“ภูมิธรรม” ยันหากเกิดการปะทะ มีมาตรการรับมือหมดแล้ว

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ยัน มีมาตรการรับมือหมดแล้ว หากเกิดการปะทะ ไทย – กัมพูชา ขอสื่ออย่านำเสนอคลาดเคลื่อนอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ชี้ อย่าไปขยายประเด็น ยัน ไทยไม่ได้นอบน้อม หรือ ถนอมคำพูด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์มาตรการเบื้องต้นในการรับมือสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า มีหมดแล้ว แต่ขอไม่ชี้แจงในรายละเอียด แต่จะมีข่าวประชาสัมพันธ์จากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่วนเรื่องการปิดด่านมีการพูดในที่ประชุมวันนี้( 6 มิ.ย.) หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีการพิจารณาทุกมาตรการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะที่เห็นแล้วว่าควรดำเนินการอย่างไร แต่ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่ามีเส้นไหนที่จะออกมาตรการการปิดด่าน หรือห้ามข้ามชายแดนไปเล่นกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นายภูมิธรรม ระบุว่า มีอยู่ในมาตรการแล้ว แต่เชื่อว่าในขณะนี้ไม่สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ได้ รอให้เกิดสถานการณ์แต่ละขั้น แล้วเราสามารถหยิบใช้ได้ ซึ่งได้ตกลงในกลไกแล้ว ว่ากองทัพหน้างานเป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศยืนยันหลักแบบไหนในการดำเนินการ ซึ่งวันนี้คุยกันทุกหน่วยงานแล้ว เมื่อถามว่าได้มีการระบุระยะเวลาหรือไม่ภายหลังจากพบกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาให้ถอนกำลังออกไป นายภูมิธรรม ระบุว่า […]

จังหวัดติดชายแดนเตรียมความพร้อมแผนอพยพ

บุรีรัมย์ 6 มิ.ย. – นายอำเภอ จ.บุรีรัมย์ ประชุมด่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านแนวชายแดน ซักซ้อมแผนอพยพประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิน บรรยากาศแนวชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด เรียกประชุมด่วนระดับท้องถิ่น ทำความเข้าใจแผนอพยพประชาชน กำหนดศูนย์พักพิงให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่อย่าตื่นตระหนก หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ทำตามนโยบาย หรือหนังสือสั่งการกระทรวงมหาดไทยทันที ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ มีพื้นที่ติดกัมพูชา ด้าน อ.บ้านกรวด กับ อ.ละหานทราย ฝั่งตรงข้ามกับ อ.บันเตียอำปึล และเขต อ.ทะ-มอ-พวก ของกัมพูชา มีสภาพพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นภูเขาและป่าทึบ สลับป่าโปร่ง รวมระยะทาง 42 กิโลเมตร ซึ่ง อ.บ้านกรวด มีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชาด้าน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จังหวัดในอดีตเคยรบปม “เขาพระวิหาร” พร้อมเช่นเดียวกับชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในอดีตเคยผ่านสมรภูมิสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อปี 2554 จากปัญหาปราสาทพระวิหาร ชาวบ้านระดมกำลังช่วยกันซ่อมแซมบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยให้พร้อมใช้งาน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ พร้อมประกาศเสียงตามสาย ขอสนับสนุนเครื่องมือ […]

“กมธ.ทหาร สว.” กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

รัฐสภา 6 มิ.ย. – “กมธ.ทหาร สว.” เตรียมลงพื้นที่แจกพระเป็นขวัญกำลังใจให้ทหาร ชี้ รัฐบาลไทย ตามหลัง “กัมพูชา” ก่อนอ่านแถลงการณ์ประณาม “เขมร” ไม่จริงใจ เอารัดเอาเปรียบ กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำคณะ กมธ. ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเหตุกระทบกระทั่งหรือความตึงเครียดจากการปะทะกันระหว่างกำลังทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวพบว่าเหมือนการดำเนินการของเราจะตามหลังฝ่ายกัมพูชา พลเอกสวัสดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์ ว่า จากกรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการทหารรู้สึกไม่สบายใจและรับรู้ถึงความไม่พอใจของประชาชนทั่วไป จึงขอประกาศจุดยืนของคณะกรรมาธิการต่อสถานการณ์แนวชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชน คนไทยผู้รักชาติและฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เปรียบประเทศไทย ขอประณามการกระทำอันไร้ความจริงใจและความพยายามเอารัดเอาเปรียบของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจากการติดตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้วยความห่วงใยและต่อเนื่อง จึงมีความคิดเห็นดังนี้ รัฐบาลต้องดำเนินการทุกหนทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักและควรแสดงความไม่พอใจใน เหตุการณ์ต่างๆที่ฝ่ายกัมพูชากระทำแทนพี่น้องประชาชนคนไทยให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อหาทาง โดยคณะกรรมการสนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและใช้กลไกทวิภาคี และให้ความสำคัญต่อการปกป้องผลประโยชน์ของชาติใน ทุกมิติอีกครั้งติดตามและตรวจสอบความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมขอยกย่องและให้กำลังใจทหารทุกนายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ในความเสียสละ อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ ยึดมั่นในหลักสันติวิธี เพื่อปกป้องอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และขอแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชา […]

