ยูเครนเดินหน้าเปิดท่าเรือในทะเลดำแม้ถูกรัสเซียโจมตี

เคียฟ 25 ก.ค. – ยูเครนเร่งเดินหน้าความพยายามฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือในทะเลดำอีกครั้ง โดยระบุว่าได้รับผลกระทบจากการที่รัสเซียยิงจรวดโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัสเซียแย้งว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบ นายโอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนกำลังเตรียมการด้านเทคนิคเพื่อกลับมาส่งออกสินค้าเกษตรจากท่าเรือในทะเลดำอีกครั้ง ขณะที่กองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) จำนวน 2 ลูกถล่มปั๊มน้ำมันที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือของยูเครน และกองกำลังป้องกันยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธดังกล่าว 2 ลูก ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า รัสเซียได้ตั้งเป้ายิงขีปนาวุธถล่มระบบโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพยูเครนเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังรัสเซียกับยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงเปิดทางให้ยูเครนกลับมาส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือในทะเลดำอีกครั้งเพื่อบรรเทาภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลก แต่เขายืนยันว่าการโจมตีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ประณามการโจมตีท่าเรือในเมืองโอเดสซาเมื่อวันเสาร์ของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และแสดงให้เห็นว่ายูเครนเชื่อใจรัฐบาลรัสเซียไม่ได้ ทั้งที่ทั้งสองประเทศเพิ่งทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำโดยมีตุรกีกับองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เป็นตัวกลาง ในขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนเผยในขณะที่สงครามยูเครนยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่หกว่า กองทัพรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนตลอดคืนวันอาทิตย์ และได้วางแผนโจมตีเพื่อยึดเมืองบักมุตในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสำคัญของยูเครน ส่วนทำเนียบประธานาธิบดียูเครนระบุว่า มีประชาชน 3 คนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของศูนย์วัฒนธรรมในเมืองชูกูเยฟที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียยืนยันทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารท่าเรือยูเครน

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยืนยันวันนี้ว่า ขีปนาวุธของรัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารในการโจมตีท่าเรือเมืองโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันเสาร์

ยูเครนเดินหน้าฟื้นส่งออกธัญพืชแม้ถูกขีปนาวุธถล่มท่าเรือ

เคียฟ 24 ก.ค.- ยูเครนเดินหน้าฟื้นการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือเมืองโอเดสซาและท่าเรือริมทะเลดำแห่งอื่น ๆ หลังจากท่าเรือที่เมืองโอเดสซาถูกขีปนาวุธยิงถล่มเมื่อวันเสาร์ ด้านรัสเซียแจ้งผ่านตุรกีว่าไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนประณามการยิงขีปนาวุธดังกล่าวว่า เป็นความป่าเถื่อนอย่างชัดแจ้งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถเชื่อใจรัสเซียได้ว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครน อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเผยว่า การเตรียมการเพื่อฟื้นการส่งออกธัญพืชยังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่สถานีแพร่ภาพกระจายเสียงแห่งชาติของยูเครน (Suspilne) รายงานอ้างกองทัพยูเครนว่า พื้นที่เก็บธัญพืชที่ท่าเรือไม่ได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธ ด้านผู้ว่าการแคว้นโอเดสซาแจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บและโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเสียหาย กองทัพยูเครนเผยแพร่คลิปนักดับเพลิงพยายามดับไฟบนเรือลำหนึ่งที่จอดข้างเรือลากจูงที่ท่าเรือในเมืองโอเดสซา โดยระบุว่าขีปนาวุธคาลิเบอร์ (Kalibr) 2 ลูกของรัสเซียยิงถูกสถานีบริการน้ำมันที่ท่าเรือแห่งนี้ และอีก 2 ลูกถูกกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนยิงสกัดไว้ได้ ด้านกระทรวงกลาโหมตุรกีเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัสเซียไม่เกี่ยวข้องกับการยิงขีปนาวุธดังกล่าว ตุรกีและสหประชาชาติเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยให้แก่การขนส่งธัญพืชที่ท่าเรือของยูเครนเมื่อวันศุกร์ หวังช่วยควบคุมราคาอาหารโลกที่พุ่งขึ้นพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วในวันนี้ และไม่มีท่าทีว่าจะบรรเทาลง เจ้าหน้าที่ยูเครนคาดว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยให้การส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือ 3 แห่งของยูเครนกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดสงครามที่เดือนละ 5 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

