ปูติน แสดงความยินดี ครบรอบ 6 ปี ก่อตั้งกองกำลังป้องกันชาติ
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี การก่อตั้งกองกำลังป้องกันชาติ ที่เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการทางทหารในแคว้นดอนบาส ของยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี การก่อตั้งกองกำลังป้องกันชาติ ที่เป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการทางทหารในแคว้นดอนบาส ของยูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวในระหว่างเยือนกรุงวอร์ซอร์ ของโปแลนด์เมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่สามารถอยู่ในอำนาจปกครองรัสเซียต่อไป ซึ่งถือเป็นการแสดงความเห็นที่รุนแรงทำให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐต้องออกมาชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ไม่ได้หมายความเรื่องการเปลี่ยนแปลงการบริหารประเทศของรัสเซียแต่อย่างใด
นับตั้งแต่เปิดฉากทำสงครามกับยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เกิดอาการหวาดระแวงอย่างหนัก สั่งปลดเจ้าหน้าที่ทำเนียบเครมลินแล้วนับพันคน เปลี่ยนมานอนตอนเช้า และสั่งทดสอบหายาพิษในอาหารทุกมื้อ
นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและสเปน หารือวิกฤติสงครามในยูเครน โดยร่วมกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ถอนทัพออกจากยูเครนโดยเร็ว
หลังจากทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แถลงว่า ปฏิบัติการในยูเครนไม่ใช่สงคราม พร้อมชี้ถึงเหตุผลและความจำเป็น วันนี้ สถานทูตยูเครนในไทย ได้เปิดแถลงชี้ว่า นี่เป็นสงครามการรุกรานของ “ปูติน”
มอสโก 17 มี.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวปราศรัยล่าสุดเกี่ยวกับยูเครนและชาติตะวันตกเมื่อวานนี้ว่า การที่บรรดาประเทศตะวันตกยึดติดอยู่กับการครอบงำที่แตกสลายคือ ตัวขับเคลื่อนพื้นฐานที่ทำให้เกิดวิกฤติขณะนี้ เว็บไซต์รัสเซียทูเดย์หรืออาร์ที (RT) ซึ่งเป็นสื่อทางการรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินใช้การหารือกับผู้นำระดับภูมิภาคเรื่องมาตรการสนับสนุนทางสังคมและเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย พูดเรื่องความขัดแย้งกับยูเครน สาเหตุของความขัดแย้งและเป้าหมายของรัสเซียว่า การเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษเป็นทางเลือกเดียวที่รัสเซียเหลืออยู่ เพื่อยุติเหตุนองเลือดนานหลายปีทางภาคตะวันออกของยูเครน เพราะการจำกัดขอบเขตของรัสเซียไว้ที่สาธารณรัฐในภูมิภาคดอนบาสที่แยกตัวจากยูเครนจะเป็นเพียงการผลักดัน “แนวหน้า” ไปทางตะวันตกเท่านั้น ไม่สามารถปลดชนวนสถานการณ์ความขัดแย้งได้ พร้อมกับกล่าวหายูเครนว่า เตรียมเปิดฉากบุกครั้งใหญ่เพื่อรวบสาธารณรัฐที่แยกตัวไปกลับคืน ทำให้พลเรือนและเด็กเกือบ 14,000 คนถูกสังหาร อีกทั้งยังหาทางโจมตีคาบสมุทรไครเมียที่แยกตัวจากยูเครนในปี 2557 แล้วมารวมกับรัสเซียผ่านการลงประชามติ ยูเครนได้รับแรงยุจากสหรัฐและชาติตะวันตกให้เตรียมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดอนบาส แต่กองกำลังรัสเซียสามารถทำลายแผนการเหล่านี้ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวหายูเครนว่า ต้องการมีอาวุธทำลายล้างอย่างระเบิดนิวเคลียร์เพื่อใช้กับรัสเซีย มีเครือข่ายห้องทดลองปฏิบัติการที่ทำโครงการอาวุธชีวภาพ เช่น เชื้อโรคต่าง ๆ โดยได้รับคำแนะนำและสนับสนุนทางการเงินจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ รัฐบาลยูเครนที่มีตะวันตกเป็นเจ้านายได้เปลี่ยนยูเครนให้หันมาต่อต้านรัสเซียอย่างก้าวร้าว โดยไม่สนใจชะตากรรมของประชาชน และรับความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกเพื่อให้การนองเลือดยืดเยื้อ ผู้นำรัสเซียระบุว่า ความปรารถนาของตะวันตกที่ต้องการคงไว้ซึ่งการครอบงำโลกคือ ต้นเหตุของวิกฤตในยูเครนและอีกหลายแห่งทั่วโลก วันนี้ทั้งโลกต้องสูญเสียให้แก่ความทะเยอทะยานของตะวันตกที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อคงไว้ซึ่งการครอบงำที่แตกสลาย ตะวันตกที่ห่วงแต่ผลประโยชน์และผลกำไรนำโลกเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาดและตื้นเขินมาตลอดหลายปี เช่น การใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่กำลังส่งผลกระทบต่อคนทั่วไปในโลกตะวันตก แต่กลับพยายามโทษว่าเป็นความผิดของรัสเซีย อาร์ทีปิดท้ายรายงานด้วยการยกคำกล่าวของปูตินขึ้นเป็นข้อความตัวใหญ่ว่า เขาต้องการให้ชาวตะวันตกทั่วไปได้ยินคำพูดของเขาเช่นกัน การบอกกล่าวซ้ำ ๆ ว่าความลำบากในขณะนี้เป็นผลจากการกระทำที่เป็นปรปักษ์ของรัสเซีย และทางการต้องนำเงินของประชาชนมารับมือกับภัยของรัสเซียนั้น […]
