เสนา ลงพื้นที่ มอบกำลังใจผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เสนาฯ แจ้งว่า ผู้บริหารนำโดย ดร.ธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และได้มอบเงินเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท ผู้บาดเจ็บ ครอบครัวละ 10,000 บาท และผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ครอบครัวละ 5,000 บาท รวมเป็นจำนวน 860,000 บาท ผ่านหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ,โรงพยาบาลสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์, ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ, โรงพยาบาลศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ, โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เสนา ระบุขอส่งกำลังใจถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมขอบคุณทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หน่วยงานสาธารณสุข และอาสาสมัครทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด. -511-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” มองช้าไป เชิญทูตไปดูจุดปะทะพรุ่งนี้

รัฐสภา 31 ก.ค.- “รังสิมันต์” ชี้ รัฐเชิญทูตไปดูจุดปะทะ 1 ส.ค.ช้าไป บอกเหมือนไปแก้ตัว เหตุไปทีหลังกัมพูชา ทำเสียโอกาสเห็นภาพจริง ทั้งผู้อพยพและความเสียหาย ซัด รัฐบาลตัวปัญหาหมดความชอบธรรมอ่อนบริหาร แนะ รมว.กต. เคลื่อนไหวให้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่เครมว่าอยู่นิวยอร์กก่อนเขมรแต่ไม่มีผลงาน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีร่ยชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ (31 ก.ค.) ว่า เป็นการติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งมีหลายมิติ ตอนนี้เรื่องการหยุดยิงน่าจะเป็นผลแล้ว แต่ก็ต้องสิ่งสำคัญก็ต้องคิดถึงโจทย์ระหว่างประเทศเพราะพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นห่วง ซึ่งในเรื่องการต่อสู้การยุทธวิธีทางการทหารไม่มีใครห่วงแต่เมื่อพูดถึงแนวทางที่จะรับมือ กับวิธีการต่างๆ ที่กัมพูชาได้มีการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการพาผู้ช่วยทูตทหาร สื่อต่างชาติ ไปลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ตรงกันข้ามประเทศไทย กลับจะพาไปลงพื้นที่ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงตรงกันว่าจะช้าไปหรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างว่าทางรัฐบาลพาสื่อต่างชาติและทูตประเทศต่างๆไปลงพื้นที่ตามแนวชายแดน ถ้าลงพื้นที่วันนี้หรือก่อนหน้านี้ คิดว่าทุกคนจะได้เห็นบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นการอพยพ และได้พูดคุยกับประชาชนจำนวนมากว่ารู้สึกอย่างไรโดยผ่านล่ามไปแปลภาษาด้วย เพื่อเห็นภาพจริง แต่เมื่อจะไปวันที่ […]

ออมสินพักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน ช่วยพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำท่วมภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – ออมสินพักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน – ยกดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ไม่ต้องจ่าย! เร่งช่วยลูกหนี้ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และพื้นที่ประสบอุทกภัย นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศที่ยังคงรุนแรงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก ธนาคารออมสินจึงเร่งออกมาตรการ “พักหนี้อัตโนมัติ ไม่คิดดอกเบี้ย” เพื่อช่วยบรรเทาภาระของลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 40,000 บัญชี คิดเป็นเงินต้นกว่า 9,000 ล้านบาท มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน – ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ธนาคารยกให้ ไม่ต้องจ่ายคืน! ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อทุกกลุ่ม (ยกเว้นบางประเภทตามเงื่อนไข*) โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ คือ ธนาคารออมสินขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th.-515- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : การทูตและดุลแห่งอำนาจไทย-กัมพูชา

28 ก.ค. – ปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชากลายเป็นประเด็นในเวทีโลก บทบาทมหาอำนาจและผู้เล่นสำคัญจึงถูกจับตาตามไปด้วย ติดตามในรายงาน 9 ทันโลก.-สำนักข่าวไทย

