ซีเรีย

อังการา 10 ธ.ค.- ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอานของทูร์เคียหรือตุรกีเผยว่า ทูร์เคียกำลังเปิดประตูด่านด้านซีเรีย เพื่อให้ผู้อพยพชาวซีเรียหลายล้านคนเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัยและโดยสมัครใจ ประธานาธิบดีแอร์โดอานแถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ว่า ทูร์เคียเคยเรียกร้องให้แก้ไขความขัดแย้งในซีเรียด้วยการเจรจา แต่ถูกระบอบการปกครองเดิมปฏิเสธอย่างโอหัง ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียที่ถูกโค่นล้มได้หลบหนีและทิ้งประเทศไว้ข้างหลัง ปล่อยให้คนเกือบ 1 ล้านถูกสังหารหมู่ และคน 12 ล้านคนต้องอพยพ เมืองต่าง ๆ ถูกทำลายเหลือแต่ซาก ขณะนี้เมื่อซีเรียกลับมามีเสถียรภาพ การเดินทางกลับซีเรียโดยสมัครใจ ปลอดภัย และมีเกียรติก็จะเพิ่มขึ้น เขาเชื่อว่า ความรู้สึกโหยหาประเทศของพี่น้องชาวซีเรียตลอด 13 ปีที่ผ่านมาจะทยอยจบสิ้นลงในเวลานี้ และเริ่มเห็นสัญญาณเหล่านี้แล้ว จึงได้เปิดประตูด่านยายลาดอว์ในจังหวัดฮาไต ทางตอนใต้สุดของทูร์เคีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไม่ให้ติดขัด รอยเตอร์รายงานว่า ด่านแห่งนี้อยู่ใกล้กับพรมแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ถูกปิดตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากมีการสู้รบใกล้พรมแดน ผู้นำทูร์เคียกล่าวด้วยว่า ทูร์เคียไม่ต้องการดินแดนหรืออธิปไตยของประเทศอื่น เป้าหมายเดียวของปฏิบัติการข้ามพรมแดน คือ ปกป้องมาตุภูมิและประชาชนจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย ดังนั้นทั้งกองกำลังพรรคคนงานเคอร์ดิสสถานหรือพีเคเค (PKK) รวมถึงเครือข่ายในซีเรีย และกลุ่มรัฐอิสลามจึงไม่ใช่หุ้นส่วน แต่เป็นปรปักษ์ของทูร์เคีย.-814.-สำนักข่าวไทย

เตหะราน 9 ธ.ค. – รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านแสดงความแปลกใจที่กองทัพซีเรียไม่สามารถต้านทานกองกำลังกลุ่มกบฏ ขณะที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำซีเรียกล่าวโทษอิสราเอล นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในประเทศเมื่อวานนี้ หลังจากกลุ่มกบฏในซีเรียโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดในวันเดียวกันว่า หน่วยข่าวกรองและหน่วยงานด้านความมั่นคงในอิหร่านและซีเรียทราบอยู่แล้วว่า กำลังมีการเคลื่อนไหวในเมืองอิดลิบที่อยู่ในความยึดครองของฝ่ายต่อต้านและพื้นที่โดยรอบ มีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยังรัฐบาลและกองทัพซีเรีย หน่วยงานของอิหร่านได้รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งภาพถ่ายและเนื้อหา แล้วแจ้งให้รัฐบาลซีเรียทราบ แต่กลับเกิดเรื่องที่น่าแปลกใจ ประการแรก คือ กองทัพซีเรียไม่สามารถต้านทานความเคลื่อนไหวนี้ได้ตั้งแต่แรก และประการที่ 2 คือ สถานการณ์ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านยืนยันว่า ซีเรียไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากอิหร่าน และอิหร่านไม่คิดว่ามีหน้าที่ในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องภายในของซีเรีย สิ่งที่อิหร่านกังวลเป็นพิเศษ คือ อิสราเอลจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย อิหร่านเคารพในเจตนารมณ์ของประชาชนชาวซีเรีย ส่วนการมีปฏิสัมพันธ์กับฝ่ายต่อต้านของซีเรียจะขึ้นอยู่กับท่าทีของฝ่ายต่อต้านเอง อิหร่านจะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องนโยบายที่มีต่ออิหร่านและกลุ่มชีอะห์ในซีเรีย การรักษาระยะห่างกับอิสราเอล และความสัมพันธ์ที่มีกับกลุ่มก่อการร้าย ขณะเดียวกันนายฮอสเซน อักบารี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำซีเรียกล่าวหาอิสราเอลให้อาวุธและการสนับสนุนแก่กลุ่มกบฏในซีเรียว่า ฝ่ายต่อต้านได้รับอาวุธล้ำสมัยที่แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศยังไม่มีในครอบครอง เป็นเหตุให้รัฐบาลซีเรีย กองทัพ และประชาชนตัดสินใจไม่ต้านทานแข็งขืนมากเกินไป จึงทำให้พันธมิตรของซีเรียไม่สามารถแสดงบทบาทอย่างจริงจังได้เช่นกัน.-814.-สำนักข่าวไทย

