึก NT ร่วมพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

ปตท. ผนึก โทรคมนาคมแห่งชาติ สร้างความเชื่อมั่น พร้อมผลักดันการใช้เทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัล เสริมศักยภาพระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผสานความสามารถด้านนวัตกรรม วางกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ตอบรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี


นาโนเทค สวทช.พัฒนาชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 สำเร็จ

นักวิจัยจากศูนย์นาโนเทค สวทช. ประสบความสำเร็จพัฒนา “NANO Covid-19 Antigen Rapid Test “ ชุดตรวจคัดกรองเชื้อโควิดแบบรวดเร็วด้วยเทคนิค LFA

ยาฟาเวียร์ที่ อภ.ผลิต ได้ขึ้นทะเบียน อย.แล้ว

อภ.15 ก.ค.- ยาฟาวิพิราเวียร์ ภายใต้ชื่อ ฟาเวียร์ (200 มิลลิกรัมต่อเม็ด) ขององค์การเภสัชกรรม ที่วิจัย พัฒนาและผลิตเอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.แล้ว ต้น ส.ค.นี้เริ่มกระจายเข้าระบบการรักษาผู้ป่วยโควิด ระยะแรกผลิตได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 2 ล้านเม็ด และจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กล่าวว่า ยาฟาเวียร์ (200มิลลิกรัมต่อเม็ด) มีชื่อสามัญทางยา คือ ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir ) ที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ดำเนินการ วิจัย พัฒนา และผลิตเอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เรียบร้อยแล้ว โดยยาฟาเวียร์เป็นผลิตภัณฑ์ยาสามัญรายแรกของประเทศไทยมีคุณภาพมาตรฐานสากล จะเริ่มผลิตและกระจายให้ผู้ป่วยได้ใช้ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยในระยะแรกผลิตได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 2 ล้านเม็ด ที่โรงงานขององค์การฯ ที่ถนนพระราม 6 และจะขยายกำลังการผลิตไปยังโรงงานผลิตยาที่ คลอง10 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การผลิตยาดังกล่าวขององค์การฯครั้งนี้ ทำให้ราคายาถูกลงกว่าการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ส่งผลให้รัฐประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศ “ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นรายการยาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 […]

มาเลเซียจะใช้วัคซีนโควิดที่กำลังพัฒนาเป็นเข็ม 3

สถาบันเพื่อการวิจัยการแพทย์มาเลเซียเผยว่า มาเลเซียจะใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเพื่อลดการพึ่งพาวัคซีนนำเข้าเพียงอย่างเดียว

ผนึกเครือข่ายนักวิจัยอาเซียนพัฒนาเยาวชนอาเซียนอย่างยั่งยืน

“SEAMEO STEM-ED” หรือศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับเชฟรอน จัดประชุมนักวิจัยระดับนานาชาติ เพื่อหาแนวทางพัฒนาสะเต็มศึกษา ผลักดันเชิงนโยบาย พัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาเยาวชนอาเซียนที่พบว่าคุณภาพการศึกษาของต่ำกว่าเกณฑ์โลก

กาญจนบุรีเตรียมพัฒนา “น้ำพุโซดา” เป็นแหล่งท่องเที่ยว

จ.กาญจนบุรี เตรียมพัฒนา “น้ำพุโซดา” เป็นแหล่งท่องเที่ยว หลังอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลยืนยันเป็นน้ำคุณภาพดีที่สุดในไทย ด้านผู้ว่าฯ กาญจนบุรี เบรกข้อขัดแย้งเรื่องที่ดิน วอนจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

คิวบาจับมืออิหร่านพัฒนาวัคซีนโควิด

ผู้แทนรัฐบาลคิวบาและอิหร่านลงนามร่วมพัฒนาและทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งเป้าเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วยวัคซีนของตัวเองภายใน 6 เดือนแรกของปีนี้