ทีทีบี ออกมาตรการ “ตั้งหลัก” ช่วยเหลือเหตุสถานการณ์ชายแดน-อุทกภัยภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-ทีทีบี ออกมาตรการ “ตั้งหลัก” เร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนและอุทกภัยภาคเหนือ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้น ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ขอแสดงความเสียใจต่อทั้งครอบครัวและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งความรุนแรงต่อชีวิต ทรัพย์สินและความเป็นอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัด ธนาคารมีความห่วงใยลูกค้าทุกกลุ่ม และได้เร่งออกมาตรการด่วน “ตั้งหลัก” ที่ครอบคลุม เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน รวมทั้งเพิ่มสภาพคล่องให้ทั้งลูกค้าบุคคล ผู้ประกอบการธุรกิจและ SME นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีมีความห่วงใยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้ง 2 ซึ่งได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้าน ที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน และสถานประกอบธุรกิจ ซึ่งอาจมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ธนาคารจึงให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ โดยการออกมาตรการ “ตั้งหลัก” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน หวังให้สามารถฟื้นตัว กลับมาตั้งหลักและก้าวเดินต่อไปสู่การมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยมีรายละเอียดมาตรการด่วน “ตั้งหลัก” ดังนี้มาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อ เพื่อแบ่งเบาภาระ•ลูกค้าสินเชื่อบ้าน สามารถขอพักชำระเงินต้นได้ นาน 3 เดือน ชำระคืนแต่ดอกเบี้ยเท่านั้น หรือขอวงเงินกู้เพิ่ม เพื่อซ่อมแซมบ้าน ด้วยบัตรกดเงินสด ทีทีบี […]

“จตุพร” ชี้ปัญหาชายแดนซ้ำซ้อนการเจรจาภาษีสหรัฐฯ เร่งดูแลประชาชน

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-รมว.พาณิชย์ เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และการเจรจาภาษีสหรัฐฯ กลายเป็นปัญหาซ้ำซ้อน เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุจะไม่เจรจาการค้าใดๆ หากทั้ง 2 ประเทศยังปะทะกัน ผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล ก.พาณิชย์ให้ข้อมูลประกอบการเจรจากับสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนด้วยจุดยืนรักษาประโยชน์ประเทศ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า จะยังไม่ทำข้อตกลงทางการค้าใดๆ กับทั้งไทยและกัมพูชา หากยังมีการปะทะกันตามแนวชายแดน โดยนายจตุพรยอมรับว่า เป็นสถานการณ์ที่ซ้ำซ้อนและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ไทยได้ส่งข้อมูลด้านการค้าที่ครบถ้วนแล้ว ในกระบวนการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในโค้งสุดท้าย ก่อนถึงกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ แต่มาเกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาขึ้นมาในห้วงเดียวกัน ผลลัพธ์สุดท้ายยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในระดับรัฐบาล พร้อมระบุว่า หากการสู้รบยืดเยื้อ ย่อมมีความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นด้านการค้า นายจตุพร มองว่า ข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐฯ เป็นความหวังดี แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของทั้งด้านทางการทูตและความมั่นคง ซึ่งประเทศไทยมีจุดยืนชัดเจนในการปกป้องอธิปไตย พร้อมให้กำลังใจทหารและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ด้านการดูแลภายในประเทศ นายจตุพรย้ำว่า ได้สั่งการตั้งแต่วันแรกที่เกิดการปะทะ ให้สินค้าจำเป็นไม่ขาดแคลน ไม่ปรับราคาสูงเกินจริง และประชาชนเข้าถึงได้ทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนและจังหวัดใกล้เคียง พร้อมเตรียมหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการหาทางออกด้านโลจิสติกส์และเส้นทางการค้าสำรอง นอกจากนี้ยังมอบหมายให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จัดส่งสิ่งของจำเป็นมอบแก่แนวหน้าเพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ปกปักรักษาบูรภาพแห่งดินแดน นายพจน์ […]

ศบ.ทก. เรียกประชุมด่วน 27 ก.ค. ประเมินผลสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- ศบ.ทก. เรียกประชุมด่วนพรุ่งนี้ ประเมินผล พร้อมติดตามมาตรการรองรับ กำหนดมาตรการการเยียวยา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาล โดย ศบ. ทก. ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลกระทบต่อสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดน รวมถึงภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างรอบด้านและรอบคอบ โดย ศบ.ทก จะได้พิจารณาแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ ให้สอดคล้องกับพัฒนาการอย่างเหมาะสมต่อไป ในวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568) ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะมีการประชุมในเวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีวาระสำคัญ ทั้งการประเมินแนวโน้มสถานการณ์ ผลกระทบจากการใช้กำลังในพื้นที่ มาตรการรองรับต่อความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ ตลอดจนแนวทางการสื่อสารต่อสาธารณะและการทำความเข้าใจกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในห้วงสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะภายหลังจากที่กัมพูชาได้ยื่นเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบต่อภาคเอกชนและธุรกิจท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม “ศบ.ทก. มีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเตรียมความพร้อมทุกสถานการณ์ โดยสื่อสาร […]

“สุรพงษ์” สั่ง บขส.จัดรถโดยสารอำนวยความสะดวก ปชช.จากความไม่สงบ

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุรพงษ์” สั่ง บขส. เฝ้าติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด พร้อมให้จัดรถโดยสาร สนับสนุนภารกิจหากมีการขนส่งประชาชน นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ บขส. เตรียมพร้อมจัดรถโดยสารอำนวยความสะดวกประชาชน หากได้รับการประสานจากหน่วยงานด้านความมั่นคง พร้อมทั้งให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขณะนี้ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ได้ประกาศหยุดเดินรถ เส้นทางเดินรถสายที่ 4 กรุงเทพฯ-บุณฑริก ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยผู้โดยสารสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้กระกอบการรถร่วมฯ ที่ท่านใช้บริการได้โดยตรง.-513-สำนักข่าวไทย

ธ.ก.ส. ปิด 9 สาขา ชายแดนชั่วคราวจากเหตุไม่สงบ

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประกาศปิด 9 สาขาชายแดนชั่วคราวจากเหตุไม่สงบ ธ.ก.ส.ประกาศว่าจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ธ.ก.ส. ขอแจ้งปิดให้บริการสาขา ธ.ก.ส. ชั่วคราว 9 สาขา ในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี โดยขออภัยผู้ใช้บริการ. -511- สำนักข่าวไทย

กมธ.ทหาร สว. รอเคาะวันใหม่เชิญ “นายกฯ” ปัญหาชายแดน

รัฐสภา 7 ก.ค.-กมธ.ทหาร สว. รอเคาะวันใหม่เชิญ “นายกฯ” แจงข้อเท็จจริงปัญหาชายแดน ทั้งไทย-กัมพูชา และชายแดนใต้ เผย “สินค้าหนีภาษี-ลักลอบเข้าเมือง” เป็นปัญหาใหม่หลังออกมาตราการปิดด่าน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล  สมาชิกวุฒิสภาเลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึง กรณีที่ได้มีการเชิญนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมา ชี้แจงกรณีสถานการณสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชา ว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาเห็นว่าข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดนไทยเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนและผลประโยชน์ของประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญ ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทางอันไร้ความจริงใจและ พยายามที่จะให้ได้เปรียบประเทศไทยในทุกด้าน คณะกรรมาธิการจึงมีมติเชิญนายกรัฐมนตรีมาแถลงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ตามประเด็นข้อซักถามดังนี้ 1.ประเด็นจุดยืนและแนวปฏิบัติข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา จังหวัดจำนวน 12 ข้อเช่นจุดยืนต่อ MOU 43 MOU 44 การละเมิด MOU อย่างต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชา 2. ประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย หรือการปกป้องและดูแลประชาชนชาวไทยทุกกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ส่งสัญญาณแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมตัวจริงที่จะรับมือกับปัญหาชายแดนภาคใต้ด้วย นายไชยยงค์ ยังกล่าวต่อว่าวันนี้ปัญหาของไทย-กัมพูชาไม่ได้มีเรื่องชายแดนความมั่นคง อธิปไตยและ บูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเดียว แต่สถานการณ์ที่เกิดใหม่ จากมาตราการปิดแนวชายแดนและการใช้มาตรการต่างๆในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ทำให้เกิดปัญหาใหม่ มีกระบวนการกองทัพมดมีการนำเข้าและส่งออกสินค้าหนีภาษีของทั้งสองมาค้าขายตามแนวชายแดน ,เกิดช่องทางการหลบหนีการเข้าเมือง นี่คือปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นจากผลกระทบซึ่งรัฐบาลไม่ได้ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร นายไชยยงค์ […]