อธิบดีกรมการปกครอง เผยคนพื้นที่กำลังใจเต็มร้อย ซ้อมอพยพตามแผนปกติ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- อธิบดีกรมการปกครอง เผยเตรียมการอพยพ 7 จังหวัดชายแดนแค่ซักซ้อม ประชาชนในพื้นที่กำลังใจเต็มร้อย พร้อมย้ำว่าอย่าตระหนก นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้มีการซักซ้อมอพยพ ถือเป็นเรื่องปกติที่จะใช้แผนในการซักซ้อมหนีภัย เมื่อมีสถานการณ์ความไม่สงบ สำหรับหน้าที่ของ 7 จังหวัด หลังจากการประกาศซักซ้อม ทุกท่านก็ทราบอยู่แล้ว แม้ไม่มีสถานการณ์ แต่ก็มีการซักซ้อมอยู่เป็นปกติ หากเกิดสถานการณ์สามารถอพยพได้ทันที เพราะทุกจุดทราบอยู่แล้วว่าใครรับผิดชอบตรงไหนอย่างไร เมื่อถามต่อว่า จำนวนหลุมหลบภัยเพียงพอหรือไม่ นายไชยวัฒน์ ระบุว่า โดยหลักถือว่าเพียงพอ แต่จุดไหนที่ไม่พอก็จะมีแผนว่าจะต้องอพยพไปที่จุดไหน อย่างบางหมู่บ้านที่มีหลุมหลบภัยไม่พอ ก็จะอพยพไปในพื้นที่ที่รองรับได้ ส่วนการลงพื้นที่ตรวจราชการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ด้วยตนเองหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ต้องเรียนถามท่าน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่างประเทศ เมื่อถามว่า พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นจุดที่มีความเสี่ยงมากที่สุดหรือไม่ นายไชยวัฒน์ ระบุว่า แต่ละจุดมีความเสี่ยงเหมือนกัน เราจึงได้ประกาศ แผนซักซ้อมการอพยพใน 7 จังหวัด […]

โรงเรียนชายแดนซ้อม-พร้อมอพยพหากเกิดเหตุสู้รบ

5 มิ.ย. – โรงเรียนชายแดน จ.บุรีรัมย์ ซ้อมอพยพ-ปรับปรุงหลุมหลบภัย เตรียมรับมือสถานการณ์ หวั่นเหตุรุนแรง ส่วนชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กังวลความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ที่ จ.บุรีรัมย์ หลังจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา เรื่องเขตพื้นที่ทับซ้อนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย-กัมพูชา-ลาว อยู่ในเขต “สามเหลี่ยมมรกต” พื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร ตามกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้ประชาชนในเขต อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีแนวเขตติดกับประเทศกัมพูชา มีจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู อยู่ในพื้นที่ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ต่างวิตกกังวล เนื่องจากเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งปี 2554 ที่มีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งครั้งนั้นสร้างความความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่พอสมควร เกรงว่าหากเกิดการปะทะขึ้นครั้งนี้อาจจะรุนแรงกว่าเดิม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีแนวเขตชายแดน ฝั่ง อ.บ้านกรวด ชาวบ้านยังใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงโรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอน แต่มีการปรับปรุงหลุมหลบภัยในโรงเรียน และให้นักเรียนมาซ้อมอพยพแล้ว ตามหนังสือสั่งการของกระทรวงศึกษาฯ ขณะที่ผู้ปกครองยอมรับวิตกกังวล เพราะครั้งที่เคยปะทะกันมีลูกระเบิดมาตกอยู่ในหมู่บ้านถึง 21 ลูก […]

Location of the incident between Cambodian and Thai troops according to Khmer Times

กัมพูชายืนยันเป็นเจ้าภาพประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้