ดามัสกัส 9 ธ.ค.- อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้บัญชาการกลุ่มกบฏในซีเรียเป็นคนเก็บตัวที่ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะตลอดสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานกว่า 13 ปี จนกระทั่งกลุ่มกบฏเริ่มปฏิบัติการสายฟ้าแลบเพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรียเมื่อปลายเดือนก่อนจึงเริ่มเปิดตัวต่อสาธารณชน นายอัล-โจลานี มีชื่อจริงว่า อาเหม็ด อัล-ชารา เกิดในปี 2525 เป็นผู้นำกลุ่มฮายอัต ตาห์รีร อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham) หรือเอชทีเอส (HTS) เดิมเป็นที่รู้จักในชื่อแนวร่วมนุสรา (Nusra Front) เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในบรรดากลุ่มต่าง ๆ ที่รวมตัวกันต่อต้านรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดในสงครามกลางเมืองซีเรียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2554 ก่อนหน้าการตั้งแนวร่วมนุสรา นายอัล-โจลานีได้สู้รบในอิรักให้แก่กลุ่มอัลกออิดะห์ และถูกคุมขังในเรือนจำของสหรัฐในอิรักเป็นเวลา 5 ปี เขาเดินทางกลับซีเรียทันทีที่เกิดสงครามกลางเมือง โดยเป็นไปตามคำสั่งของอาบู โอมาร์ อัล-แบกดาดี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ในอิรักในเวลานั้นเพื่อสร้างอิทธิพลของอัลกออิดะห์ในซีเรีย สหรัฐประกาศให้เขาเป็นผู้ก่อการร้ายในปี 2556 ด้วยเหตุผลว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ในอิรักได้มอบหมายให้เขาโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีอัล-อัสซาดแล้วใช้กฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามปกครองซีเรีย อีกทั้งแนวร่วมนุสราของเขายังได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งสังหารพลเรือนเป็นจำนวนมาก และเผยแพร่แนวคิดนิกายที่ใช้ความรุนแรง ขณะที่ทูร์เคียหรือตุรกีประกาศให้เอชทีเอสเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่ยังคงสนับสนุนกลุ่มต่อต้านอื่น ๆ […]

วอชิงตัน 9 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเผยว่า จะร่วมกับหุ้นส่วนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในซีเรียรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซีเรีย และจะขอประเมินคำพูดและการกระทำของกลุ่มกบฏที่โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย ประธานาธิบดีไบเดนแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า หลังจากซีเรียเกิดสงครามกลางเมืองมานาน 13 ปี และอยู่ภายใต้การปกครองแบบเบ็ดเสร็จนานกว่าครึ่งศตวรรษของนายบาชาร์ อัล-อัสซาดและบิดา กลุ่มกบฏได้ทำให้เขาต้องลาออกและหนีออกนอกประเทศ ระบอบอัสซาดได้ล่มสลายลงแล้ว ดังนั้นในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อไปในซีเรีย สหรัฐจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในซีเรียในการใช้โอกาสนี้จัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น นายไบเดนซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่งในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้กล่าวว่า ประการแรกสหรัฐจะสนับสนุนประเทศเพื่อนบ้านของซีเรีย หากเกิดภัยคุกคามจากซีเรียในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ ประการที่ 2 สหรัฐจะสร้างความมั่นใจว่า กำลังทหารของสหรัฐที่ทำหน้าที่สกัดกั้นกลุ่มไอเอสในพื้นที่ทางตะวันออกของซีเรียจะได้รับการปกป้องให้ปลอดภัย ประการสุดท้ายสหรัฐจะยังคงเฝ้าระวัง เนื่องจากบางกลุ่มที่ร่วมอยู่ในกลุ่มกบฏมีประวัติก่อการร้ายและละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นสหรัฐจะขอประเมินทั้งคำพูดและการกระทำของกลุ่มกบฏ นอกจากนี้สหรัฐยังคงมุ่งมั่นที่จะหาทางนำตัวนายออสติน ไทซ์ นักข่าวอิสระชาวอเมริกันที่ถูกลักพาตัวขณะรายงานข่าวการลุกฮือในกรุงดามัสกัสในปี 2555 กลับบ้านมาพบหน้าครอบครัวด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 9 ธ.ค.- อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกลุ่มกบฏหรือฝ่ายต่อต้านในซีเรียที่ยึดกรุงดามัสกัสและโค่นล้มรัฐบาลซีเรียได้สำเร็จเมื่อวานนี้ ถูกสหรัฐประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายและตั้งค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 340 ล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2556 นายอัล-โจลานีถูกสหรัฐประกาศให้เป็นผู้ก่อการร้ายในปี 2556 ด้วยเหตุผลว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ในอิรักได้มอบหมายให้เขาโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแล้วใช้กฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามปกครองซีเรีย นอกจากนี้แนวร่วมนุสรา (Nusra Front) ของเขายังได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหลายครั้งสังหารพลเรือนเป็นจำนวนมาก และเผยแพร่แนวคิดนิกายที่ใช้ความรุนแรง โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของสถานทูตสหรัฐประจำซีเรียเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 ระบุว่า สหรัฐยังคงมุ่งมั่นที่จะนำแกนนำอัลกออิดะห์ในกลุ่มฮายอัต ตาห์รีร อัล-ชาม หรือเอชทีเอส (HTS) มารับโทษ โดยได้ลงภาพถ่ายของเขาและประกาศค่าหัว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ให้เบาะแส ขณะที่ผลการสืบค้นในเว็บไซต์รีวอร์ดฟอร์จัสทิสของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐพบว่า ยังคงมีประกาศค่าหัวดังกล่าวในวันนี้ (9 ธ.ค.67) https://rewardsforjustice.net/rewards/muhammad-al-jawlani/.-814.-สำนักข่าวไทย

