บีบีซีเผยจีนจับนักข่าวทำข่าวประท้วงคุมโควิด

ลอนดอน 28 พ.ย.- บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) เผยว่า ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งในจีนถูกตำรวจจับกุมและทุบตีขณะรายงานข่าวการประท้วงต่อต้านมาตรการคุมโควิดเป็นศูนย์ บีบีซีแถลงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีความกังวลอย่างยิ่งเรื่องการปฏิบัติต่อนายเอ็ดเวิร์ด ลอว์เรนซ์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซีที่ถูกจับกุมและใส่กุญแจมือ ขณะรายงานข่าวการประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ นายลอว์เรนซ์ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับการยอมรับนับถือ ถูกควบคุมตัวเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยถูกตำรวจจีนทุบตีและเตะในระหว่างนั้น ก่อนปล่อยตัวในเวลาต่อมา บีบีซีไม่ได้รับคำชี้แจงอย่างเป็นทางการหรือคำขอโทษใด ๆ จากทางการจีน นอกเหนือไปจากการกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยตัวนายลอว์เรนซ์ว่า ควบคุมตัวเพื่อประโยชน์ของเขาเอง เพราะเกรงว่าเขาจะติดโควิดจากฝูงชน บีบีซีไม่คิดว่า คำชี้แจงนี้มีความน่าเชื่อถือ บัญชีทวิตเตอร์ของนายลอว์เรนซ์บรรยายตัวเองว่า ทำงานเป็นผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาวุโสให้แก่สำนักงานจีนของบีบีซี.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐชี้มกุฎราชกุมารซาอุฯ รอดจากคดีนักข่าวถูกฆ่า

วอชิงตัน 18 พ.ย.- รัฐบาลสหรัฐลงความเห็นว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด แห่งซาอุดีอาระเบียได้รับความคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในคดีนักข่าวซาอุดีอาระเบียถูกสังหารเมื่อปี 2561 รัฐบาลสหรัฐส่งหนังสือถึงศาลแขวงดิสทริคออฟโคลอมเบียว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมานในฐานะจำเลย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล จึงได้รับความคุ้มครองจากคดีนี้ อย่างไรก็ดี กระทรวงต่างประเทศไม่ขอแสดงความเห็นต่อความถูกผิดของคดี และขอยืนยันประณามการที่นายจามาล คาชอกจี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียถูกสังหารอย่างโหดร้าย นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐให้ความเห็นในคดีนี้ ซึ่งจะไม่มีผลผูกพันต่อการตัดสินของศาล ความเห็นดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มผู้สนับสนุนคู่หมั้นของนายคาชอกจีที่ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อศาลในสหรัฐ บางคนมองว่ารัฐบาลโจ ไบเดนทรยศ ทั้งที่เมื่อปีที่แล้วเพิ่งเปิดเผยรายงานข่าวกรองที่ระบุว่า เจ้าชายซาอุดีอาระเบียสั่งการให้สังหารนายคาชอกจี คู่หมั้นของเขายื่นฟ้องว่า เจ้าชายและจำเลยร่วมอีกมากกว่า 20 คนกระทำการด้วยการคบคิดและไตร่ตรองไว้ก่อนในการลักพาตัว มอมยา ทรมาน และสังหารนายคาชอกจี คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียที่นครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ขณะที่เขามีอายุ 59 ปี ก่อนหน้านี้ทนายความของเจ้าชายให้การโต้แย้งว่า เจ้าชายเป็นหัวหน้ารัฐบาลซาอุดีอาระเบีย จึงมีคุณสมบัติที่จะได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับที่ศาลในสหรัฐให้แก่ประมุขของรัฐและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างชาติ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ดำรงตำแหน่งมกุฏราชการตั้งแต่ปี 2560 และได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนกันยายนปีนี้.-สำนักข่าวไทย

มกุฎราชกุมารซาอุฯ เยือนตุรกีเยียวยาสัมพันธ์

อังการา 22 มิ.ย.- เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซิซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียมีกำหนดเสด็จถึงกรุงอังการาในวันนี้ เพื่อเสด็จเยือนตุรกีเป็นครั้งแรกในช่วงที่ทั้งสองประเทศเดินหน้าเยียวยาความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานจากเหตุสังหารผู้สื่อข่าวซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายมุฮัมหมัดเสด็จเยือนตุรกีเป็นประเทศสุดท้ายของการตระเวนเยือนตะวันออกกลาง หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนอียิปต์และจอร์แดน และมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐจะเยือนภูมิภาคนี้ในเดือนหน้า ด้านประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ของตุรกีกล่าวถึงการพบหารือกับเจ้าชายว่า จะเน้นเรื่องการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก เขาเพิ่งไปเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อเดือนเมษายน หลังเกิดเหตุนายจามาล คาชอกจี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีในปี 2561 ตุรกีเปิดการไต่สวนลับหลังผู้ต้องสงสัยชาวซาอุดีอาระเบีย 26 คนในคดีนี้ แต่ศาลมีคำสั่งเมื่อต้นปีนี้ให้ระงับการไต่สวนและส่งคดีกลับไปยังซาอุดีอาระเบีย เปิดทางให้สองประเทศสานความสัมพันธ์กันอีกครั้ง หน่วยข่าวกรองของสหรัฐระบุว่า มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเป็นผู้อนุมัติให้สังหารหรือจับตัวนายคาชอกจี เจ้าชายปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ระบุว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นตรงกับเขา ขณะที่ผู้นำตุรกีไม่เคยเอ่ยชื่อเจ้าชาย แต่กล่าวว่าเป็นคำสั่งของบุคคลระดับสูงสุดของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เอพีตั้งข้อสังเกตว่า ตุรกีพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในช่วงตุรกีกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ และหาทางดึงดูดการลงทุนจากประเทศร่ำรวยริมอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนี้ยังดำเนินมาตรการปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ และอิสราเอลด้วย ขณะที่ซาอุดีอาระเบียพยายามขยายประเทศพันธมิตรให้กว้างขวางขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐตึงเครียด.-สำนักข่าวไทย

เหรียญโนเบลสันติภาพช่วยเด็กยูเครนทุบสถิติราคาประมูล

นิวยอร์ก 21 มิ.ย.- เหรียญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียนำออกประมูลเพื่อนำเงินไปช่วยเด็กในยูเครน ปิดประมูลด้วยราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 103.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,659 ล้านบาท) เฮอริเทจ ออกชันส์ บริษัทที่จัดการประมูลที่นครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวานนี้ซึ่งตรงกับวันผู้ลี้ภัยโลกแถลงว่า เงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมดจะมอบให้แก่องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ เพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กพลัดถิ่นเพราะสงครามยูเครน บริษัทแถลงก่อนการประมูลว่า นายดมิทรี มูราตอฟ เจ้าของเหรียญรางวัล อนุญาตให้นำออกประมูล ไม่ใช่ในฐานะของสะสม แต่ในฐานะเหตุการณ์หนึ่งที่เขาหวังว่าจะช่วยให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนหลายล้านคนมีชีวิตที่ดีขึ้น สื่อในสหรัฐระบุว่า เป็นเหรียญรางวัลโนเบลที่ทำสถิติราคาประมูลสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ลบสถิติเหรียญรางวัลโนเบลที่เคยประมูลในราคาสูงสุดไม่ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่เกิน 177 ล้านบาท) นายดมิทรี มูราตอฟ วัย 60 ปี ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์อิสระโนวายา กาเซตา และดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารในช่วงที่หนังสือพิมพ์ถูกปิดในเดือนมีนาคมปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลรัสเซียกวาดล้างสื่อที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2564 ร่วมกับนางมาเรีย เรสซา วัย 58 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งแรปเปลอร์ เว็บไซต์ข่าวในฟิลิปปินส์ จากผลงานการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงความเห็นในประเทศของตนเองอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดหนื่อย แม้ว่าถูกคุกคามถึงขั้นขู่เอาชีวิต ทั้งคู่ได้รับเหรียญรางวัลคนละเหรียญและเงินรางวัลร่วมกัน 10 ล้านโครนาสวีเดน (ราว 34.75 […]

ประมูลเหรียญโนเบลสันติภาพช่วยเด็กยูเครน

นิวยอร์ก 20 มิ.ย.- ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซียเปิดประมูลเหรียญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ได้รับเมื่อปลายปีก่อน เพื่อมอบเงินให้องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟนำไปช่วยเหลือเด็กพลัดถิ่นเพราะสงครามยูเครน นายดมิทรี มูราตอฟ วัย 60 ปี ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์อิสระโนวายา กาเซตา และดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารในช่วงที่หนังสือพิมพ์ถูกปิดในเดือนมีนาคมปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลรัสเซียกวาดล้างสื่อที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาเดินทางออกจากรัสเซียไปยังประเทศในยุโรปตะวันตกตั้งแต่วันพฤหัสบดี เพื่อเดินทางต่อไปยังนครนิวยอร์กของสหรัฐ และจะมีการเปิดประมูลสดในบ่ายวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ ตรงกับวันผู้ลี้ภัยโลก หลังจากที่เริ่มการประมูลออนไลน์มาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ตรงกับวันเด็กสากล เฮอริเทจออกชันส์ บริษัทผู้จัดการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายได้เผยแพร่คลิปของนายมูราตอฟที่กล่าวว่า อยากให้การประมูลของเขาเป็นจุดเริ่มต้นให้คนอื่น ๆ เปิดประมูลของมีค่าของตนเองเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือชาวยูเครน เขาเคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่า เป็นห่วงเด็ก ๆ ที่ต้องเป็นกำพร้าเพราะสงครามยูเครน จึงอยากคืนอนาคตให้แก่เด็ก ๆ เหล่านี้ และย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของประชาคมโลกจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ผู้เดือดร้อน นายมูราตอฟได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2564 ร่วมกับนางมาเรีย เรสซา วัย 58 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งแรปเปลอร์ เว็บไซต์ข่าวในฟิลิปปินส์ จากผลงานการต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงความเห็นในประเทศของตนเองอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดหนื่อย แม้ว่าถูกคุกคามถึงขั้นขู่เอาชีวิต ทั้งคู่ได้รับเหรียญรางวัลคนละเหรียญและเงินรางวัลร่วมกัน 10 ล้านโครนาสวีเดน (ราว 34.75 ล้านบาท) นอกจากประมูลเหรียญโนเบลเพื่อมอบเงินให้แก่ยูนิเซฟแล้ว นายมูราตอฟยังมอบเงินสดให้ยูนิเซฟอีก 500,000 […]

คาดสหรัฐจะประกาศเรื่อง “ไบเดน” เตรียมเยือนซาอุฯ

วอชิงตัน 13 มิ.ย.- แหล่งข่าวเผยว่า ทำเนียบขาวจะประกาศในสัปดาห์นี้เรื่องประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนหน้า และอาจจะต้องพบมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ที่เขาเคยประณามเรื่องผู้สื่อข่าวถูกสังหารในตุรกี แหล่งข่าวเผยว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีขึ้นราวกลางเดือนกรกฎาคม ขณะที่โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยืนยันว่า กำลังมีการเตรียมการเรื่องประธานาธิบดีไบเดนเยือนซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันในรายละเอียดได้ แต่จะประกาศทันทีที่สามารถทำได้ รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า การเยือนดังกล่าวน่าจะมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในช่วงที่ผู้นำสหรัฐกำลังหาทางทำให้น้ำมันเบนซินในประเทศมีราคาลดลง ทำเนียบขาวเคยแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนคิดว่า เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเป็นบุคคลน่ารังเกียจ เพราะมีส่วนร่วมในการสังหารนายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่ต่อต้านรัฐบาลและทำงานให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐ นายคาชอกกีถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี 2561 โดยมีรายงานข่าวว่าเขาถูกฆ่าหั่นศพ ขณะที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐหรือซีไอเอ (CIA) สรุปว่า เจ้าชายซาอุดีอาระเบียเป็นผู้สั่งการสังหาร.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” อาจเยือนซาอุดีอาระเบียเร็ว ๆ นี้

วอชิงตัน 2 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐมีแนวโน้มจะไปเยือนซาอุดีอาระเบียในเร็ว ๆ นี้ และน่าจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกกับเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัลซาอุด มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ผู้ที่เขาเคยตราหน้าว่าเป็นฆาตกร แหล่งข่าวเผยว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาเรื่องการเยือนซาอุดีอาระเบียของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งจะรวมถึงการประชุมกับผู้นำกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับหรือจีซีซี (GCC) 6 ประเทศประกอบด้วยบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และผู้นำอียิปต์ อิรัก และจอร์แดน เรื่องนี้มีขึ้นในช่วงที่ผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์เรื่องน้ำมันและความมั่นคงบีบให้รัฐบาลสหรัฐต้องทบทวนนโยบายรักษาระยะห่างกับซาอุดีอาระเบียที่ไบเดนได้หาเสียงไว้ระหว่างลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่อาจทำให้ไบเดนวัย 79 ปี ดูต่ำต้อยในสายตาสาธารณะ เพราะน่าจะต้องพบกับมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียพระชนมายุ 36 พรรษา ผู้ปกครองประเทศโดยพฤตินัย ที่ไบเดนเคยประณามจากกรณีผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียถูกฆ่าหั่นศพในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกีเมื่อปี 2561 โฆษกทำเนียบขาวไม่ให้ความเห็นว่า ผู้นำสหรัฐจะไปเยือนซาอุดีอาระเบียหรือไม่ แต่เขามีกำหนดเยือนยุโรปในปลายเดือนมิถุนายนนี้.-สำนักข่าวไทย

จีนไต่สวนนักข่าวออสเตรเลียที่ถูกจับเกือบ 2 ปีก่อน

ปักกิ่ง 31 มี.ค.- ศาลกรุงปักกิ่งของจีนเปิดการไต่สวนเป็นการภายในกับนางเฉิง เหล่ย ผู้สื่อข่าวและอดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีนที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ข้อหาขโมยความลับของรัฐให้แก่ต่างชาติ นายแกรแฮม เฟล็ตเชอร์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำจีนเผยกับสื่อหน้าห้องพิจารณาคดีในวันนี้ว่า เขาและเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวน ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล น่าผิดหวัง และน่าเสียใจอย่างยิ่ง ออสเตรเลียไม่สามารถให้ความเชื่อถือกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างลับ ๆ และจะเดินหน้าสนับสนุนสิทธิของนางเฉิงอย่างแข็งขันต่อไป ส่วนเรื่องสุขภาพของเธอขณะนี้ดีขึ้นแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไม่แข็งแรงในช่วงที่ถูกควบคุมตัว ด้านทนายความเผยว่า เธอแข็งแรงดีทั้งกายและใจ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียเผยด้วยว่า ได้ขอให้ศาลจีนอนุญาตให้เธอได้พูดคุยกับลูก ๆ เพราะขาดการติดต่อไปตั้งแต่ถูกควบคุมตัว ครอบครัวที่ออสเตรเลียออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ลูก ๆ 2 คนและบิดามารดาวัยชราคิดถึงเธอเหลือเกิน หวังว่าเธอจะได้กลับมาพร้อมหน้าครอบครัวโดยเร็วที่สุด นางเฉิง วัย 46-47 ปี เป็นผู้ประกาศข่าวของซีจีทีเอ็น (CGTN) ซึ่งเป็นสถานีกระจายเสียงแพร่ภาพเป็นภาษาอังกฤษของทางการจีนในกรุงปักกิ่งมาตั้งแต่ปี 2555 เธอหายไปจากหน้าจออย่างกะทันหันในเดือนสิงหาคม 2563 โดยที่ญาติมิตรไม่สามารถติดต่อได้ และประวัติการทำงานถูกลบออกจากเว็บไซต์ของซีจีทีเอ็น ทางการจีนประกาศในเบื้องต้นว่า เธอถูกควบคุมตัวในข้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ ต่อมาประกาศจับกุมเธออย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ข้อหาเป็นจารชน ด้านออสเตรเลียเผยว่า ตัวแทนทางการได้รับอนุญาตให้พบเธอเพียงเดือนละ 1 ครั้ง นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและจีนที่เสื่อมถอยลงในช่วงหลายปีมานี้ทำให้การเจรจาเพื่อขอให้จีนปล่อยตัวเธอเป็นไปได้ยากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

สื่อหยุดรายงานข่าวหลัง “ปูติน” ใช้กฎหมาย “ข่าวเท็จ”

ลอนดอน 5 มี.ค.- สื่อระดับสากลหลายแห่งระงับการรายงานข่าวในรัสเซียแล้วเพื่อคุ้มครองผู้สื่อข่าว หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียออกกฎหมายใหม่กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี กับผู้เผยแพร่ข่าวเท็จ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแคนาดา สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น และซีบีเอสนิวส์ของสหรัฐประกาศงดการรายงานข่าวในรัสเซีย ขณะที่สื่ออื่น ๆ งดให้นักข่าวในรัสเซียเป็นผู้เขียนข่าว หลังจากรัสเซียหาทางตอบโต้การทำสงครามข่าวสาร โดยอ้างว่าศัตรูอย่างสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกแพร่กระจายข่าวเท็จหวังให้ชาวรัสเซียเกิดความแตกแยก รัสเซียบล็อคเฟซบุ๊กโดยอ้างว่าเลือกปฏิบัติต่อสื่อรัสเซียและจำกัดการเข้าถึงทวิตเตอร์ ขณะที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้การเผยแพร่ข่าวเท็จเป็นความผิดที่มีโทษปรับเงินหรือจำคุก และกำหนดโทษปรับเงินผู้เรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนด้วย สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า วุฒิสภาเป็นผู้ร่างกฎหมายแก้ไขดังกล่าว และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาดูมาที่ระบุว่า หากข่าวเท็จนำมาซึ่งผลร้ายแรง ผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกสูงสุด 15 ปี จากนั้นส่งให้ประธานาธิบดีปูตินลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