สหรัฐจะคืนที่ตั้งทางทหารบางแห่งให้เกาหลีใต้

โซล 11 ธ.ค.- กองทัพสหรัฐตกลงในวันนี้ว่า จะคืนที่ตั้งทางทหาร 12 แห่งให้แก่เกาหลีใต้ บางแห่งอยู่ใจกลางกรุงโซล หลังจากรับปากตั้งแต่ปี 2545 ว่าจะคืนให้ทั้งหมด 80 แห่ง เพื่อให้เกาหลีใต้นำไปปรับปรุงพัฒนา สหรัฐประจำการทหารในเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลีปี 2493-2496 หลายปีมานี้ทั้งสองประเทศถกเถียงกันเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลทหารอเมริกัน 28,500 นายในเกาหลีใต้ กองกำลังสหรัฐในเกาหลีหรือยูเอสเอฟเค (USFK) เห็นพ้องในปี 2545 ว่าจะส่งคืนที่ตั้งทางทหาร 80 แห่งให้เกาหลีใต้นำไปปรับปรุงพัฒนา แต่ล่าช้ามาจนถึงปัจจุบันเพราะตกลงกันไม่ได้เรื่องค่าใช้จ่ายทำความสะอาดก่อนส่งคืน หน่วยงานรัฐบาลเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปเรื่องแผนการส่งคืนที่ตั้งทางทหาร 12 แห่ง โดยมีเงื่อนไขว่า จะหารือเรื่องค่าใช้จ่ายทำความสะอาดต่อไป ในจำนวนนี้ 6 แห่งอยู่ในกรุงโซล รัฐบาลจะปรับปรุงพื้นที่ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่พักและการค้าเพื่อชะลอราคาห้องชุดพักอาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขและทางการกรุงโซลกำลังพิจารณาแผนสร้างโรงพยาบาลรัฐเฉพาะด้านโรคติดเชื้อ ณ ที่ตั้งทางทหารหนึ่งแห่งที่ได้รับคืน ชาวเกาหลีใต้ในหลายพื้นที่ประท้วงมาหลายปีให้กองทัพสหรัฐคืนพื้นที่ให้พลเรือน เพราะเห็นว่าการมีที่ตั้งทางทหารเป็นอุปสรรคต่อแผนการพัฒนาและไม่เป็นผลดีต่อราคาอสังหาริมทรัพย์.-สำนักข่าวไทย

โพลชี้หญิงอเมริกันกังวลวัคซีนโควิดมากกว่าชาย

นิวยอร์ก 11 ธ.ค. – ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันของรอยเตอร์/อิปซอสชี้ว่า ผู้หญิงชาวอเมริกันรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าผู้ชายเรื่องการรีบเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในช่วงวันที่ 2 – 8 ธันวาคมที่ผ่านมาพบว่า ผู้หญิงอเมริกันร้อยละ 35 ระบุว่า ไม่สนใจเท่าใดหรือไม่สนใจเลยที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9 จากผลสำรวจครั้งก่อนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่วัคซีนอยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่ผู้หญิงร้อยละ 55 ระบุว่า สนใจมากหรือค่อนข้างสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ลดลงร้อยละ 6 จากครั้งก่อน อย่างไรก็ดี ผู้ชายอเมริกันร้อยละ 68 บอกว่า สนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งไม่ต่างไปจากผลสำรวจครั้งที่แล้ว ผลสำรวจเดือนนี้พบว่า ในภาพรวมแล้วชาวอเมริกันที่ยินดีฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีร้อยละ 61 ลดลงร้อยละ 4 จากผลสำรวจเดือนพฤษภาคม และพบว่า ผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานฉีดวัคซีนลดลงจากร้อยละ 62 เหลือร้อยละ 53 ผู้อำนวยการศาสตร์การดำเนินการและพฤติกรรมของคณะสาธารณสุขจอห์นส์ฮอปกินส์บลูมเบิร์ก มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ของสหรัฐกล่าวว่า การโน้มน้าวผู้หญิงให้ยอมรับวัคซีนมีความสำคัญต่อการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ที่เป็นแม่มักเป็นคนที่จัดการนัดพบแพทย์และคอยติดตามการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ผู้หญิงมีความระมัดระวังสูง และชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การทำให้พวกเธอเชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้ใช้ขั้นตอนลัดในกระบวนการอนุมัติจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง. -สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 8
...