พนมเปญ 4 มิ.ย.- กัมพูชายืนยันการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ขณะที่สหภาพยุโรปและอินโดนีเซียเรียกร้องให้อาเซียนพัฒนากลไกแก้ไขข้อขัดแย้งในภูมิภาค เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทม์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ยืนยันว่า กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ โฆษกกล่าวด้วยว่า ในการเจรจาทวิภาคีที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะยึดมั่นตามเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบางบก พ.ศ. 2543 หรือเอ็มโอยู 43 (MoU 43) และตกลงจะใช้ประโยชน์จากกลไกที่มีอยู่ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมของเจบีซี เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน โดยเน้นพื้นที่ที่เกิดการปะทะกันขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แขมร์ไทม์รายงานด้วยว่า นักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรปหรืออียูและอินโดนีเซียที่อยู่ในกัมพูชาต่างเรียกร้องให้อาเซียนพัฒนากลไกในการแก้ปัญหาขัดในภูมิภาคให้มีการบูรณาการที่ลึกซึ้งมากขึ้ นและใช้ความร่วมมือทางการทูตเพื่อป้องกันปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศสมาชิกในอนาคต.-816(814).-สำนักข่าวไทย

นายกฯ สั่งแก้ปัญหาชายแดน มั่นใจเจรจา JBC สถานการณ์จะคลี่คลาย

ทำเนียบ 4 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ สั่งการแก้ปัญหาชายแดน ทุกกระทรวงช่วยกันแก้ไขให้คลี่คลายโดยเร็ว มอบ กต. เป็นศูนย์กลางแจงข้อมูลข่าวสาร มั่นใจเจรจาเจบีซี 14 มิ.ย.นี้ สถานการณ์จะคลี่คลาย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า วันนี้ในเรื่องของปัญหาชายแดน ขอให้คณะรัฐมนตรีร่วมกันแก้ไข ทั้งนี้การแก้ปัญหาจะไม่มีการเมือง ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล เพราะประเทศไทยต้องมาก่อน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเป็นเอกภาพ และขอยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งมั่นในการรักษาอธิปไตยของประเทศไทยให้ถึงที่สุด และจะใช้มาตรการต่าง ๆ ในการคลี่คลายสถานการณ์ตามกรอบกฎหมาย และข้อตกลงกับประเทศกัมพูชา ตาม MOU 43 อย่างสันติ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย และความเสียหายโดยไม่จำเป็น รวมทั้งเร่งรัดให้มีการเจรจาผ่านคณะกรรมการชายแดนฯ หรือ JBC โดยในครั้งนี้ทางกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 14 […]

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

“ภูมิธรรม” แจงปมไทยเสียเปรียบ ปล่อยกัมพูชาล่วงล้ำ 200 เมตร

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” บอก เลอะเทอะ หลังมีข่าว “เตีย เซ็ยฮา” ล็อบบี้ไม่ให้ปิดด่าน ยกมติครม. ย้ำ ไทยไม่รับอำนาจศาลโลกกรณีขัดแย้งไทย-กัมพูชา แจง ปมไทยเสียเปรียบเหตุปล่อยกัมพูชาล่วงล้ำ 200 เมตร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออกแถลงการณ์การแก้ไขปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยยึด 3 กลไก จะสามารถตัดเรื่องการนำไปสู่ศาลโลกได้หรือไม่ ว่า แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองทัพบก (ทบ.) กระทรวงต่างประเทศ สิ่งที่แถลงคือจุดยืนของรัฐบาล โดยอยากให้ประชาชนไปดูและศึกษา ซึ่งในแถลงมีเรื่องของการจุดยืนอธิปไตยของประเทศ ยึดมั่นในบูรณภาพเหนือดินแดนไทย รวมถึงสิทธิทางกฎหมายของไทย และแก้ไขปัญหาโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลดำเนินการไปตามขั้นตอน และข้อเท็จจริงที่รับรู้ เราไม่ได้ทำตามอารมณ์ หรือความต้องการของใคร แต่ดำเนินการภายใต้การปกป้องของอธิปไตย นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในบางเรื่องเราไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเขาพยายามขยายวงไปถึงศาลโลก เราพยายามจะจำกัดวงไม่ให้ไปถึงจุดนั้น เราจะพูดเฉพาะจุดปะทะ และยึดเอ็มโอยู 43 เนื่องจากง่ายในการหาข้อสรุปร่วมกันได้ ขณะนี้สิ่งที่เกิดปัญหาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาวเรากลับมาดูตรงนี้ […]

Hun Sen presides over the inaugural joint Congress of the National Assembly and Senate

