เศรษฐกิจสิงคโปร์ทรุดหนักที่สุดเพราะโควิด
เศรษฐกิจของสิงคโปร์ประสบภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวอย่างหนัก
เศรษฐกิจของสิงคโปร์ประสบภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2020 เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยวอย่างหนัก
ออสเตรเลียหลุดจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีแล้ว
ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของฮ่องกงที่ดำเนินมาเป็นเวลายาวนานเริ่มมีสัญญาณว่าจะดีขั้นในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศและจากภายนอก ซึ่งได้แก่จีนที่เศรษฐกิจของจีนเริ่มปรับตัวดีขึ้น และจากการที่การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในฮ่องกงเริ่มลดลงและกิจกรรมในตลาดการเงินในฮ่องกงเริ่มคึกคัก
เศรษฐกิจออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับจากปี 2534 หลังจากหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน อันเป็นผลจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด
ซูริค 27 ส.ค.- เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไตรมาสสองร่วงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ กระทรวงเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์แถลงวันนี้ว่า ไตรมาสสองปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) หดตัวถึงร้อยละ 8.2 มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2523 ขณะที่ไตรมาสแรกหดตัวร้อยละ 2.5 ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคเพราะหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์เป็นไปตามเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างหนักเพราะโรคโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วโลกเกิน 24 ล้านคนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตกว่า 820,000 คน อย่างไรก็ดี จีดีพีของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งมีผู้ป่วยกว่า 40,000 คน เสียชีวิตกว่า 1,700 คน ถือว่าลดลงอย่างจำกัดเมื่อเทียบกับหลายประเทศ เนื่องจากภาคบริการเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากมาตรการจำกัดการระบาดครองสัดส่วนจีดีพีของสวิตเซอร์แลนด์น้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ไตรมาสสองปีนี้ภาคการผลิตของสวิตเซอร์แลนด์ลดลงร้อยละ 9 ได้อุตสาหกรรมการผลิตยาที่ขยายตัวช่วยยับยั้งไม่ให้ลดลงหนัก การส่งออกสินค้ายกเว้นสินค้ามีค่าลดลงร้อยละ 9.4 ธุรกิจที่พักและอาหารลดลงกว่าร้อยละ 54 การบริโภคภาคเอกชนลดลงร้อยละ 8.6 ความต้องการบริโภคในประเทศลดลงมากเป็นประวัติการณ์ ทำให้การนำเข้าสินค้าลดลงร้อยละ 14.3 และการนำเข้าภาคบริการลดลงกว่าร้อยละ 22.-สำนักข่าวไทย
ลอนดอน 12 ส.ค.- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสสองของปีนี้ว่า หดตัวมากเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 20.4 มากที่สุดในบรรดาเศรษฐกิจใหญ่ทั้งหมด และเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคเพราะหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่า ไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนเป็นช่วงที่มาตรการปิดเมืองเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เข้มงวดที่สุดทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ของอังกฤษหดตัวมากที่สุด ก่อนเริ่มฟื้นตัวในเดือนมิถุนายน โดยขยายตัวร้อยละ 8.7 จากเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังคงต่ำกว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่เป็นช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด นายริชี ซูนัค รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวว่า ตัวเลขวันนี้ยืนยันว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก มีคนตกงานไปแล้วจำนวนมาก และกำลังจะตกงานตามมาอีกในหลายเดือนข้างหน้า สัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า ต้องรอจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 กว่าเศรษฐกิจใหญ่อันดับหกของโลกแห่งนี้จะกลับมามีขนาดเท่าก่อนโควิด-19 ระบาด และเตือนว่าอัตราว่างงานมีแนวโน้มจะสูงขึ้นมาก ไตรมาสแรกปีนี้จีดีพีอังกฤษหดตัวร้อยละ 2.2 เป็นช่วงที่ยังไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะอังกฤษเริ่มใช้มาตรการปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ก่อนที่ไตรมาสสองจะหดตัวถึงร้อยละ 20.4 ต่อไตรมาส เทียบกับประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรหรือยูโรโซนที่หดตัวร้อยละ 12.1 และสหรัฐที่หดตัวร้อยละ 9.5.-สำนักข่าวไทย
เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัวมากกว่าร้อยละ 40 ในไตรมาสที่สอง เป็นการยืนยันถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสิงคโปร์
รัฐบาลออสเตรเลียคาดเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ หลังจากไตรมาสแรกปีนี้หดตัว และไตรมาสสองน่าจะหดตัวหนักกว่าเดิมเพราะโควิด-19
นายกฯ ออสเตรเลียคาดเศรษฐกิจออสเตรเลียจะปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และกลับมาเดินหน้าภายในเดือนก.ค. เพราะรัฐบาลจะหาทางช่วยให้คนว่างงาน 1 ล้านคนได้กลับมาทำงานอีกครั้ง
ทางการสิงคโปร์แจ้งวันนี้ว่า จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองที่ใช้ควบคุมโรคโควิด-19 ระบาดตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมนี้ เพื่อเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสแจ้งวันนี้ว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการแล้ว เนื่องจากติดลบร้อยละ 5.8 ในไตรมาสแรกของปีนี้
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนระบุสถานการณ์ในฮ่องกงซับซ้อนที่สุดตั้งแต่กลับสู่มาตุภูมิ ทางการจีนจะยังคงสนับสนุนนางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงและตำรวจอย่างเต็มที่