ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 3.15 จุด ตอบรับเลือกตั้งชัดเจน
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,620.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 60,838.32 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,620.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 60,838.32 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,620.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 60,838.32 ล้านบาท
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ (23 ม.ค.) ที่ระดับ 1,617.38 จุด เพิ่มขึ้น 15.61 จุด หรือร้อยละ 0.97 มูลค่าการซื้อขาย 67,874.58 ล้านบาท โดยการซื้อขายดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีฯ แตะจุดสูงสุดที่ 1,620.51 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,600.35 จุด
ดัชนีช่วงเที่ยงอยู่ที่ 1,617.25 จุด เพิ่มขึ้น 15.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,148.22 ล้านบาท
ดัชนีช่วงเที่ยงอยู่ที่ 1,594.88 จุด เพิ่มขึ้น 6.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 21,292.48 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,588.38 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด (+0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 45,130.70 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทย ปิดบวก 4.61 จุด รับอานิสงส์จากผ่อนคลายสงครามการค้า
ดัชนีภาคเช้าปิด 1,591.92 จุด เพิ่มขึ้น 8.15 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 25,625.23 ล้านบาท
ดัชนีช่วงเที่ยงอยู่ที่ 1,581.44 จุด เพิ่มขึ้นมา 4.03 จุด มูลค่าการซื้อขายคึกคัก 21,094.42 ล้านบาท
ดัชนีหุ้นวันนี้ขยับบวกเพิ่มขึ้น 0.41 จุด ปิดการซื้อขายวันนี้ที่ระดับ 1,577.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,218.66 ล้านบาท ตลาดยังคงรอดูความชัดเจนเรื่องของการเลือกตั้งในบ้านเราและเรื่อง Brexit
ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์บ้านเราวันนี้ไม่ค่อยสดใส ปิดดัชนี SET วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ระดับ 1,582.57 จุด ลดลง 14.47 จุด หรือร้อยละ 0.91 มูลค่าการซื้อขาย 41,570.09 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,587.63 จุด ลดลง 2.87 จุด หรือร้อยละ0.18 มูลค่าการซื้อขาย 53,524.26 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค โดยดัชนีฯ แตะจุดสูงสุดที่ 1,599.10 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,579.20 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยดัชนียังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ จากมีแรงขายทำกำไรออกมา และได้ปรับตัวลงมา เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่นักลงทุนยังติดตามดู โดยเฉพาะการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่สิ้นสุดลงไปนั้น แต่ยังไม่เห็นถึงประเด็นเชิงบวก และการลงมติต่อร่างข้อตกลงแผนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของรัฐสภาอังกฤษ ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ รวมถึงปัญหาการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวเฉพาะตัวของ บมจ.โทเทิ่ล […]