ประธานาธิบดี

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ตั้งความหวังว่า การเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้จะทำให้เขาได้ครองเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา เพราะกำลังถูกสั่นคลอนจากกลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้าย

เคียฟ 7 มิ.ย.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนอ้างว่า อาจมีคนจากโรงงานเหล็กในเมืองมารีอูปอลมากกว่า 2,500 คน ถูกรัสเซียควบคุมตัวไว้ที่แคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ประธานาธิบดีเซเลนกีเผยกับคณะผู้สื่อข่าวว่า รัสเซียเปลี่ยนแปลงแผนการเกี่ยวกับผู้ที่ถูกควบคุมตัวเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา หลังจากเจ้าหน้าที่ในแคว้นโดเนตสก์ที่ประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐประชาชนเคยกล่าวว่า จะนำนักรบบางส่วนที่ออกจากโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลไปขึ้นศาลข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในยูเครน ต่อข้อถามว่าผู้ถูกควบคุมตัวจะถูกทรมานหรือไม่นั้น เขาเชื่อว่า รัสเซียไม่คิดจะทำเช่นนั้นเพราะผู้ถูกควบคุมตัวเป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาคมโลกจับตาดูอยู่ ยูเครนบรรลุภารกิจการช่วยให้นักรบเหล่านี้ออกจากโรงงานเหล็กอย่างปลอดภัย ขั้นตอนต่อไปถือการพาพวกเขากลับบ้าน ผู้นำยูเครนกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบทางตะวันออกของประเทศว่า ค่อนข้างยากลำบาก ยูเครนยังคงรักษาที่มั่นในเมืองเซียเวียโรโดเนตสก์ แคว้นลูฮันสก์ แต่กำลังพลของรัสเซียมีจำนวนมากกว่าและมีอาวุธมากกว่า ต่อข้อถามว่ายูเครนควรถอนกำลังพลจากเมืองนี้ไปยังที่มั่นอื่นที่ดีกว่าหรือไม่ เขาตอบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความสูญเสียมากยิ่งขึ้น พร้อมกับกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในแคว้นซาปอริชเชียที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ว่า น่าเป็นห่วงมากที่สุดเพราะพื้นที่บางส่วนถูกรัสเซียยึดครองไว้ แม้ทั้งสองฝ่ายยังสามารถตรึงแนวรบไว้ได้ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ชุมชนนอกแนวรบก็ถูกปืนใหญ่ยิงถล่มรายวัน ผู้นำยูเครนยังได้ขอบคุณคณะผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่ในสงครามนี้ ซึ่งมีนักข่าวยูเครนและต่างชาติถูกสังหารแล้วมากกว่า 30 คนตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 17 พ.ค.- นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ถูกประท้วงขณะไปพักผ่อนที่ออสเตรเลีย โฆษกส่วนตัวแถลงที่กรุงมะนิลาว่า นายมาร์กอส จูเนียร์เดินทางไปพักผ่อนเป็นการส่วนตัวที่ออสเตรเลีย ในระหว่างนั้นได้รับโทรศัพท์แสดงความยินดีจากนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียด้วย และมีกำหนดเดินทางกลับถึงกรุงมะนิลาในวันพฤหัสบดีนี้ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีชาวฟิลิปปินส์กลุ่มเล็ก ๆ ไปรวมตัวประท้วงหน้าที่พักแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย พร้อมกับถือป้ายมีข้อความว่า “ไม่ต้อนรับคนหนีภาษี” และ “ไม่ต้อนรับทรราช” นายมาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี เป็นบุตรชายของเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีที่ปกครองฟิลิปปินส์แบบเผด็จการตั้งแต่ปี 2508 ถูกประชาชนลุกฮือโค่นล้มในปี 2529 ต้องลี้ภัยไปฮาวาย จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2532 หลังจากนั้นครอบครัวมาร์กอสได้กลับประเทศและเข้าสู่สนามการเมืองอีกครั้ง นายมาร์กอส จูเนียร์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยคะแนนเกือบร้อยละ 59 และจะสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนหน้า.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 11 พ.ค.- หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์รับประกันว่าจะเคารพสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และประชาธิปไตย ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเผยว่า นายมาร์กอส จูเนียร์ วัย 64 ปี ชนะด้วยคะแนนที่ได้มากกว่า 31 ล้านเสียงในการเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ ส่วนนางซารา ดูเตอร์เต-การ์ปิโอ ผู้สมัครคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเขาก็น่าจะชนะด้วยคะแนนถล่มทลายเช่นกัน หากรัฐสภายืนยันผลคะแนนแล้ว ผู้ชนะจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 6 ปี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงหลังทราบผลการเลือกตั้งไม่นานว่า สหรัฐตั้งตารอการฟื้นความสัมพันธ์พิเศษกับฟิลิปปินส์ และการทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องสำคัญในภูมิภาค สหรัฐเป็นพันธมิตรยาวนานกับฟิลิปปินส์ที่มีค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกันเรื่องประชาธิปไตย รัฐบาลสหรัฐจะเดินหน้าส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรมที่เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ของสองประเทศ ขณะที่กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ในสหรัฐเรียกร้องให้นายมาร์กอส จูเนียร์ เร่งปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทันทีที่รับตำแหน่ง เช่น ช่วยศาลอาญาระหว่างประเทศดำเนินคดีกับนายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเรื่องทำสงครามปราบปรามยาเสพติดอย่างนองเลือด ช่วยให้ สว.ไลลา เดอ ลิมาที่วิจารณ์รัฐบาลได้รับอิสรภาพ สั่งการทหารตำรวจให้หยุดรังควานกลุ่มนักเคลื่อนไหว นายมาร์กอส จูเนียร์หาเสียงด้วยการชูเรื่องทำให้ประเทศมีเอกภาพ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในช่วงที่นายเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส บิดาของเขาผูกขาดปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2508-2529 และถูกประชาชนลุกฮือขับไล่จนต้องลี้ภัยอยู่ในสหรัฐจนกระทั่งเสียชีวิต นอกจากนี้ยังไม่พูดชัดเจนในประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองสำคัญของประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย

โคลัมโบ 11 พ.ค.- กลุ่มผู้ประท้วงและสหภาพแรงงานในศรีลังกาเรียกร้องให้มีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตร้ายแรง ขณะที่ประธานาธิบดีขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หลังเกิดเหตุปะทะทางการเมืองที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และทำให้นายกรัฐมนตรีลาออก กลุ่มผู้ประท้วงยังคงชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา วัย 72 ปี ลาออก รวมทั้งผู้ชุมนุมที่ปักหลักตั้งกลุ่มเต็นท์หน้าทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากประธานาธิบดีลาออก รัฐสภาสามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ และตั้งรัฐบาลรักษาการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ด้านสมาคมเครื่องนุ่งห่มที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศเรียกร้องให้ตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง หลังจากรัฐบาลชุดที่เพิ่งลาออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่ประธานาธิบดีราชปักษาประกาศว่า จะทำทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมืองด้วยฉันทามติภายใต้อำนาจของรัฐธรรมนูญ และเพื่อแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ สถานการณ์ในศรีลังกาทวีความรุนแรงเมื่อกลุ่มเต็นท์ผู้ชุมนุมถูกกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลบุกเข้ามารื้อทำลายเมื่อวันจันทร์ จนเกิดการปะทะกัน มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บมากกว่า 200 คน นายกรัฐมนตรีมหินดา ราชปักษา วัย 76 ปี พี่ชายของประธานาธิบดีตัดสินใจลาออกในเวลาต่อมา รวมทั้งคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้มีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ด้านตำรวจประกาศห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวทั่วประเทศจนถึงเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08:30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย.-สำนักข่าวไทย

ชาวฟิลิปปินส์ราว 400 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษารวมตัวกันประท้วงที่ด้านนอกสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันนี้ เพื่อต่อต้านการที่นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีและได้อ้างว่ามีความไม่ขอบมาพากลในการเลือกตั้งผู้นำประเทศในครั้งนี้