“พิชัย” เร่งติดตามปัญหาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – “พิชัย” เร่งติดตามปัญหาการค้าชายแดน ไทย-กัมพูชา เตรียมหารือกับหลายฝ่ายเพื่อออกมาตรการลดผลกระทบ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังนายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุม ครม. เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือในทุกมิติ โดยเฉพาะสถานการณ์โลกและชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมหามาตรการรองรับในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด ในด้านปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเงิน การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน มอบหมายให้นายพิชัย รับผิดชอบ หารือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กำหนดมาตรการและเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงปัญหาราคาพืชผลเกษตร เพื่อให้กระทรวงคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรฯ เร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะราคาข้าว เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาแก่เกษตรกร นายพิชัย กล่าวว่า เตรียมเรียกประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ราคาพืชผลเกษตรภายในประเทศตกต่ำ จึงต้องการให้กรมศุลกากรติดตามดูแลปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อหารือในรายละเอียด เตรียมออกมาตรการยกระดับราคาพืชผลเกษตร และลดผลกระทบกับประชาชนภายในสัปดาห์หน้า.-515- สำนักข่าวไทย

“อลงกต” ระบุจะแก้ปัญหาชายแดนได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำสั่งการ

รัฐสภา​ 24 มิ.ย.-“อลงกต” ชี้วุฒิสภาไม่สนหน้าตา ครม.ชุดใหม่ บอกเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ระบุจะแก้ปัญหาชายแดนได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำสั่งการ ย้ำควรปิดด่านถาวรแสดงความมีศักดิ์ศรี นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า สิ่งที่ทาง สว.ไม่ได้ใส่ใจหรือสงสัยกับหน้าตาว่าจะหล่อไม่หล่อ สวยไม่สวย ดีหรือไม่ดี แต่สิ่งที่เราต้องใส่ใจคือการปล่อยคลิปเสียงนั้น ปล่อยมาเพื่ออะไร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิปคือรัฐมนตรีลาออก เริ่มเกิดความไม่เสถียรภาพในระบบการเมืองไทยแล้ว นี่คือสิ่งที่พญาละแวกสอง ต้องการใช่หรือไม่ อีกทั้งเริ่มมีการออกมาข่มขู่แล้วว่าหากใครเห็นต่างจะมีการสั่งเก็บ “ถามว่า ครม.จะมีหน้าตาแบบไหนก็แล้วแต่ ทาง สว.คงไม่ได้สนใจภาพรวมตรงนั้น เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งที่เรามีข้อสังเกตคือ นี่คือระเบิดที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิประหว่างที่มีการเปลี่ยน ครม.” นายอลงกต กล่าว นายอลงกต กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเราควรตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตน และควรที่จะมีการปิดด่านถาวร ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้มีการสอบถามกับทางด้านกระทรวงการคลัง ระหว่างการส่งสินค้าไปที่ประเทศกัมพูชากับสินค้าที่ประเทศกัมพูชาส่งกลับมามายังประเทศไทย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าของเราส่งไปมากกว่า โดยสิ่งที่เราส่งไปคือน้ำมันกับเครื่องอุปโภคบริโภค แต่สิ่งที่เขาส่งมาคือพวกมันสำปะหลัง มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท แต่มูลค่าที่เราส่งไปอยู่ที่ […]

1 2
...