กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]

“ภูมิธรรม” ชี้อินฟลูขนรถดูดส้วมประชิดชายแดน เป็นท่าที ปชช. ขออย่าทำอย่างนั้น

ทำเนียบ 28 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ชี้อินฟลูฯ ขนรถดูดส้วมประชิดชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ต้องมองแยก เป็นท่าทีประชาชน ขออย่าทำอย่างนั้น หวั่นผูกพันปัญหาชายแดน บอกพูดไปเดี๋ยวทัวร์ลงว่าเป็นคนไทยใจเขมร เชื่อนานาชาติเข้าใจ คุยกลาโหมแล้ว ไม่มีอะไรน่าหนักใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังนำรถดูดส้วมไปที่บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว กว่า 10 คัน หวั่นจะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศไทยหรือไม่ เพราะขณะนี้รัฐบาลเน้นใช้กระบวนการเจรจา ว่า ต้องมองอย่างแยกแยะ ถ้าพูดถึงท่าทีของรัฐบาลทั้งหมด ก็เป็นท่าทีที่เป็นบวกทั้งหมดอยู่แล้ว แต่นี่เป็นสภาพความรู้สึกความคิดเห็นของรายบุคคล ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าในฐานะประชาชนก็ต้องช่วยกัน อย่าทำอย่างนั้นเลย ตนเองพูดไปเดี๋ยวทัวร์ลงอีก ว่าเป็นคนไทยใจเขมร แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวัง เพื่อให้นานาชาติเข้าใจ เพราะการต่อสู้นี้ถ้าทำไม่ดีจะไปผูกพันกับเรื่องของดินแดน และอีกหลายอย่าง ยิ่งลากเราเข้าไปอยู่ศาลโลกจะยิ่งมีปัญหา เราไม่อยากเข้า เพราะเราไม่ได้รับรองตรงนั้น ซึ่งเท่าที่ตนเองได้คุยกับกระทรวงกลาโหม ก็ไม่ได้มีอะไรน่าหนักใจ ก็เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจกัน โลกมองอยู่ ขณะนี้ก็เข้าใจดีว่าไม่ใช่บทบาทความต้องการของรัฐบาล เป็นเรื่องของประชาชน เป็นส่วนหนึ่งในสังคมประเทศไทย.-316.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” โน้มน้าวกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เดินสายพบข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น เจนีวา รายงานข้อเท็จจริง “กัมพูชา” ละเมิดสิทธิมนุษยชน-สังหารพลเรือน-ใช้ข่าวปลอมสร้างโฆษณาชวนเชื่อ จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” ให้โน้มน้าวกัมพูชากลับมากู้ทุ่นระเบิด-หยุดละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือต่อ นางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เคยยื่นหนังสือได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาในอาณาเขตของประเทศไทยไปแล้ว เป็นไปตามพันธะกรณีภายในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหรืออนุสัญญาออตตาวา ขณะที่การเข้าพบรองข้าหลวงใหญ่ฯ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ เป็นการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของไทยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านช่องทางทางการทูตตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ โดยได้ยื่นหลักฐานทั้งเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่ามีการปฏิบัติการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งการโจมตีแบบไม่เลือกเป้า การโจมตีในเขตพื้นที่พลเรือน การใช้ทุนระเบิดสังหารบุคคล และการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ซึ่งขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ โอกาสนี้ รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเดินทางมาด้วยตัวเอง ทำให้สามารถพูดคุยสอบถามได้โดยตรง และเป็นการแสดงความจริงใจและจริงจังในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนตลอดแนวพรมแดนระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา นอกจากนั้นยังมีหนังสือตอบกลับเพื่อเน้นย้ำความสำคัญเกี่ยวกับการใช้การสื่อสารในทางโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) เพื่อสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ทำให้เกิดความแตกแยกปลุกปั่นให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ […]

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ผลประชุม RBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้อง 11 ข้อ

