“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ก.คลัง มอบสรรพากรออก 3 มาตรการภาษี ช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-กระทรวงการคลัง มอบสรรพากร ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ขยายเวลายื่นภาษีทุกประเภท ลดหย่อนค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 1 แสนบาท – รถไม่เกิน 3 หมื่นบาท ยกเว้นภาษีเงินช่วยเหลือ-บริจาค นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ออก 3 มาตรการภาษี ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้ง 7 จังหวัด (ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) ให้กับประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ต้องชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ โดยมี 3 มาตรการสำคัญ มีดังนี้1.ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีทุกประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล […]

รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยประชาชนกลับภูมิลำเนา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาล กำชับความพร้อมและความปลอดภัยวางกรอบข้อปฏิบัติ รองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังสถานกาณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ภารกิจสำคัญของรัฐบาลในขณะนี้คือการดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย 100% และมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จำเป็นต้องย้ายไปเข้าพักพิงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดและความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับการเดินทางกลับที่พักอาศัยนั้น ในบางพื้นที่อาจเผชิญระดับสถานการณ์ที่ไม่เท่ากัน ดังนั้น หากประชาชนมีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำในการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้ 1.ให้ตรวจสอบความพร้อมของบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยอย่างละเอียด อาทิ ด้านโครงสร้างบ้าน ผนัง หลังคา และระบบไฟฟ้า 2.ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค 3.สังเกตสภาวะทางจิตใจของตนเองและคนในครอบครัว หากรู้สึกว่ามีอาการเครียด วิตกกังวล หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า ควรเข้ารีบเข้าปรึกษาแพทย์/เจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยทันที และ 4.หมั่นดูแลสุขอนามัยที่ดี ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และดื่มน้ำที่สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งหมั่นดูแลความสะอาดด้านสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเข้าร่วมกิจกรรมยามว่างเพื่อสร้างความผ่อนคลายและลดความเครียด โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทีมดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเต็มที่ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต อนามัยสิ่งแวดล้อม “ทั้งนี้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น เก็บของใช้ส่วนตัวให้เป็นระเบียบ […]

รัฐบาล เดินหน้าเยียวยาเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาล เดินหน้ามาตรการเยียวยาจากเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา ย้ำต้องไม่มีใครตกหล่น ด้าน 7 รมต. ลงพื้นที่คุยท้องถิ่น – ประชาชนโดยตรง เก็บรายละเอียดทุกมิติ ก่อนสรุปแนวทางเยียวยาลอต 2 เสนอ ครม. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ในกรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นประชาชนทั่วไปรายละ 8 ล้านบาท และข้าราชการทหาร-ตำรวจ รายละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บเล็กน้อย ทุพพลภาพ ก็จะได้รับการเยียวยาเช่นกัน โดยไม่มีการตกหล่นจากมาตรการเยียวยาดังกล่าวอย่างแน่นอน “นอกจากมาตรการตามมติ ครม. ดังกล่าวแล้ว หน่วยงานราชการต้นสังกัดอย่าง กระทรวงกลาโหม จะดูแลครอบครัวญาติพี่น้องของข้าราชการทหารที่เสียชีวิต ให้ได้รับสวัสดิการต่างๆ สิทธิการรับราชการเป็นกรณีพิเศษ เพื่อตอบแทนคุณความดีที่ได้เสียสละชีวิตรักษาอธิปไตยของประเทศ” นายจิรายุ กล่าว สำหรับการเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายนั้น […]