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 9 ธ.ค.- มีผู้นำธงของกลุ่มกบฏซีเรียไปแขวนไว้ที่ด้านหน้าสถานกงสุลซีเรียในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียเมื่อวานนี้ โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด  ธงของกลุ่มกบฏประกอบด้วยแถบแนวนอนสีเขียว ขาว และดำ โดยมีดาวสีแดง 3 ดวงอยู่บนแถบสีขาว ขณะที่ธงชาติซีเรียประกอบด้วยแถบแนวนอนสีแดง ขาว และดำ โดยมีดาวสีเขียว 2 ดวงอยู่บนแถบสีขาว กลุ่มกบฏหรือฝ่ายต่อต้านในซีเรียประกอบด้วยกลุ่มต่าง ๆ ที่ต่อต้านตระกูลอัลอัสซาดซึ่งผูกขาดปกครองประเทศมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาดในปี 2514 ต่อด้วยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่สืบทอดตำแหน่งเมื่อบิดาถึงแก่อสัญกรรมในปี 2543 กลุ่มกบฏรวมตัวกันและได้รับการรับรองจากนานาชาติในช่วงปลายปี 2554 หลังจากสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมในปีเดียวกัน จากนั้นได้เคลื่อนไหวทั้งทางการเมืองและทางการทหารมาโดยตลอด จนกระทั่งเปิดฉากบุกโจมตีพร้อมกัน นำมาซึ่งการล่มสลายของตระกูลอัสซาดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เมื่อกลุ่มกบฏสามารถบุกยึดกรุงดามัสกัสและโค่นล้มรัฐบาลได้สำเร็จ ทำให้นายอัสซาดและครอบครัวต้องหลบหนีมายังรัสเซียในวันเดียวกัน โดยได้รับอนุญาตจากทางการรัสเซียให้ลี้ภัยอยู่ในประเทศ การโค่นล้มรัฐบาลซีเรียถือเป็นการปิดฉากการผูกขาดบริหารประเทศแบบเผด็จการของตระกูลอัสซาดที่ยาวนานกว่า 50 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย

มอสโก 9 ธ.ค.-  ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโก โดยรัสเซียให้ลี้ภัยอยู่ในประเทศ หลังจากต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ช่วงที่กลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัสเมื่อวานนี้ เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์รายงานว่า เครื่องบินทหารของรัสเซียขึ้นบินเดินทางออกจากเมืองท่าลาตาเกียของซีเรีย มุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าใครอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ต่อมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า  ประธานาธิบดีอัล-อัสซาดได้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำซีเรียและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังจากสั่งการให้มีการส่งผ่านอำนาจโดยสันติ สื่อรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียที่ยืนยันว่า ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยเข้าอยู่ในรัสเซียด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม เป็นการยืนยันว่า การปกครองซีเรียยาวนาน 24 ปีของนายอัล-อัสซาด ได้จบลงแล้ว และปิดฉากการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาดที่ดำเนินมานาน 50 ปี นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัล-อัสซาด ผู้เป็นบิดา ส่วนที่มัสยิดกลางอุมัยยะห์ ในกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งโลก ฝูงชนรุมล้อมและต้อนรับอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกองกำลังฮายอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม หรือเอชทีเอส (HTS) แกนนำกลุ่มกบฏซีเรียที่นำกำลังบุกโจมตีเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ทั่วซีเรีย รวมถึงกรุงดามัสกัสได้ภายในเวลา 11 วัน หลังจากเริ่มปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน นายอัล-โจลานีกล่าวว่า ชัยชนะของฝ่ายกบฏคือจุดเปลี่ยนของภูมิภาค […]