ทำเนียบ 7 ส.ค.-ผลประชุม RBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้อง 11 ข้อ ลดตึงเครียดชายแดนพื้นที่ทัพภาค2 พร้อมเดินหน้าสู่สันติภาพ ย้ำไทยยังคงรักษาอธิปไตยของประเทศ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ที่บริเวณ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ได้บรรลุ 11 ข้อตกลงสำคัญ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนและสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ ตามที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้แถลงภายหลังการประชุมฯ โดยมีสาระสำคัญดังนี้ ยืนยันปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและผลประชุม GBC ก่อนหน้า รักษาช่องทางสื่อสารทางทหารทุกระดับ แก้ปัญหาด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการปะทะ งดเผยแพร่ข่าวปลอมและการยั่วยุ ลดแรงกดดันทางสังคมและการเมือง ยอมรับมาตรการสร้างความปลอดภัยภายใต้กรอบหยุดยิง ไม่เป็นการรุกราน ผลักดันการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเชิงมนุษยธรรม เสนอต่อที่ประชุม GBC ตั้ง “ชุดประสานงาน” (CG) เพื่อเสริมกลไกเจรจาและแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ ร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ […]

“ภูมิธรรม” เชื่อต่างชาติเข้าใจจุดยืนไทยปมชายแดนหนองจาน

มหาดไทย 27 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันไทยทำตามกฎหมาย แม้กัมพูชาใช้มวลชนปะทะ หากละเมิดต้องดำเนินคดี เชื่อต่างชาติเข้าใจจุดยืนไทย แจงผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษแล้ว อยู่ในช่วงทำความเข้าใจ พร้อมเชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาไทย หวังผูกมิตรเพิ่ม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ เพราะตอนนี้เหมือนจะมีม็อบชนม็อบ รวมถึงนำรถดูดส้วมมาใช้ ว่า สถานการณ์ไม่ถึงขนาดนั้น ตนได้รับรายงานเมื่อเช้าว่ายังสงบดีไม่มีปัญหา เราเตรียมตามกฎหมายบ้านเมือง พยายามหาทางยุติไม่ให้เกิดขึ้น ที่สำคัญยังยืนยันหลักการแก้ปัญหาไม่ทำให้เกิดการยั่วยุโดยเฉพาะทางฝั่งเรา อีกทั้งได้พูดคุยกับการต่างประเทศที่มาเจอ เขาก็เข้าใจในเจตนาของไทยว่าเรามีจุดยืนแบบนี้ตั้งแต่ต้น นี่เป็นมาตรการที่ตำรวจต้องไปดูแล ถ้าเป็นเรื่องที่ละเมิดหรือผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ทหารเพียงเฝ้าระวังเรื่องชายแดน การที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้จ่ายเงินชดเชยชาวกัมพูชา เพื่อแลกให้เขาออกจากพื้นที่ มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม เผยว่า ยังตอบอะไรไม่ได้ต้องดูข้อเท็จจริงทั้งหมด จะทำอะไรก็ตามบ้านเมืองมีกฎเกณฑ์มีกติกา ต้องคำนึงถึงและยึดหลักกฏหมาย ตอนนี้ก็มีคนเสนอแรงบ้างเบาบ้างก็รับฟังและเอามาพิจารณา สำหรับกรณีที่ชาวบ้านหนองจาน ออกมาไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ว่าฯ สระแก้ว พูดว่าไม่มีโฉนดที่ดินนั้น เรื่องนี้เคลียร์ไปแล้ว ท่านก็ออกมาขอโทษเพราะเข้าใจผิด […]

ชายแดนไทย-กัมพูชา ปกติ ตรึงกำลังรับมือทุกพื้นที่

ทำเนียบ 27 ส.ค.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ปกติ แต่ยังคงจัดกำลังพร้อมรับสถานการณ์ในทุกพื้นที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) สรุปสถานการณ์ชายแดน 11 จุด ใน 7 จังหวัด มีความสงบเรียบร้อยปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้วที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทยที่เคยให้ที่พักพิงเป็นศูนย์อพยพกับชาวกัมพูชาเมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมาแต่กลับถูกอ้างสิทธิ์จะรุกล้ำในอธิปไตยของไทย นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณีชาวกัมพูชาบุกรื้อลวดหนามและได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทยที่ บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว นั้น พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 ดำเนินการแจ้งความเอาผิด พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ย้ำว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย และจะนำประเด็นนี้เข้าสู่การประชุม GBC ในเดือนกันยายน สำหรับวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) ที่จุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ […]