ตุรกีเผยรัสเซียกับยูเครนจ่อทำข้อตกลงเปิดท่าเรือในทะเลดำ

เคียฟ 22 ก.ค. – ตุรกีเผยว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงร่วมกันในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ยูเครนใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ซึ่งทำให้เกิดความหวังครั้งใหม่ในการบรรเทาภาวะวิกฤตอาหารทั่วโลกที่เป็นผลมาจากการเปิดฉากบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียกับยูเครนจะลงนามข้อตกลงในวันนี้เพื่อกลับไปเปิดท่าเรือของยูเครนในทะเลดำที่ใช้ส่งออกธัญพืชอีกครั้ง ขณะที่โฆษกขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าว แต่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการของยูเอ็น จะเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ และคาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงในเวลา 13.30 น. ของวันนี้ตามเวลามาตรฐานกรีนิช หรือตรงกับเวลา 20.30 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย อย่างไรก็ดี รัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก ยังไม่ได้ออกมายืนยันประกาศของทำเนียบประธานาธิบดีตุรกี แต่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเป็นนัยผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียอาจเลิกปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียได้ใช้กองเรือปิดกั้นท่าเรือของยูเครนในทะเลดำจนทำให้ปริมาณอาหารในตลาดทั่วโลกลดลงอย่างมากและทำให้ราคาธัญพืชพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

รมว.คลังสหรัฐยกเลิกงานกลางแจ้งที่ญี่ปุ่น

แองเคอเรจ 10 ก.ค.- รัฐมนตรีคลังสหรัฐยกเลิกกำหนดการเยือนท่าเรือระหว่างการเยือนญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า หลังเกิดเหตุลอบสังหารนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขณะหาเสียงกลางแจ้ง ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะแวะญี่ปุ่นเพื่อแสดงความไว้อาลัย กระทรวงคลังสหรัฐแถลงว่า นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง วัย 75 ปี จะยังคงไปเยือนญี่ปุ่นตามกำหนด โดยจะพบหารือกับรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม แต่ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางไปยังท่าเรือโยโกฮามาในวันดังกล่าว เดิมเธอมีกำหนดประชุมกับแกนนำธุรกิจ เยี่ยมชมท่าเรือและกล่าวสุนทรพจน์ นางเยลเลนจะเดินทางต่อไปยังเกาะบาหลีของอินโดนีเซียเพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือจี 20 (G20) ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม นับเป็นการเยือนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 เพื่อขอเสียงสนับสนุนเรื่องการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย เพราะหลายประเทศรวมทั้งอินเดียที่หันไปซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียไม่สนับสนุนเรื่องนี้ ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ วัย 60 ปี ได้เพิ่มกำหนดการแวะกรุงโตเกียวไว้ในตารางการตระเวนเยือนเอเชีย โดยจะแวะในวันจันทร์นี้เพื่อแสดงความไว้อาลัยอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และพบหารือกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น เนื่องจากความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นคือเสาหลักของสันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก ขณะนี้นายบลิงเคนกำลังอยู่ระหว่างเยือนไทย หลังจากยกเลิกการเยือนเมื่อเดือนธันวาคมปีก้อน เนื่องจากผู้สื่อข่าวร่วมคณะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่วนวันที่นายอาเบะถูกลอบสังหารเขาอยู่ระหว่างประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจี 20 ที่เกาะบาหลี.-สำนักข่าวไทย

คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ประท้วงเป็นวันที่ 6 แล้ว

คนขับรถบรรทุกในเกาหลีใต้ผละงานประท้วงเป็นวันที่ 6 แล้วในวันนี้ หลังจากการเจรจากับรัฐบาลไม่มีความคืบหน้าเรื่องข้อเรียกร้องขอเพิ่มค่าจ้างขนส่ง ส่งผลให้การขนส่งสินค้าตามศูนย์อุตสาหกรรมและท่าเรือใหญ่หยุดชะงักไปหมด

คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ประท้วงที่ท่าเรือเป็นวันที่ 3