ฮุน เซน พูดเรื่องชายแดนต่อที่ประชุมร่วม 2 สภา

พนมเปญ 2 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาใช้โอกาสที่เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมครั้งแรกระหว่างสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภาในวันนี้ แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุทหารกัมพูชาเสียชีวิตในเหตุยิงปะทะกับทหารไทยบริเวณชายแดนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์รายงานว่า นายฮุน เซนประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้เร่งใช้ทุกวิถีทางปกป้องสิทธิและอธิปไตยของกัมพูชา เขากล่าวว่า หากแม้ไทยไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องสามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนควายให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกตัดสิน กัมพูชาก็จะยังคงยื่นคำร้อง ควบคู่ไปกับการตอบโต้ในบางรูปแบบ ประธานวุฒิสภาหรือพฤฒสภาของกัมพูชายังได้เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานและฝ่ายบริหารออกถ้อยแถลงแสดงความสนับสนุนแผนการของรัฐบาลที่จะนำประเด็นชายแดนเข้าสู่การตัดสินของศาลโลกในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เขาย้ำว่า พื้นที่พิพาทเป็นดินแดนของกัมพูชา และตั้งคำถามว่า เหตุใดไทยจึงเรียกร้องให้ถอนกำลังพลกัมพูชาออกจากดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้.-814.-สำนักข่าวไทย

Hun Manet

ผู้นำกัมพูชาส่งสารกรณีช่องบก

โตเกียว 29 พ.ค.- นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ข้อความถึงประชาชน กรณีการปะทะกันบริเวณพรมแดน โดยเรียกร้องให้อยู่ในความสงบ ไม่แตกตื่นและรับฟังข่าวสารที่ถูกต้อง นายฮุน มาเนต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า แม้จะมีภารกิจในต่างประเทศ แต่ความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของชาติและการบังคับบัญชากองทัพ รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งกำลังทหาร ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา โดยได้รับรายงานอย่างต่อเนื่องถึงการติดต่อกับฝ่ายไทยเพื่อควบคุมไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่มีเจตนารุกราน แต่ก็สงวนสิทธิในการป้องกันการรุกราน นอกจากนั้นเขายังได้ร้องขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ไม่ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องที่แพร่กระจายอยู่ และเรียกร้องไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ โพสต์บนโซเชียลมีเดียแบบเต็มของนายฮุน มาเนต ระบุดังนี้ :  “ข่าวการยิงปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและไทยบริเวณชายแดนบริเวณสามเหลี่ยมมรกตเมื่อวานนี้ รวมถึงการระดมกำลังทหารและอาวุธหนักไปยังชายแดนในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในประเทศ ได้ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ชายแดนว่า สงครามจะปะทุหรือไม่ ใครจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ หรือสั่งเคลื่อนกำลังพลเมื่อนายกรัฐมนตรีอยู่ต่างประเทศ ผมขอรับรองให้ชาวกัมพูชามั่นใจว่า แม้ผมจะอยู่ที่ญี่ปุ่นและมีกำหนดการประชุมเต็มรูปแบบ แต่การบังคับบัญชาและลำดับชั้นของการปฏิบัติการทางทหารที่สำคัญ เช่น การเคลื่อนกำลังพล ยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผมอย่างเต็มที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมได้รับรายงานความคืบหน้าทั้งหมดที่ชายแดนอย่างต่อเนื่องจากรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการกองทัพบก รวมถึงผลของการสื่อสารกันระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการยกระดับความตึงเครียดและฟื้นคืนความสงบและความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างกองกำลังแนวหน้าของเรา ยิ่งไปกว่านั้น การตัดสินใจสำคัญใด ๆ รวมทั้งการระดมกำลังทหารและอาวุธไปยังชายแดน ต้องได้รับการอนุมัติหรือคำสั่งโดยตรงจากผม ผมไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างกองกำลังทหารจากทั้งสองฝ่าย ที่จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศหรือประชาชนของเรา […]

Chong Bok map with black border

สมาคมสื่อไทย-กัมพูชาขอโซเชียลเช็คข่าวชายแดน

พนมเปญ 29 พ.ค. – สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา (The Club of Cambodia Journalists – CCJ) และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association -TJA) เรียกร้องสื่อโซเชียลตรวจสอบแหล่งข่าวก่อนเผยแพร่เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา CCJ และ TJA ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมว่า จากการร่วมกันติดตามสถานการณ์พบว่า ในช่วงที่ผ่านมาการเผยแพร่ข่าวของสื่อบางประเภท โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ต่างนำเสนอข้อมูล รวมไปถึงเผยแพร่เนื้อหาที่เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่มีแหล่งข่าวอ้างอิงที่ถูกต้องชัดเจน การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความสับสน และข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้รับการเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางในทั้งสองประเทศ สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความวิตกกังวลว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารซึ่งไม่มีที่มาที่ไป อาจจะยิ่งเป็นการโหมกระพือข้อมูลผิด ๆ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกันมากขึ้น สมาคมผู้สื่อข่าวกัมพูชา และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จึงได้ประชุมกันเป็นการเร่งด่วนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เพื่อหารือถึงการรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศ พึงใช้ความระมัดระวัง และงดเว้นการนำเสนอ ตีพิมพ์ หรือแพร่ภาพกระจายเสียงข้อมูลใด ๆ […]

1 2 3 4 5 6 21
...