“บิ๊กโจ๊ก” สั่ง ตร.ออกใบสั่งได้ตามเดิม

กรุงเทพฯ 7 ต.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” ลงนามคำสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศทำหน้าที่ตามเดิม หลังศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนใบสั่ง-ค่าปรับจราจรย้อนหลังถึงปี 63 ระบุตำรวจกำลังอุทธรณ์อยู่


กรณีศาลปกครองพิพากษาเรื่องค่าปรับจราจรและใบสั่งจราจรไม่ชอบด้วยกฎหมาย งานนี้เล่นเอาประชาชนไปไม่ถูก หลังจากนี้ถ้าโดนใบสั่งต้องจ่ายไหม แล้วที่จ่ายไปแล้วจะได้เงินคืนหรือไม่ ตอนนี้น่าจะได้คำตอบชัดแล้วว่าต้องจ่าย เพราะล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกคำสั่งให้ตำรวจทุกพื้นที่ปฏิบัติเหมือนเดิม

คำพิพากษาของศาลปกครอง สืบเนื่องจากนางสุภา โชติงาม อดีตผู้ตรวจการกรมการขนส่งทางบก ผู้ร้อง ได้ยื่นฟ้อง ผบ.ตร. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบ สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522, พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย


หลักๆ คือให้เหตุผลว่าใบสั่งที่ออก ประชาชนไม่มีสิทธิโต้แย้ง มีเพียงต้องจ่ายค่าปรับ ซึ่งขัดต่อกฎหมาย ใบสั่งมีการกำหนดจำนวนเงินค่าปรับไว้ชัดเจน ทั้งๆ ที่ควรใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ รวมถึงหากไม่จ่ายค่าปรับจะไม่สามารถต่อ พ.ร.บ.รถได้ มองว่าการกระทำความผิดส่วนบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องรถ

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วพิพากษาให้เพิกถอนประกาศทั้ง 2 ฉบับ โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกประกาศ หรือนับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 และให้ทุเลาการบังคับตามประกาศทั้ง 2 ฉบับไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

เนื่องจากเห็นว่าประกาศฯ 2 ฉบับ เป็นกฎที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกฎหมายจราจรทางบก ซึ่งมุ่งควบคุมกำกับการใช้รถให้เกิดความปลอดภัย ส่งเสริมวินัยจราจร และให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดตามพฤติการณ์แห่งการกระทำผิด ด้วยความเสมอภาค


สรุปหลังจากนี้ตำรวจจะออกใบสั่ง และประชาชนต้องจ่ายค่าปรับตามใบสั่งอีกหรือไม่ ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการดำเนินการอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางดังกล่าว จึงให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม จนกว่าจะมีกฎ ระเบียบ คำสั่ง เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าปี 63 มีการแจกใบสั่งทั้งสิ้นกว่า 15 .8 ล้านใบ มีคนไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์กว่า 12 ล้านใบ คิดเป็น 92 เปอร์เซ็นต์ และแบบเล่มกว่า 672,000 ใบ คิดเป็น 28 เปอร์เซ็นต์

ส่วนกรมการขนส่งทางบก มีรถที่มาชำระภาษีกว่า 11 ล้านคัน ในจำนวนนี้ค้างชำระค่าใบสั่งจราจรกว่า 124,000 คัน มีการชำระไปกว่า 62,000 คัน และยังค้างชำระใบสั่งจราจรอีก 62,400 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบเดิม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง