ที่ปรึกษา “บิ๊กโจ๊ก” ยันรับเงินที่ได้จากบัญชีม้าไม่ผิดเหตุไม่รู้ที่มา
ที่ปรึกษา “บิ๊กโจ๊ก” ยันความบริสุทธิ์หลังเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน PCT ยอมรับเงินที่ได้จากบัญชีม้าไม่ผิด เหตุไม่รู้ที่มาของเงิน ดังนั้นจะดำเนินคดีฐานสมคบคิดไม่ได้
ที่ปรึกษา “บิ๊กโจ๊ก” ยันความบริสุทธิ์หลังเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน PCT ยอมรับเงินที่ได้จากบัญชีม้าไม่ผิด เหตุไม่รู้ที่มาของเงิน ดังนั้นจะดำเนินคดีฐานสมคบคิดไม่ได้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. เผยพบบัญชีม้าเว็บพนันลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” เชื่อมโยงนักข่าว 7 คน 1 สมาคม จ่อเรียกสอบในฐานะพยาน ยืนยันไม่รู้สึกกดดัน ไม่มีบุคคลใดโทรศัพท์เข้ามากดดัน
ที่ปรึกษา “บิ๊กโจ๊ก” ยอมรับได้รับเงินเดือนละ 50,000 บาท ในฐานะที่ปรึกษาทางคดี พร้อมเห็นว่าตำรวจ 8 นาย ที่ถูกออกหมายจับยังไม่มีความผิด
“สนธิญา” ชี้นักข่าวรับเงินไม่ผิด อยู่ที่เจตนาผู้ให้และผู้รับ เชื่อมีจรรยาบรรณวิชาชีพ ขอบุคคลอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
“พล.ต.ต สุพิศาล” ยินดี “บิ๊กต่อ” นั่งผบ.ตร.ใหม่ ชี้นายกฯ เสนอก็ต้องรับผิดชอบ เชื่อ 3 แคนดิเดตไม่ฟ้อง ไม่มีคลื่นใต้น้ำ ส่วนกรณี “บิ๊กโจ๊ก” ต้องรอผลสอบวินัยให้จบก่อน คาดถูกลดบทบาท อาจถูกย้ายไปจเร
พล.ต.ต สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) มีมติเห็นชอบให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คใหม่ ว่าเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นคนตัดสินใจเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรีจองเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ แม้นายกรัฐมนตรีไม่ได้โหวตให้ เพื่อแสดงความเป็นกลาง แต่ถือว่าเป็นการใช้เสียงข้างมากในคณะกรรมการฯ โหวตให้ผ่าน 9:1
“ผมขอแสดงความยินดีกับผบ.ตร.คนใหม่ด้วยที่ผ่านมติ จะได้ทำงานต่อไป ซึ่งแคนดิเดตทั้ง 4 คน มีคุณสมบัติเหมาะสม เคยผ่านงานป้องกันและปราบปรามมา จะเลือกใครก็ได้ ในหลักของการพิจารณาแล้ว เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้บกพร่องในการพิจารณาเสนอชื่อ แต่ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าเหตุผลที่เลือกมีอะไรบ้าง แต่เสียดายที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า จากที่ติดตาม ทราบว่าแยกวงเคลียร์กันก่อนโหวต ซึ่งถือเป็นเทคนิคของประธานในที่ประชุม คงต้องทำความเข้าใจแจ้งหลักการและเหตุผล ทำให้ผ่านออกมา ถือว่าผ่านระบบการคัดสรรอย่างครบถ้วนและคงเป็นเรื่องของการทำงานต่อไป ส่วนผู้ที่มีส่วนได้เสียนั้น ตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม เฉพาะมาตรา 78 และ 87 ที่จะร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองพิทักษ์คุณธรรมเพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว ว่าตัวเองมีสิทธิ์อย่างไร แต่คิดว่าเรื่องดังกล่าว คงกลายเป็นคลื่นสงบไป
“คิดว่าเรื่องการร้องเรียนคงต้องจบลง เพราะแต่ละคนมีวินัย จึงคิดว่าในเรื่องของการร้องเรียนก็คงต้องจบลง เพราะสิ้นสุดด้วยการแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของการแต่งตั้งระดับล่างลงมา ว่ากฎหมายฉบับนี้เกิดความเป็นธรรมจริงหรือไม่ ซึ่งอยากจะฝากไปยังผบ. ตร.ใหม่ให้กระจายอำนาจการแต่งตั้งให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการแต่งตั้งในจังหวัดหรือกองบัญชาการต่าง ๆ ขอให้ทุกหน่วยมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนของตัวเองมาทำงาน จะดีกว่าที่จะถูกสั่งหรือแบ่งปันยอด หรือโควต้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าทำได้ถือเป็นเหตุผลที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว จากการที่หน่วยงานของจังหวัดเอง หรือกองบัญชาการเองได้แต่งตั้งคนที่เห็นว่าเหมาะสมมากที่สุด” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว
ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่มีรายงานว่าที่ผ่านมาพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มีชื่อแคนดิเดตอันดับ1 มาตลอด ในขณะที่มีกรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.เกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี ดูเหมือนเป็นการเตะตัดขากันหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ใครมีหน้าที่อะไรก็จะบอกคำตอบอย่างชัดเจนว่า ในหน้าที่ที่ผ่านงานมานั้นเกี่ยวกับอะไร ถึงจะมีความเร็วในการขึ้นสู่ตำแหน่งมากที่สุดเท่าที่มีในประวัติศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นคือสิ่งที่จะเป็นคำตอบชัดเจน
“เห็นนำประวัติพล.ต.อ.ต่อศักดิ์มานำเสนอเยอะแยะไปหมด นั่นก็เป็นคำตอบ ผมคงไม่ตอบว่าอะไร แต่ก็ยินดีด้วยกับท่าน ส่วนอนาคตข้างหน้าท่านจะทำอย่างไร ให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือสังคมที่ตำรวจกำลังว้าวุ่นในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาของคดีที่เกิดขึ้นกับข้าราชการตำรวจ จะแก้ไขอย่างไร เพื่อไม่ให้ตำรวจ “เน่า” หรือเป็นที่ติฉินนินทาของประชาชนมากมาย คงต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรม และ มีคุณธรรมมากที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจที่มีอยู่ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีคลื่นใต้น้ำหรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า คิดว่าคลื่นใต้น้ำคงหมดไปแล้ว เพราะขนาดนายกรัฐมนตรียังถูกแรงกระแทก จนต้องออกมติแบบว่า ยอมที่จะทิ้งนาทีสุดท้ายเพื่อให้มีมตินี้ และลงไปเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง คิดว่าแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเองก็เลือกผบ.ตร..คนนี้มา คิดว่าแรงกระแทกดังกล่าวคงไม่สะเทือน
เมื่อถามย้ำว่าผบ. ตร.คนใหม่จะสามารถทำงานกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า หลังจากนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ต้องรอให้พ้นวินัยจากการสอบสวนกรณีที่ถูกกล่าวหาก่อน ซึ่งการสอบสวนคงเสร็จรวดเร็วภายใน 10 วัน เพราะมีก.ตร. 2 คนเข้าไปสอบ ซึ่งจะเป็นผลตามกฎหมาย ทางวินัย ว่าจะสามารถโยกย้ายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากตำแหน่งนี้หรือไม่ หรือถ้าไม่ได้ก็ต้องดำรงตำแหน่งรองผบ. ตร.ไป แต่อาจจะถูกลดหน้าที่หรือบทบาทลง จากงานประจำคืองานสืบสวนสอบสวนที่ทำอยู่ และอาจจะถูกย้ายไปดูในงานอื่นหรือย้ายข้ามหน่วย เป็นเรื่องของบุญพาวาสนาส่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะโดนย้ายไปอยู่ในส่วนของจเรตำรวจ
ส่วนกรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่าหากเปิดข้อมูลบางอย่างออกมาจะตายทั้งสตช. พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มี ซึ่งคิดว่ามีจริง ๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการทำงาน และพบว่า ข้าราชการตำรวจในองค์กร ใครมีบทบาทไปเกี่ยวพันยุ่งเกี่ยวกับทุนสีเทา ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือแรงงานข้ามชาติต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเห็นภาพนี้เกี่ยวข้องแม้กระทั่งเว็บการพนันที่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือบัญชีม้าต่าง ๆ เชื่อว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ไม่ได้ส่งเข้าไปในสำนวนสอบสวน เป็นข้อมูลที่รับผิดชอบสืบสอนสอบสวนในอดีต ก็เหมือนกับที่บอกว่า”อย่ามาเล่นมากนะ มีไม้ตีกลับด้วย ถ้าขุดผม ผมก็ขุดคุณมีแค่นั้นล่ะครับ”.-สำนักข่าวไทย
จากเรื่องร้อนภายในองค์กรตำรวจสะเทือนวงการสื่อ น้ำใจจาก “บิ๊กโจ๊ก” ทำองค์กรสื่อปั่นป่วน หลังอ้างให้เงินค่าข้าว ค่าเดินทาง กับสื่อมวลชนบางราย ระบุเป็น “สินน้ำใจ ไม่ใช่สินบน” องค์กรวิชาชีพสื่อ “รับไม่ได้”
“บิ๊กโจ๊ก” นำทีม 8 ตำรวจ ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจต่อสู้คดี ด้านทนายอนันต์ชัย ประกาศความมั่นใจ ช่วยลูกความสู้คดี เตือนคนไม่หวังดี ระวังโดนเอาคืนย้อนหลัง ลั่นสัปดาห์หน้ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์
“พ.ต.อ.ภาคภูมิ” ยอมรับรู้จัก “มินนี่” แต่ไม่รู้ทำธุรกิจอะไร และไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน เชื่อถูกกลั่นแกล้ง
โฆษก ตร. ยอมรับ ผบ.ตร. มี “งบลับ” ให้รอง ผบ.ตร. ไปใช้ปฏิบัติงานจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้านพักของ “บิ๊กโจ๊ก” และตำรวจเกี่ยวข้องเว็บพนัน มีคำสั่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีแล้ว
หลังตำรวจไซเบอร์และคอมมานโดบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” และออกหมายจับลูกน้องคนสนิทถึง 8 นาย หลังพบมีเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ “บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน พร้อมเดินหน้าสู้กลับ
“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” นำเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายการออกหมายค้นเผยต่อสื่อมวลชน ขณะ “พล.ต.ต.นำเกียรติ” 1 ใน 8 ตำรวจที่ถูกออกหมายจับเผย “ไม่กังวล” ก่อนเข้าพบทนายความ
“บิ๊กโจ๊ก“ เปิดตัวทนายกระดูกเหล็กสู้ คดีลุยฟ้องบุกค้นบ้านพัก เกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ ยืนยันเงินให้สื่อเป็นน้ำใจค่าอาหาร