โซล 9 มิ.ย.-คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้หลายพันคนยังคงออกมาชุมนุมประท้วงที่ท่าเรือและสถานีตู้สินค้าหลายแห่งในเกาหลีใต้ติดต่อกันเป็นวันที่สาม เพื่อขัดขวางการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ซึ่งทำให้หลายคนวิตกกังวลว่าอาจเกิดความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่กำลังอยู่ในภาวะตึงตัว กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า คนขับรถบรรทุกร้อยละ 30 ที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานขนส่งสินค้าบรรทุกของเกาหลีใต้ได้ออกมาชุมนุมในวันนี้เป็นวันที่สามเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลขึ้นค่าจ้าง เนื่องจากประสบปัญหาราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้ใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเร่งหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวผ่านการเจรจาร่วมกับหลายฝ่าย ในขณะเดียวกัน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของเกาหลีใต้ได้ออกมาตำหนิการชุมนุมประท้วงของคนขับรถบรรทุกว่าเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก เนื่องจากการชุมนุมดังกล่าวจะยิ่งทำร้ายภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มากขึ้นจากเดิมที่เผชิญกับปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลกอยู่ก่อนแล้ว ด้านสำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า บริษัท ฮุนได มอเตอร์ ของเกาหลีใต้ เริ่มได้รับผลกระทบในกระบวนการผลิตที่โรงงานในเมืองอุลซัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากคนขับรถบรรทุกไม่ยอมขับรถส่งชิ้นส่วนยานยนต์ไปที่โรงงานดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

คนขับรถบรรทุกเกาหลีใต้ชุมนุมประท้วงที่ท่าเรือหลายแห่ง

สหพันธ์แรงงานการขนส่งระหว่างประเทศ หรือไอทีเอฟ ซึ่งเป็นสหพันธ์สหภาพแรงงานระดับโลก ระบุว่า คนขับรถบรรทุกในเกาหลีใต้หลายพันคนได้ออกมาชุมนุมประท้วงที่ท่าเรือและสถานีตู้สินค้าหลายแห่งทั่วประเทศ เพื่อขัดขวางการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ หลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

ยูเครนคาดจะส่งออกธัญพืชผ่านพรมแดนโปแลนด์ได้มากขึ้น

เคียฟ 17 พ.ค.- กระทรวงเกษตรยูเครนคาดว่า จะสามารถส่งออกธัญพืชได้มากขึ้น หลังจากลงนามข้อตกลงกับโปแลนด์ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านเรื่องลดความยุ่งยากของกระบวนการศุลกากร และเพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพรมแดน กระทรวงเกษตรยูเครนแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้ธัญพืชของยูเครนข้ามพรมแดนด้านโปแลนด์ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ยูเครนเป็นผู้ปลูกและส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก แต่ถูกกองกำลังรัสเซียปิดล้อมท่าเรือทางทะเลที่ใช้เป็นช่องทางส่งออกหลัก จึงต้องเปลี่ยนไปใช้พรมแดนฝั่งตะวันตกด้านที่ติดกับโปแลนด์ ซึ่งลำเลียงทางรถไฟได้อย่างจำกัด และมีท่าเรือขนาดเล็กริมแม่น้ำดานูบ พ่อค้าและเจ้าหน้าที่ยูเครนเผยว่า กระบวนการศุลกากรและการที่โปแลนด์มีเจ้าหน้าที่บริเวณพรมแดนไม่มากทำให้การส่งออกถูกจำกัด โดยพบว่า ช่วง 10 วันแรกของเดือนพฤษภาคมยูเครนส่งออกธัญพืชได้เพียง 300,000 ตัน ลดลงกว่าครึ่งหนึ่งจาก 667,000 ตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ช่วงก่อนถูกรัสเซียยกกำลังบุกในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ยูเครนส่งออกธัญพืชได้มากถึงเดือนละ 6 ล้านตัน.-สำนักข่าวไทย

เลบานอนจัดเลือกตั้งครั้งแรกตั้งแต่เศรษฐกิจพัง

เบรุต 15 พ.ค.- เลบานอนเปิดคูหาเลือกตั้งแล้วในวันนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เศรษฐกิจประเทศพังทลาย เป็นบททดสอบว่ากลุ่มเฮซบอลลาห์และพันธมิตรจะสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาได้หรือไม่ ในยามที่ประชาชนไม่พอใจรัฐบาลเพราะมีคนยากจนเพิ่มขึ้น คูหาเลือกตั้งใน 15 เขตเปิดเมื่อเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 11:00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย เลบานอนจัดการเลือกตั้งครั้งหลังสุดในปี 2561 ครั้งนั้นกลุ่มเฮซบอลลาห์ที่เป็นมุสลิมนิกายชีอะห์และพันธมิตร ซึ่งรวมถึงพรรคเอฟพีเอ็ม (FPM) ที่เป็นพรรคคริสเตียนของประธานาธิบดีมีเชล อวน ได้ที่นั่งในสภาไป 71 ที่นั่งจากทั้งหมด 128 ที่นั่ง หลังจากนั้นเศรษฐกิจประเทศพังทลาย ธนาคารโลกโทษว่าเป็นเพราะความล้มเหลวของรัฐบาล ตามด้วยเหตุระเบิดโกดังเก็บแอมโมเนียมไนเตรตที่ท่าเรือกรุงเบรุตในปี 2563 สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง มีคนเสียชีวิต 218 คน บาดเจ็บราว 7,000 คน และกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยมากถึง 300,000 คน นักวิเคราะห์ชี้ว่า กระแสความไม่พอใจของประชาชนอาจเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวคิดปฏิรูปได้ที่นั่งในสภา แต่คงไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เนื่องจากระบบการเมืองแบบแบ่งขั้วเอื้อให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ประโยชน์ ขณะที่กลุ่มจับตาการเลือกตั้งเตือนว่า อาจมีการซื้อเสียงด้วยการแจกอาหารและบัตรซื้อเชื้อเพลิงให้แก่ครอบครัวยากจน.-สำนักข่าวไทย