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเปิดไฟเขียวในวันนี้ ให้นำอาสาสมัครนักรบจากตะวันออกกลางมาร่วมกองทัพรัสเซียในการช่วยรบในยูเครน
นีซ 7 มี.ค.- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสยังคงติดต่อสื่อสารกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แม้ว่าผู้นำโลกหลายคนหันหลังให้ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่สั่งกองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีมาครงในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) พยายามใช้วิถีทางทางการทูตสกัดการเกิดสงครามแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ดี เขายังคงสนทนากับประธานาธิบดีปูติน โดยนับได้ 4 ครั้งตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ 11 ครั้งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ นายเบนจามิน ฮัดดัน สมาชิกพรรคอ็องมาร์ชของมาครงเผยว่า ประธานาธิบดีต้องการเปิดช่องทางทางการทูตเอาไว้ เผื่อปูตินอาจต้องการคลี่คลายความตึงเครียดและหาทางออกจากวิกฤต ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนในการสนทนากับปูตินแทนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน หวังได้ความเมตตาบางอย่าง เช่น หยุดยิงบางพื้นที่ เปิดเส้นทางหลบหนีอย่างปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปะทะ และการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านนายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวถึงเสียงวิจารณ์เรื่องมาครงติดกับดักเก่า ๆ ของยุโรปที่มักเอาใจรัสเซียว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่าต้องใช้วิธีใด รู้ลักษณะและนิสัยของผู้นำรัสเซีย ซิลเวีย โคลอมโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอียู สถาบันระหว่างประเทศในกรุงโรมของอิตาลีมองว่า มาครงแตกต่างจากผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ตรงที่เขาเต็มใจจะถูกจับจ้องจากทุกฝ่ายเพื่อผลักดันนโยบายต่างประเทศที่วางไว้ เขาเคยให้การต้อนรับประธานาธิบดีปูตินครั้งแรกที่พระราชวังแวร์ซายส์ในปี 2560 หลังจากนั้น […]
“ปูติน” พบปะหารือกับลูกเรือหญิง ที่โรงเรียนการบินแอโรฟลอต ในกรุงมอสโก ก่อนถึงวันสตรีสากล 8 มี.ค.นี้ พร้อมย้ำปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เพื่อปกป้องชุมชนผู้พูดภาษารัสเซีย
ลอนดอน 5 มี.ค.- สื่อระดับสากลหลายแห่งระงับการรายงานข่าวในรัสเซียแล้วเพื่อคุ้มครองผู้สื่อข่าว หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียออกกฎหมายใหม่กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี กับผู้เผยแพร่ข่าวเท็จ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงแคนาดา สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซีเอ็นเอ็น และซีบีเอสนิวส์ของสหรัฐประกาศงดการรายงานข่าวในรัสเซีย ขณะที่สื่ออื่น ๆ งดให้นักข่าวในรัสเซียเป็นผู้เขียนข่าว หลังจากรัสเซียหาทางตอบโต้การทำสงครามข่าวสาร โดยอ้างว่าศัตรูอย่างสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกแพร่กระจายข่าวเท็จหวังให้ชาวรัสเซียเกิดความแตกแยก รัสเซียบล็อคเฟซบุ๊กโดยอ้างว่าเลือกปฏิบัติต่อสื่อรัสเซียและจำกัดการเข้าถึงทวิตเตอร์ ขณะที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาให้การเผยแพร่ข่าวเท็จเป็นความผิดที่มีโทษปรับเงินหรือจำคุก และกำหนดโทษปรับเงินผู้เรียกร้องให้คว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนด้วย สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า วุฒิสภาเป็นผู้ร่างกฎหมายแก้ไขดังกล่าว และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาดูมาที่ระบุว่า หากข่าวเท็จนำมาซึ่งผลร้ายแรง ผู้กระทำผิดจะถูกจำคุกสูงสุด 15 ปี จากนั้นส่งให้ประธานาธิบดีปูตินลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 2 มี.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ใช้การแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา หรือ “สเตท ออฟ เดอะ ยูเนียน” ประณามประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรื่องรุกรานยูเครน ประธานาธิบดีแถลงต่อสภาเมื่อค่ำวันอังคารตามเวลาสหรัฐ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน โดยเขาขอให้ทุกคนยืนขึ้นปรบมือเพื่อแสดงความสนับสนุนชาวยูเครนที่กำลังเผชิญการรุกรานจากรัสเซีย และเปิดฉากวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินว่า คำนวณสถานการณ์ผิดอย่างร้ายแรง ขณะนี้เศรษฐกิจรัสเซียกำลังซวนเซ ทั้งหมดต้องโทษปูตินที่คิดว่า บุกเข้าไปในยูเครนแล้วโลกจะเปลี่ยนไป แต่กลับเจอกำแพงแห่งความแข็งแกร่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และชาวยูเครนทุกคนได้แสดงให้เห็นถึงความไม่กลัว ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งโลก สงครามของปูตินเป็นสิ่งที่ไตร่ตรองไว้ก่อนทั้งที่ไม่มีการยั่วยุ ปูตินไม่ยอมรับความพยายามทางการทูต และคิดผิดว่าชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะไม่ตอบโต้ ผู้นำสหรัฐประกาศด้วยว่า สหรัฐจะห้ามเครื่องบินรัสเซียเข้าน่านฟ้า เช่นเดียวกับที่หลายประเทศได้ดำเนินการแล้ว ด้านนางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ได้เชิญนางออคซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐ เดินทางพร้อมกับขบวนรถของประธานาธิบดีจากทำเนียบประธานาธิบดี มาเป็นแขกรับเชิญในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ขณะเดียวกันผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสที่เสร็จสิ้นในวันเดียวกันพบว่า ผู้ตอบร้อยละ 43 พอใจท่าทีของประธานาธิบดีไบเดนที่มีต่อรัสเซีย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34 […]
วอชิงตัน 1 มี.ค.- เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐคาดว่า รัสเซียจะส่งทหารระลอก 2 จำนวนมากเข้าไปเสริมการยึดพื้นที่ในยูเครน และอาจเอาชนะได้ด้วยกำลังพลที่มีมากกว่ายูเครน เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) อ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐได้สรุปข่าวที่เป็นชั้นความลับแก่สมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐว่า มีแนวโน้มว่ารัสเซียจะส่งกำลังพลระลอก 2 เข้าไปในยูเครน และอาจเอาชนะได้ด้วยกำลังพลที่มีมากกว่ายูเครน นอกจากนี้ยังอาจจะปิดล้อมกรุงเคียฟ ซึ่งจะทำให้เกิดการสู้รบในเขตเมืองที่น่ากลัวได้ สมาชิกวุฒิสภาได้สอบถามเรื่องการประเมินสภาพจิตใจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน สว.ชัค แกรสลีย์ จากพรรครีพับลิกันที่เข้าร่วมฟังการสรุปยืนยันว่า มีการถามเรื่องนี้จริงแต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด และว่าโดยส่วนตัวแล้วเขากังวลเรื่องสภาพจิตใจของผู้นำรัสเซียอย่างมาก แหล่งข่าวเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลเชื่อว่าชาติตะวันตกจะแสดงความเป็นหนึ่งเดียวมากยิ่ง ทั้งเรื่องการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และการจัดส่งอาวุธให้ยูเครน ด้านเว็บไซต์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐได้รับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ยูเครนจากเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง รวมถึงตารางเวลาที่เป็นไปได้ที่กรุงเคียฟและเมืองอื่น ๆ ของยูเครนจะถูกรัสเซียยึดครอง สว.ลินด์ซีย์ แกรแฮม จากพรรครีพับลิกันเผยหลังออกจากห้องรายงานสรุปว่า จะเกิดสิ่งเลวร้ายที่สุดทางการทหารมากกว่าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ด้าน สว.คริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครตทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า การสู้รบในกรุงเคียฟจะยาวนานและนองเลือด ชาติตะวันตกจะไม่อายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีปูตินและพรรคพวกเท่านั้น แต่จะยึดทรัพย์สินเหล่านี้ด้วย ซึ่งจะเป็นมาตรการขั้นถัดไปที่คนวงในของปูตินคาดไม่ถึง.-สำนักข่าวไทย