นายกฯ หญิงนิวซีแลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่งเดือนหน้า

เวลลิงตัน 19 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ โดยให้เหตุผลว่า เธอไม่มีพละกำลังเหลือมากพอที่จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกต่อไป นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกล่าวในที่ประชุมสมาชิกพรรคแรงงาน (Labour Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลนิวซีแลนด์ ในวันนี้ว่า เธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทุ่มเทให้กับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเต็มที่ตราบเท่าที่จะทำได้ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเธอจะหยุดทำสิ่งนั้นแล้ว เนื่องจากเธอไม่มีพละกำลังเหลือมากพอที่จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปเป็นเวลาอีก 4 ปี สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ครั้งแรกในปี 2560 และพาพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายกลาง ชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในปี 2563 ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เธอได้รับเสียงชื่นชมจากนานาชาติเกี่ยวกับการรับมือเหตุก่อการร้ายที่มัสยิด 2 แห่งในนิวซีแลนด์ การควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการเป็นผู้นำคนที่สองของโลกที่ให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ อย่างไรก็ดี คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นและพรรคแรงงานจากผลสำรวจความเห็นในประเทศเริ่มถดถอยลงเมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่นิวซีแลนด์กำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อและอัตราก่ออาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

‘นิวซีแลนด์’ ไม่เปลี่ยนนโยบายโควิด-19 สำหรับนักเดินทางขาเข้า

เวลลิงตัน, 5 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (4 ม.ค.) รัฐบาลนิวซีแลนด์กล่าวย้ำว่านิวซีแลนด์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงคำแนะนำด้านการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สำหรับนักเดินทางขาเข้าทั้งหมด แถลงการณ์จากอเยชา เวอร์รอลล์ รัฐมนตรีด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ ระบุว่าขณะนี้ไม่มีข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนตรวจโรคโควิด-19 ก่อนเดินทาง เนื่องจากพวกเขาจะไม่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศ และความเสี่ยงด้านสาธารณสุขต่อชาวนิวซีแลนด์นั้นมีน้อยมาก เวอร์รอลล์กล่าวว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่สามารถอุบัติทั่วโลกไม่ใช่แค่จีน ซึ่งเป็นเหตุผลที่นิวซีแลนด์เตือนนักเดินทางขาเข้าจากทุกประเทศให้ตรวจแอนติเจนแบบเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ท่าอากาศยาน และตรวจหาอาการหนึ่งครั้งในประเทศ อนึ่ง ข้อกำหนดป้องกันโรคโควิด-19 ฉบับปัจจุบันสำหรับนักเดินทางขาเข้าในนิวซีแลนด์ ระบุว่ามีเพียงผู้ที่แสดงอาการป่วยหลังจากเดินทางเข้าประเทศที่ต้องทำการตรวจโรคโควิด-19 โดยจะไม่มีการบังคับตรวจแบบเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ท่าอากาศยาน คลิกเพื่ออ่านข่าวภาษาอังกฤษ https://english.news.cn/asiapacific/20230104/6c20391f9d3c49e19ee32ebed558adce/c.htmlอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.xinhuathai.com/high/330523_20230105ขอบคุณภาพจาก Xinhua

นิวซีแลนด์จะไม่บังคับนักเดินทางจีนแสดงผลตรวจโควิด

เวลลิงตัน 4 ม.ค. – นิวซีแลนด์จะไม่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่แตกต่างจากอีกหลายประเทศที่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศหลังมีข้อกังวลเรื่องยอดผู้ป่วยโควิดที่พุ่งสูงขึ้นในจีน พญ. อาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีกำกับดูแลเรื่องโรคโควิดของนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า หน่วยงานประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของนิวซีแลนด์ได้ข้อสรุปว่า นักเดินทางจากจีนไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิดในนิวซีแลนด์อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการจำกัดการเดินทางเข้านิวซีแลนด์จึงไม่จำเป็นหรือชอบธรรม อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะขอให้นักเดินทางจากจีนบางส่วนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยความสมัครใจเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคโควิด ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับข้อกังวลขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการที่จีนไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในประเทศ ทั้งยังระบุว่า นิวซีแลนด์กำลังวางแผนเริ่มตรวจน้ำเสียจากเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อหาเชื้อโควิด หากแนวทางนี้ประสบผลสำเร็จ ก็จะนำมาใช้แทนการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างเจาะจงและสมัครใจกับนักเดินทางเป็นรายบุคคล ก่อนหน้านี้ หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐ และญี่ปุ่น ได้ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการระบาดอย่างรุนแรงและการเปิดเผยข้อมูลด้านสาธารณสุขของจีน ขณะที่จีนออกมาตำหนิว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวจีน. -สำนักข่าวไทย

นิวซีแลนด์ผ่านกฎหมายแบนบุหรี่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่

เวลลิงตัน 13 ธ.ค. – นิวซีแลนด์ผ่านกฎหมายห้ามเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซื้อบุหรี่ตลอดชีวิต ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของโลกที่ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ เผยหลังนิวซีแลนด์ผ่านกฎหมายดังกล่าวในวันนี้ว่า ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากจะมีอายุขัยยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ระบบสาธารณสุขนิวซีแลนด์จะประหยัดงบประมาณได้มากถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 174,000 ล้านบาท) เนื่องจากไม่จำเป็นต้องนำเงินดังกล่าวไปใช้รักษาผู้ป่วยที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยที่จำเป็นต้องตัดแขนขา หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่จะทำให้เกณฑ์อายุในการซื้อบุหรี่ได้ตามกฎหมายสูงขึ้นทุกปี เพราะกฎหมายล่าสุดที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2566 จะทำให้เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปีในปัจจุบัน ไม่สามารถซื้อบุหรี่มาสูบได้ตลอดชีวิต เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศปลอดบุหรี่ภายในปี 2568 นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังได้ออกกฎหมายลูกเพื่อนำมาใช้ควบคู่กันไปเพื่อทำให้บุหรี่มีราคาแพงขึ้นและเข้าถึงได้ยากขึ้น เช่น การปรับลดปริมาณสารนิโคตินในบุหรี่ การออกข้อกำหนดให้ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตไม่มีสิทธิขายบุหรี่ ยกเว้นร้านขายบุหรี่โดยเฉพาะ โดยจะลดจำนวนร้านขายบุหรี่จาก 6,000 ร้านทั่วประเทศให้เหลือเพียง 600 ร้านเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

นิวซีแลนด์จะถอดบทเรียนรับมือโควิด

เวลลิงตัน 5 ธ.ค.- รัฐบาลนิวซีแลนด์จะเริ่มการไต่ถามมาตรการรับมือโรคโควิด-19 ของประเทศ เพื่อถอดบทเรียนให้รัฐบาลในอนาคตได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์แถลงวันนี้ว่า คณะกรรมาธิการการไต่ถามจะพิจารณามาตรการรับมือทั้งหมด ครอบคลุมถึงมาตรการเศรษฐกิจอย่างนโยบายการเงินการคลัง แต่จะไม่พิจารณาการตัดสินใจเป็นการเฉพาะของธนาคารกลาง จุดประสงค์เพื่อถอดบทเรียนการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 สำหรับประยุกต์ใช้รับมือการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2567 นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นกล่าวว่า โควิดระบาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบ 100 ปี จึงจำเป็นต้องรวบรวมสิ่งที่ได้กระทำมาและสิ่งที่ได้เรียนรู้สำหรับใช้ในกรณีที่อาจเกิดการระบาดขึ้นอีก นิวซีแลนด์รับมือโควิดอย่างรวดเร็ว ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้สามารถสกัดโควิดได้จนถึงปลายปี 2564 แต่การบังคับให้คนทำงานด้านสาธารณสุขและการศึกษาต้องฉีดวัคซีน และการปิดประเทศอย่างเข้มงวดทำให้เกิดการประท้วงเมื่อต้นปี ส่วนมาตรการการเงินที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวโทษว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ.-สำนักข่าวไทย

สองนายกฯ หญิงปฎิเสธว่าหารือกันเพราะอายุใกล้กัน

เวลลิงตัน 30 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ และนายกรัฐมนตรีซานนา มาริน ของฟินแลนด์ ปฏิเสธข้อสงสัยของผู้สื่อข่าวชายที่ถามขึ้นว่า การที่ผู้นำทั้งสองคนนัดพบปะหารือกันที่นิวซีแลนด์เป็นเพราะทั้งคู่มีอายุใกล้เคียงกันและมีหลายสิ่งที่คล้ายกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น วัย 42 ปี และนายกรัฐมนตรีมาริน วัย 37 ปี ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวชายคนดังกล่าวจากสถานีวิทยุนิวส์ทอล์ก ซีบี (Newstalk ZB) ของนิวซีแลนด์ว่า ทั้งสองคนนัดหารือกันเพราะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะเป็นผู้นำหญิงอายุน้อยเหมือนกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังตั้งคำถามกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า เธอสงสัยว่าเขาจะตั้งคำถามนี้กับผู้นำประเทศที่เป็นผู้ชายหรือไม่ ทั้งยังระบุว่า แม้เธอกับนายกรัฐมนตรีมารินเป็นผู้หญิงที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมืองที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ก็จริง แต่การที่ทั้งคู่พบกันคงไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกันอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าของนิวซีแลนด์กับฟินแลนด์ว่า การพบหารือกันในวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมารินกำลังปฏิบัติภารกิจเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และถือเป็นนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์คนแรกที่เยือนนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกับนายกรัฐมนตรีมารินยังได้เปิดการหารือระดับทวิภาคีร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ปัญหาค่าครองชีพ การให้ความสนับสนุนแก่ยูเครนหลังถูกรัสเซียบุกโจมตี และเหตุชุมนุมประท้วงในอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

ศาลนิวซีแลนด์ชี้กำหนดอายุ 18 ปีเลือกตั้งเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ

เวลลิงตัน 21 พ.ย. – ศาลสูงสุดของนิวซีแลนด์ชี้ว่า การที่นิวซีแลนด์กำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้งเป็นการกระทำที่เลือกปฏิบัติ ทำให้รัฐสภานิวซีแลนด์จำเป็นต้องหารือกันว่าควรจะปรับลดอายุของบุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ศาลสูงสุดของนิวซีแลนด์ระบุในวันนี้ว่า การที่กฎหมายนิวซีแลนด์กำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิพื้นฐานของพลเมือง (Bill of Rights) ซึ่งต้องการให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปเป็นอิสระจากการถูกเลือกปฏิบัติ ขณะที่ความเห็นดังกล่าวของศาลสูงสุดนิวซีแลนด์ทำให้รัฐสภานิวซีแลนด์จำเป็นต้องหารือร่วมกันว่าควรจะปรับลดอายุของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนอภิปรายในสภาและได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการเฉพาะกิจของรัฐสภา แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับว่าจะต้องทำตามเช่นนั้น นายเคเดน ทิปเลอร์ ผู้อำนวยการร่วมของ ‘เมก อิท ซิกซ์ทีน’ (Make It 16) กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้นิวซีแลนด์กำหนดให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ระบุว่า ความเห็นของศาลสูงสุดนิวซีแลนด์ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ รัฐบาลนิวซีแลนด์และรัฐสภาไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อข้อคิดเห็นดังกล่าวได้ และต้องปรับเปลี่ยนกฎหมายให้บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์มีเหตุผลไม่เพียงพอที่จะห้ามไม่ให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้สามารถทำใบขับขี่ ทำงานเต็มเวลา และจ่ายเงินภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เผยว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์จะร่างกฎหมายเพื่อปรับให้บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องผ่านความเห็นชอบจากการลงมติในรัฐสภาด้วยคะแนนร้อยละ […]

ไทย-นิวซีแลนด์กระชับสัมพันธ์ด้านศก.-ท่องเที่ยว

นายกฯ หารือทวิภาคีนายกฯ เขตเศรษฐกิจนิวซีแลนด์ ย้ำความร่วมมือรอบด้าน มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว ขณะที่ผู้นำนิวซีแลนด์ชื่นชมไทยเจ้าภาพเอเปค ที่ดึงความร่วมมือจากทุกเขตฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกฯ หารือทวิภาคีขยายความร่วมมือ

นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีผู้นำเขตเศรษฐกิจออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กระชับความสัมพันธ์การค้า การลงทุน พร้อมหารือกก.ไอเอ็มเอฟ เกี่ยวกับการฟื้นเศรษฐกิจไทย หลังโควิด-19

สหรัฐ-พันธมิตรประกาศกดดันเกาหลีเหนือ

กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- สหรัฐและประเทศพันธมิตรประกาศจะกดดันเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธล่าสุดในวันนี้ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐและผู้นำญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่กรุงเทพฯ ได้จัดการหารือเร่งด่วนในวันนี้ หลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามทวีปได้ไม่กี่ชั่วโมง เป็นขีปนาวุธที่ญี่ปุ่นระบุว่า สามารถยิงได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสกล่าวกับสื่อก่อนเริ่มการหารือว่า ขอประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ และขอเรียกร้องอีกครั้งให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำผิดกฎหมายที่สร้างความไร้เสถียรภาพ เธอในฐานะตัวแทนสหรัฐขอย้ำเรื่องพันธกิจแข็งแกร่งที่สหรัฐมีต่อพันธมิตรในอินโด-แปซิฟิก สหรัฐและพันธมิตรในที่นี้จะเดินหน้าเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยึดมั่นในการทูตที่จริงจังและยั่งยืนต่อไป นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นเตือนว่า มีความเป็นได้ว่าเกาหลีเหนือจะทดลองขีปนาวุธอีก ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซูของเกาหลีใต้ระบุว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุอย่างยิ่งที่ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบาเนซี กล่าวว่า การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทิ้งตัวจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้บ่อนทำลายความมั่นคง ผู้นำทั้งหมดขอเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการยั่วยุนี้ และยึดมั่นตามมติของสหประชาชาติ ส่วนนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดากล่าวว่า เขาและพันมิตรขอประณามการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

วาฬนำร่องเกยตื้นที่นิวซีแลนด์ตายหมดทั้ง 240 ตัว

เวลลิงตัน 11 ต.ค.- นิวซีแลนด์แจ้งว่า วาฬนำร่อง 240 ตัวที่เกยตื้นบนเกาะห่างไกลได้ตายหมดทุกตัวแล้ว หลังเกิดเหตุวาฬ 215 ตัวเกยตื้นตายบนเกาะใกล้กันเมื่อไม่กี่วันก่อน สำนักงานอนุรักษ์ธรรมชาติแจ้งทางอีเมลว่า ทีมเทคนิคได้ประเมินสถานการณ์ที่เกาะพิตต์ไอส์แลนด์เมื่อวันจันทร์และตัดสินใจทำให้วาฬเกยตื้นที่ยังรอดชีวิตตายอย่างสงบ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่ถือว่าเป็นทางเลือกที่กรุณาที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการนำวาฬกลับลงน้ำเพราะเสี่ยงจะถูกฉลามทำร้ายทั้งวาฬและคน อีกทั้งบนเกาะนี้มีประชาชนเพียง 40 คน ไม่เพียงพอที่จะช่วยนำวาฬกลับลงน้ำได้ เกาะพิตต์ไอส์แลนด์อยู่ใกล้กับเกาะชาธัมไอส์แลนด์ที่เพิ่งเกิดเหตุวาฬนำร่องเกยตื้นหมู่เมื่อวันเสาร์ ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจทำให้วาฬเกยตื้นที่ยังรอดชีวิตตายอย่างสงบเช่นกัน มีวาฬตายทั้งหมด 215 ตัว ทั้ง 2 เกาะนี้อยู่ในหมู่เกาะชาธัมที่อยู่ห่างจากเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ไปทางตะวันออก 840 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้จุดที่มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ดึงดูดให้วาฬและฉลามเข้ามาหากิน นิวซีแลนด์และออสเตรเลียที่อยู่ใกล้กันเกิดเหตุวาฬเกยตื้นหมู่อยู่เสมอ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนถึงสาเหตุที่วาฬเกยตื้นหมู่.-สำนักข่าวไทย

1 6 7 8 9 10 50
...