น้ำท่วม

ทำเนียบ 4 ส.ค.-ปภ. เผยยังคงมีพื้นที่น้ำท่วม 4 จังหวัด 8 อำเภอ เร่งให้สำรวจความเสียหาย-ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตามระเบียบและหลักเกณฑ์ฯ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันยังคงมีผลกระทบสถานการณ์น้ำในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย สุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 3,165 ครัวเรือน 11,705 คน ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำจังหวัดน่าน เชียงราย และจังหวัดสุโขทัยลดลง ขณะที่จังหวัดพิษณุโลกระดับน้ำเพิ่มขึ้น รัฐบาลได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและรายงานความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำเร่งช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและหลักเกณฑ์เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ […]

2 ส.ค.-“สมศักดิ์” เผยสถานการณ์น้ำท่วมสุโขทัย น้ำมีแนวโน้มลดลง แต่ต้องจับตาต่อเนื่อง สั่งการ สธ. จัดเวชภัณฑ์ยาอย่าให้ขาด มอบ สส. เข้าพื้นที่ช่วยตรวจสอบความเสียหาย รับฟังความความเดือดร้อนประชาชนคู่ขนานกับหน่วยงานราชการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา หลังจากได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “วิภา” ส่งผลกระทบให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายอำเภอและมีน้ำท่วมขัง ซึ่งในขณะนี้มีรายงานว่า มี 4 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบมากสุด ประกอบด้วย อ.เมืองสุโขทัย อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง อำเภอศรีสัชนาลัย โดยทั้ง 4 พื้นที่ น้ำมีแนวโน้มที่จะลดลง แม้ว่าบางแห่งยังมีน้ำมากวิกฤตอยู่ก็ตาม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่องและจะดูแลจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ที่ผ่านมามีประชาชนกลุ่มเปราะบาง ได้รับความช่วยเหลือ 942 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้พิการ มีการส่ง ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับตติยภูมิ MERT และ Mini MERT […]

ทำเนียบ 31 ก.ค.- รัฐบาลเตือนภัยน้ำท่วม เสี่ยงมลพิษจากสารเคมี แนะประชาชนเลี่ยงใช้น้ำไม่ผ่านการตรวจสอบ โรงงานต้องเร่งซ่อมระบบสิ่งแวดล้อม นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะปัญหามลพิษในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งอาจมีสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานจากของเสียที่รั่วไหลหรือถูกชะล้างออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำเสีย ทำลายระบบนิเวศและกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อป้องกันอันตรายจากน้ำที่มีค่ามลพิษสูง รัฐบาลขอให้ประชาชนเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในพื้นที่ของตนเอง หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือบริโภคน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติโดยตรง งดใช้สารเคมีทางการเกษตรในช่วงน้ำท่วม และหากพบเห็นหรือตั้งข้อสงสัยว่าแหล่งน้ำมีสารปนเปื้อน ขอให้รีบแจ้งสายด่วนกรมควบคุมมลพิษ 1650 หรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในพื้นที่ เพื่อให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนนำไปใช้อุปโภคบริโภค พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือจากสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่ง เร่งตรวจสอบและปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียหรือระบบจัดการสิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับความเสียหายจากอุทกภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมีสู่แหล่งน้ำ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง “รัฐบาลยืนยันความตั้งใจในการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมเดินหน้าจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติอย่างเต็มที่ โดยจะประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมความเสี่ยงและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์กล่าว -สำนักข่าวไทย

ทำเนียบ 29 ก.ค.- มท.ห่วงสถานการณ์น้ำท่วม 5 จังหวัด สั่งติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิด นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วยน่าน เชียงราย อุตรดิตถ์สุโขทัย และแพร่ ซึ่งได้รับรายงานว่ามีน้ำเพิ่มเข้ามาในแม่น้ำกกจังหวัดเชียงราย อาจจะไหลเข้าสู่ตัวเมือง จึงส่งสัญญาณเตือนภัยให้ประชาชนรับทราบแล้ว แต่ปริมาณน้ำจะอยู่ในระดับที่ไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง ส่วนที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เป็นอีกจุดที่เฝ้าระวังเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่สุโขทัยยังมีจุดที่น้ำเข้ามาในเมืองและพื้นที่การเกษตรในส่วนมาก ซึ่งสาเหตุมาจากการชำรุดเสียหายของพนังกั้นน้ำ สามารถซ่อมแซมได้หลังน้ำท่วมไปแล้ว จึงขอให้ประชาชนฟังข้อความเตือนภัยจากหน่วยราชการ ในส่วนของความช่วยเหลือ ปภ. ได้มีการจัดรถเคลื่อนที่ประกอบอาหารน้ำดื่ม ส่วนพื้นที่ที่น้ำประปายังไม่เพียงพอ แม้จะสามารถผลิตได้ในปริมาณ แต่ปริมาณความต้องการใช้สูง จึงประสานให้จังหวัดร่วมกับอบต.บรรเทาผลกระทบ ขณะที่ จังหวัดแพร่ ปริมาณน้ำจากอำเภอวังชิ้น จะไหลลงไปที่จังหวัดสุโขทัย และจะไปรวมกันจุดนั้น ในส่วนของเขื่อนสิริกิติ์ ได้มีการพร่องน้ำ เพื่อเตรียมรับน้ำใหม่และดูปริมาณน้ำที่ปล่อยต่อ เพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่ส่วนล่างต่อไป นางสาวธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับในปีนี้จะเห็นได้ว่าประชาชนได้เตรียมความพร้อมอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย และลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปสำรวจพื้นที่และความเสียหาย เพื่อดำเนินการชดเชยเยียวยาต่อไปให้เร็วที่สุด.-319 -สำนักข่าวไทย