ยูเครนปิดท่าเรือ 4 แห่งที่ถูกรัสเซียยึด

เคียฟ 2 พ.ค.- กระทรวงเกษตรยูเครนแถลงวันนี้ว่า ได้ปิดท่าเรือ 4 แห่งริมทะเลดำและทะเลอาซอฟอย่างเป็นทางการ เป็นท่าเรือที่ถูกกองกำลังรัสเซียยึดไว้ กระทรวงเกษตรยูเครน ระบุว่า ท่าเรือริมทะเลอาซอฟในเมืองมารีอูปอล เมืองเบอร์เดียนสก์ เมืองสกาดอฟสก์ และท่าเรือริมทะเลดำในเมืองเคอร์ซอน ถูกปิดอย่างเป็นทางการ จนกว่ายูเครนจะสามารถกลับเข้าไปควบคุมได้อีกครั้ง เหตุผลที่ประกาศปิดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากท่าเรือเหล่านี้ไม่สามารถให้บริการแก่เรือ ผู้โดยสาร สินค้า การขนส่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น ๆ โดยรับรองความปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม ท่าเรือในยูเครนทุกแห่งงดให้บริการ หลังจากกองกำลังรัสเซียยึดท่าเรือบางแห่งและปิดกั้นการเข้าออกท่าเรือบางแห่ง ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้สัมภาษณ์รายการข่าวของออสเตรเลียในวันนี้ว่า ธัญพืชของยูเครนอาจเสียหายหลายสิบล้านตัน เพราะรัสเซียไม่ยอมให้เรือเข้าออกทะเลดำ หวังปิดล้อมเศรษฐกิจยูเครนอย่างเบ็ดเสร็จ และจะทำให้เกิดวิกฤตด้านอาหารที่จะกระทบต่อหลายภูมิภาค ทั้งยุโรป เอเชีย และแอฟริกา.-สำนักข่าวไทย

เรือสำราญเทียบท่าออสเตรเลียลำแรกในรอบกว่า 2 ปี

ซิดนีย์ 18 เม.ย.- ท่าเรือซิดนีย์ของออสเตรเลียมีเรือสำราญเทียบท่าเป็นลำแรกในรอบกว่า 2 ปี ในวันนี้ หลังจากออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งห้ามเรือสำราญเข้าน่านน้ำเพราะการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2563 ฝูงชนไปรวมตัวกันที่ฐานสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์รอต้อนรับเรือสำราญแปซิฟิกเอ็กซ์พอเรอร์ (Pacific Explorer) ที่ออกเดินทางจากไซปรัสซึ่งอยู่ไกลออกไป 18,000 กิโลเมตรเมื่อเกือบ 1 เดือนก่อนเพื่อกลับออสเตรเลีย เรือลำนี้จอดลอยลำอยู่นอกชายฝั่งไซปรัสพร้อมกับเรือสำราญอีก 2 ลำมาร่วมปี รอออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งห้ามเรือสำราญเข้าน่านน้ำที่ถูกเลื่อนออกไปเพราะเกิดการระบาดหลายระลอก บริษัทท่องเที่ยวเผยว่า ยอดจองเรือสำราญเที่ยวออสเตรเลียขณะนี้เริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว สมาคมเดินเรือสาญสากลเผยว่า ก่อนโควิดระบาดมีเรือสำราญประมาณ 350 ลำ พาผู้โดยสารเทียบท่าออสเตรเลียมากกว่า 600,000 คน สร้างรายได้ให้แก่ออสเตรเลียราว 5,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 128,750 ล้านบาท) ออสเตรเลียห้ามเรือสำราญสากลเข้าน่านน้ำตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หลังจากเรือรูบีปรินเซส (Ruby Princess) เป็นต้นตอการระบาดที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต 28 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชรา.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 6 9
...