ดามัสกัส, 12 ธ.ค. – ชาวซีเรียจำนวนหนึ่งยังคงปักหลักค้นหาญาติๆ ที่คาดว่าจะยังตกค้างอยู่ในเรือนจำ หลังจากที่ผู้นำเผด็จการของซีเรียถูกโค่นล้มไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฮายัต อัล-ตูร์รี หญิงสาววัย 27 ปี เป็นหนึ่งในชาวบ้านหลายสิบคนที่ไปปักหลักค้างคืนที่ด้านนอกเรือนจำเซดนายาทางเหนือของกรุงดามัสกัสเพื่อเดินหน้าค้นหาพี่ชายที่สูญหายไปเมื่อ 14 ปีก่อน และยังมีญาติๆของเธออีก 5 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ด้วยความหวังว่าทุกคนจะยังมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่าเรือนจำเซดนายาแห่งนี้มีการทรมานและประหารชีวิตผู้ต้องขังจำนวนมาก
เวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 4 วัน แต่เธอก็ยังไม่พบพี่ชายและญาติๆ ที่ติดคุกอยู่ที่นี่ ตูร์กีบอกว่าเธอได้พบเอกสารของเรือนจำลงวันที่ 1 ตุลาคม 67 เป็นรายชื่อของนักโทษในที่มีจำนวนมากกว่า 7,000 รายชื่อ แต่นักโทษที่ได้รับการปลดปล่อยออกจากเรือนจำในวันที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดถูกโค่นล้มมีจำนวนน้อยกว่ารายชื่ออยู่มาก แต่จากการค้นหาทั่วทั้งเรือนจำแล้วก็ไม่พบว่ามีนักโทษหลงเหลืออยู่ สิ่งที่พบมีเพียงข้าวของเครื่องใช้ของผู้ต้องขังซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าแล้วผู้ต้องขังจำนวนมากที่ไม่ได้ออกไปจากคุกสูญหายไปไหน
ก่อนหน้านั้นกลุ่มสิทธิมนุษยชนเคยรายงานว่ามีการประหารชีวิตนักโทษจำนวนมากในเรือนจำของซีเรีย และสหรัฐก็เคยระบุเมื่อปี 2560 ว่ามีการสร้างที่เผาศพแห่งใหม่ที่เรือนจำเซดนายาเพื่อเผาศพนักโทษที่ถูกแขวนคอ
เมื่อวานนี้อาบู โอฮัมเหม็ด อัล-จูลานี ผู้นำกลุ่มกบฏที่โค่นล้มรัฐบาลซีเรียประกาศว่าคนที่มีส่วนร่วมในการทรมานและสังหารผู้ต้องขังจะต้องถูกตามล่าตัวมารับโทษ และหากคนเหล่านี้หลบหนีออกนอกประเทศก็จะร้องขอให้ประเทศต้นทางช่วยส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในซีเรีย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ตูร์กีมีความหวังมากขึ้น เธอบอกว่านึกไม่ออกว่าพี่ชายของเธอจะมีสภาพอย่างไร เพราะภาพของนักโทษที่ออกจากคุกที่เธอได้เห็นนั้นทุกคนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก.-816.-สำนักข่าวไทย