“มาริษ” คุย รมต.กต.สวีเดน แจงเหตุไทย-กัมพูชา จุดเริ่มต้นจากเขาพระวิหาร

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” คุย รมต.กต.สวีเดน แจงเหตุไทย-กัมพูชา จุดเริ่มต้นจากเหตุเขาพระวิหาร บาดแผลในใจ 2 ประเทศ จนเกิดกรณีคลิปเสียง ทำให้สถานการณ์เลวร้าย ยันกรณีไทยใช้รั้วลวดหนาม เป็นแนวเขตของที่ตั้งทางทหาร ไม่ใช่เส้นเขตแดน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการหารือทวิภาคีกับ นางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า ตนได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จุดเริ่มต้นหนึ่งที่ทำให้เกิดความตึงเครียด คือ ตั้งแต่ข้อพิพาทเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ที่ถูกนำเรื่องไปตัดสินที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ทำให้เกิดบาดแผลในใจของสังคม ตนได้อธิบายให้รัฐบาลสวีเดนเข้าใจว่า ความสำคัญของกระบวนการเจรจาแบบทวิภาคีระหว่างกัน ซึ่งกัมพูชาปฏิเสธมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีได้บันทึกเสียงการสนทนาแล้วนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนก็มีความเข้าใจ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีประเทศใดประเทศหนึ่งกระทำ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในกระบวนการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากนั้นความกดดันมากขึ้น เพราะทหารไทยถูกโจมตีด้วยทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ไทยต้องการแก้ปัญหาโดยสันติและจริงใจ แต่กัมพูชากลับเลือกตอบโต้ด้วยการใช้กำลัง “เราใช้มาตรการการทูตและการทหารอย่างสันติวิธีมาโดยตลอด เราเลือกปกป้องอำนาจอธิปไตยด้วยการปิดพรมแดน เราเป็นประเทศที่รักสันติเช่นเดียวกับสวีเดน มาตรการต่างๆ เป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ” นายมาริษ กล่าวว่า ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัน โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดมั่นในข้อตกลงที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีประเทศมาเลเซีย […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

เพื่อไทย มีมติขอให้สภาฯ ประชุมลับพิจารณาญัตติยกเลิก MOU 43-44

พรรคเพื่อไทย 26 ส.ค.-เพื่อไทย มีมติขอให้สภาฯประชุมลับพิจารณาญัตติ ยกเลิกMOU 43-44 ชี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกระทบต่อความมั่นคง – ประชาชนชายแดน พร้อมเห็นควรไม่ต้อง กมธ.วิสามัญ ส่งให้ ครม. พิจารณาเลย เหตุ ซ้ำซ้อน กมธ.มั่นคง ที่พิจารณาแล้วอยู่ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านเตรียมที่จะเสนอญัตติพิจารณาศึกษายกเลิกMOU 2543 และ MOU 2544 แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งปิดประชุมไปก่อน และหากพรรคฝ่ายค้านจะมีการเสนอญัตติเรื่องดังกล่าวเข้ามาใหม่ พรรคเพื่อไทยก็ได้เตรียมบุคคลที่จะร่วมอภิปราย แต่มติของพรรคเพื่อไทย หากสภาพิจารณาญัตติเรื่องดังกล่าวจะขอให้เป็นการประชุมลับ เพราะมองว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบต่อความมั่นคง และประชาชนตามแนวชายแดน นายดนุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่า เมื่อ สส.มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางและใช้เวลาพอสมควรแล้วก็ควรจะส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป และไม่ควรมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งนี้หาก เสียงส่วนใหญ่ในสภาเห็นควร ให้ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพรรคเพื่อไทยจะร่วมเป็นกรรมาธิการด้วยหรือไม่ นายดนุพร กล่าวว่าก็ต้องร่วมเป็นกรรมาธิการแน่นอน แต่ก่อนจะถึงวันนั้นก็ต้องรักษาองค์ประชุมเอาไว้ให้ถึงช่วงเย็น หากฝ่ายค้านมีความเห็นต่างอยากจะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญก็ต้องใช้สิทธิ์ลงคะแนนกัน ส่วนสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าไม่ควรตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เนื่องจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ได้พิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้วในชั้นกรรมาธิการสามัญ และทราบว่ามีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ด้วย จึงไม่จำเป็นต้องไปตั้งให้ซ้ำซ้อน และต่อให้จะส่งเรื่องMOU43และ44 ไปให้คณะรัฐมนตรี […]

1 2 3 4 37
...