CNN อ้างได้ยินเสียงระเบิดทั่วยูเครนเช้ามืดวันนี้

เคียฟ 24 ก.พ.- ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็น (CNN) และผู้เห็นเหตุการณ์ในหลายเมืองทั่วยูเครนรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังในช่วงเช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นในกรุงเคียฟรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดจากฝั่งตะวันออกของเมือง โดยเป็นทิศทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเคียฟที่อยู่นอกเมือง 25 กิโลเมตร แต่ไม่ได้ยืนยันว่า ท่าอากาศยานถูกโจมตีหรือไม่ ด้านผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อ้างว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งในเขตบอรีสปิลที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเคียฟ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง ขณะที่ชาวเมืองครามาตอร์สก์ซึ่งอยู่ห่างจากแคว้นโดเนตสก์ขึ้นไปทางเหนือ 120 กิโลเมตรเผยว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 2 ครั้ง ชาวเมืองดนิโปร ทางตอนกลางของยูเครนได้ยินเสียงระเบิดไม่กี่ครั้ง ชาวเมืองมาริอูโปล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนได้ยินเสียงระเบิดทางฝั่งตะวันออกของเมือง ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นในเมืองโอเดซซาริมทะเลดำได้ยินเสียงระเบิดดัง 2 ชุด ห่างกันราว 20 นาที ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นในเมืองซาโปริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนได้ยินเสียงระเบิดไกลมากอย่างน้อย 1 ครั้ง และผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นในเมืองเบลโกรอดของรัสเซียที่อยู่ห่างจากเมืองคาร์คิฟของยูเครนขึ้นไปทางเหนือ 80 กิโลเมตรได้ยินดังต่อเนื่องคล้ายกับการยิงปืนใหญ่.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” สบถใส่นักข่าวถามเรื่องเงินเฟ้อ

วอชิงตัน 25 ม.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐสบถใส่ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ที่ตะโกนถามว่าภาวะเงินเฟ้อมีผลต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาปีนี้หรือไม่ นายปีเตอร์ ดูซี ตะโกนถามในขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกำลังให้กลุ่มผู้สื่อข่าวออกจากที่ประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าเมื่อเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สามารถถามเรื่องภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่ และเรื่องนี้เป็นความผิดทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งหมายถึงภาวะเงินเฟ้อสหรัฐที่เพิ่มขึ้นต่อปีทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ทศวรรษเมื่อเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีไบเดนตอบกลับอย่างเหน็บแนมในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ พากันตะโกนถามอย่างเช็งแซ่ว่า เป็นเพราะมีทรัพย์สินมากขึ้นถึงได้มีเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จากนั้นสบถโดยที่อาจไม่รู้ตัวว่ายังไม่ได้ปิดไมโครโฟนว่า “What a stupid son of a bitch” นายดูซีเผยกับผู้ดำเนินรายการข่าวของฟ็อกซ์ นิวส์ ในเวลาต่อมาว่า ประธานาธิบดีได้โทรศัพท์มาหาเขาในอีกไม่ถึงชั่วโมงว่าไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัว นายดูซีวัย 34 ปี เป็นผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวที่มักถามคำถามเชิงวิพากษ์วิจารณ์และปะทะคารมกับประธานาธิบดีเดนหลายครั้ง เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ที่เขาทำงานอยู่ที่มักวิจารณ์ประธานาธิบดีไบเดนและพรรคเดโมแครต ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนรับปากเมื่อครั้งรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีก่อนว่า จะไล่ออกเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น.-สำนักข่าวไทย

นักข่าวติดตามคณะ “บลิงเคน” เยือนอาเซียน ติดโควิด

กัวลาลัมเปอร์ 15 ธ.ค.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่ติดตามคณะของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเยือนอังกฤษ และ 3 ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวก โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งในคณะผู้สื่อข่าว 12 คน มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อวันพุธที่มาเลเซีย ส่วนผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ รวมทั้งนายบลิงเคนและคณะเจ้าหน้าที่ไม่มีใครมีผลตรวจเป็นบวก นายบลิงเคนเดินทางจากกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย มาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อเย็นวันอังคาร และเดินทางต่อมาที่ไทยเป็นจุดหมายสุดท้ายในวันนี้ โดยได้ไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่เมืองลิเวอร์พูลของอังกฤษเป็นแห่งแรกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐตรวจหาเชื้อด้วยวิธีพีซีอาร์ (PCR) ทุกวันกับทุกคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกับนายบลิงเคน ส่วนผู้สื่อข่าวที่มีผลตรวจเป็นบวกที่มาเลเซีย เพิ่งมีผลตรวจเป็นลบที่อังกฤษและจาการ์ตา ขณะนี้ถูกแยกกักโรคแล้ว.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 6
...