“จิราพร” มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย-ชรบ. อ.พนมดงรัก

ทำเนียบ 10 ส.ค.-“จิราพร” มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย-ชรบ. อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมย้ำรัฐบาลเตรียมมาตรการเยียวยาเต็มที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะและมอบถุงยังชีพแก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และประชาชนผู้ประสบภัยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ศาลาประจำหมู่บ้านละเอาะ หมู่ 4 ตำบลจีกแดก อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เย็นวานนี้ โดยมี นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และคณะผู้บริหารจังหวัดสุรินทร์ร่วมด้วย นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วน แม้ช่วงหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงทำหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน อีกทั้งเร่งดำเนินมาตรการในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกด้าน อย่างเช่นในวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงตัวดิฉัน ได้มาส่งพี่น้องประชาชนจากศูนย์พักพิงชั่วคราวกลับไปยังที่พักอาศัย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ความตึงเครียดต่างๆ ที่ เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการเยียวยาต่างๆ เช่นการพักชำระค่าไฟเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ในพื้นที่ประสบเหตุ การเพิ่มเงินให้แก่ ชรบ. การดูแลสภาพกายและใจแก่ผู้ประสบภัย […]

ชายแดนไทย-กัมพูชาสถานการณ์ปกติ

ทำเนียบ 10 ส.ค.-สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพภาคที่ 1-2 และกองทัพเรือ รายงานเหตุการณ์ชายแดนตลอดคืนถึงเช้านี้ 7 จังหวัดสถานการณ์ปกติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568) จนถึงช่วงเช้า (วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. สถานการณ์ตามแนวชายแดน 7 จังหวัดไม่มีเหตุการณ์ปะทะใด ๆ ขณะที่วานนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานจาก ศบ.ทก. ว่าได้มีทหารออกลาดตระเวน บริเวณพื้นที่รอยต่อ โดนเอาน์ – กฤษณา เหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 ดูแลทหารกล้าที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ศบ.ทก. ยืนยันว่าพื้นที่ที่ทหารลาดตระเวนนั้น อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย […]

ปลัดกลาโหม เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล และมอบ “เหรียญบางระจัน”

อุบลราชธานี 9 ส.ค.-ปลัดกลาโหม ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา และมอบ “เหรียญบางระจัน” เพื่อเชิดชูเกียรติทหารกล้าผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินเกิดด้วยชีวิต และเป็นขวัญกำลังใจกับกำลังพลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของกำลังพลที่เสียชีวิต ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา และมอบ “เหรียญบางระจัน” พร้อมประกาศนียบัตร ตามดำริของ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและให้กับญาติของกำลังพลที่ผู้เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ดังนี้ 1.ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 คน ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 คน ณ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์-มอบ “เหรียญบางระจัน” ให้กับญาติกำลังพลที่เสียชีวิต จำนวน 7 คน และกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมโรงพยาบาลพนมดงรัก รับฟังอาคารเสียหายหนัก

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เยี่ยมโรงพยาบาลพนมดงรัก รับฟังอาคารเสียหายหนัก – บุคลากรการแพทย์ได้รับผลทางจิตใจ กินยา 51 คน จากเหตุปะทะกัมพูชา ก่อนกำชับ รมว.กต. เก็บหลักฐานทั้งหมดแจงนานาชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรักจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ หลัง ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดน ไทยกัมพูชา โดยนายภูมิธรรม ได้เยี่ยมชมจุดหลุมหลบภัย ที่เอกชนนำมามอบให้ และเยี่ยมชมอาคาร กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด ของโรงพยาบาลพนมดงรักที่ได้รับความเสียหายจากการยิงระเบิดของกัมพูชา พร้อมรับทราบรายงานความเสียหายจาก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพนมดงรัก นายภูมิธรรม ยังหันไปกล่าวกับนายมาริต ว่า ขอให้เก็บหลักฐานข้อมูลให้หมด นี่เป็นการยิงแบบนี้ไม่ใช่การล็อกเป้าหมายทางทหาร เพราะถ้าล็อคเป้าหมายทางทหารจะไม่ได้มาเป็นแบบนี้ อันนี้ยิงมั่วซั่ว ยิงโรงพยาบาลแบบนี้เขาไม่ทำกัน จากนั้นเดินมาดูจุดที่ลูก ระเบิดตกหลังหอพักแพทย์พยาบาล ที่ทำให้เกิดความเสียหาย […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

1 2 3 4 5 31
...