ประธานสภา

ปักกิ่ง 29 มี.ค.- จีนประกาศว่าจะ “สู้กลับ” หากประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน พบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในช่วงที่แวะสหรัฐระหว่างเดินทางกลับจากการเยือนกัวเตมาลาและเบลิซ โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนแถลงวันนี้ว่า จีนขอคัดค้านการพบดังกล่าวอย่างแข็งขัน และจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อสู้กลับ หากนางไช่ พบกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพราะถือว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหม่ที่ละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง บั่นทอนอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของจีน รวมทั้งบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวัน ประธานาธิบดีไช่ของไต้หวันออกเดินทางแล้วในวันนี้ โดยจะเดินทางถึงนครนิวยอร์กของสหรัฐ แล้วเดินทางต่อไปยังกัวเตมาลาและเบลิซ เพื่อพบผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ส่วนขากลับจะแวะนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งนายแมคคาร์ธี เผยว่า จะพบกับผู้นำไต้หวัน ขณะที่ทางการไต้หวันยังไม่ยืนยันเรื่องนี้ ผู้นำไต้หวันกล่าวก่อนออกเดินทางว่า แรงกดดันภายนอกไม่สามารถขัดขวางความมุ่งมั่นของไต้หวันที่จะก้าวไปสู่ระดับสากล ไต้หวันใจเย็นและมั่นใจ จะไม่ยอมจำนน แต่ก็จะไม่ยั่วยุผู้อื่น การเยือนกัวเตมาลาและเบลิซ มีขึ้นหลังจากฮอนดูรัส อีกหนึ่งประเทศในอเมริกากลางประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน เพื่อหันไปเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ไต้หวันเหลือประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตเพียง 13 ประเทศ.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 3 ก.พ.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะเยือนจีนในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีตกต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จากการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในขณะนั้นไปเยือนไต้หวันเมื่อปีก่อน นายบลิงเคนจะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคนแรกที่ไปเยือนจีน นับจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไปเยือนในเดือนตุลาคม 2561 เขาจะเดินทางไประหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์พร้อมกับนางเวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ มีกำหนดพบกับนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และอาจได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน คาดว่านายบลิงเคนจะหยิบยกประเด็นที่เป็นความกังวลของสหรัฐขึ้นหารือ เช่น ความเป็นหุ้นส่วนไร้ขีดจำกัดที่จีนและรัสเซียประกาศร่วมกันก่อนรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน การปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวในจีนอย่างไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลสหรัฐไม่คิดว่าการเยือนครั้งนี้จะได้ผลสำคัญในประเด็นข้างต้น รวมถึงประเด็นไต้หวัน การค้า และสิทธิมนุษชน เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะรัฐสภาสหรัฐหันมาดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อจีนมากขึ้น นับตั้งแต่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากหลังจากชนะเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อปลายปีก่อน ขณะที่จีนต้องการให้สหรัฐอ่อนข้อในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ให้จีน แลกกับการที่จีนจะเพิ่มความร่วมมือในการสกัดการลอบส่งออกเฟนทานิลที่เป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรงจากจีนไปสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย