คาดอดีตนายกฯ มาเลเซียจะพ้นคุกหากรัฐบาลชนะเลือกตั้ง

กัวลาลัมเปอร์ 11 ต.ค.- นพ.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียทำนายว่า นายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังรับโทษจำคุกในคดีทุจริต จะได้รับการปล่อยตัวหากพรรครัฐบาลชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นก่อนกำหนด นพ.มหาเธร์ วัย 97 ปี กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ หนึ่งวันหลังจากนายกรัฐมนตริสมาอิล ซาบรี ยาคอบประกาศยุบสภาจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดว่า หากพรรคชนะเลือกตั้ง พรรคอัมโนอาจจะเร่งปล่อยตัวนายนาจิบออกจากเรือนจำด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษ และยกเลิกข้อหาทุจริตรับสินบนอื่น ๆ อีกสิบกว่าข้อหา นอกจากนี้ยังอาจจะยกเลิกข้อหารับสินบน 47 ข้อหาของนายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี ประธานพรรคอัมโนด้วย นพ.มหาเธร์ใช้การแถลงข่าวนี้ประกาศว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อปกป้องที่นั่งในสภา และพร้อมร่วมมือกับทุกคนเพื่อล้มพรรคอัมโน ด้านนายลิม กิต เสียง หัวหน้าพรรคกิจประชาธิปไตย ซึ่งเป็นฝ่ายค้านแถลงตำหนิพรรคอัมโนที่ผลักดันให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดทั้งที่เศรษฐกิจประเทศกำลังชะลอตัวว่า เป้าหมายหนึ่งของพรรคอัมโนคือ ช่วยให้นายนาจิบและผู้มีส่วนร่วมในคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) พ้นจากการรับโทษทางอาญา นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรีถูกกลุ่มต่าง ๆ ในพรรคอัมโนที่ยังคงภักดีต่อนายนาจิบกดดันให้จัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดภายในวันที่ 9 ธันวาคม 2565 จากเดิมที่ต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 15 ภายในเดือนกันยายน 2566 พรรคคาดหวังว่า จะกวาดชัยชนะมากพอที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว โดยไม่ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนรัฐบาลนายอิสมาอิล […]

เมียนมาจำคุกหลายปีนักสร้างสารคดีชาวญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.- ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีชาวญี่ปุ่นที่ถูกควบคุมตัวในนครย่างกุ้งของเมียนมาเมื่อเดือนกรกฎาคมถูกตัดสินลงโทษจำคุกหลายปีเมื่อวันพุธโทษฐานปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครองและฝ่าฝืนกฎหมายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า นายโทรุ คุโบตะ ผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปีในข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง และจำคุก 7 ปีในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเขาจะถูกจำคุกรวม 10 ปีหรือไม่ เขาถูกตัดสินโดยศาลที่ตั้งขึ้นในเรือนจำอินเส่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ ส่วนการพิจารณาคดีข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายเข้าเมืองยังคงดำเนินอยู่ นายคุโบตะถูกทางการเมียนมาควบคุมเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมขณะกำลังบันทึกภาพการประท้วงต่อต้านกองทัพ กองทัพเมียนมาระบุว่า เขาใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเดินทางจากไทยเข้าเมียนมา และเข้าร่วมการประท้วงรวมทั้งสื่อสารกับผู้ประท้วงระหว่างที่บันทึกภาพเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังเคยรายงานเรื่องราวของชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ.-สำนักข่าวไทย

เมียนมาสั่งจำคุก “ซูจี” 3 ปี ข้อหาละเมิด กม.ความลับราชการ

ศาลของรัฐบาลทหารเมียนมาตัดสินจำคุก นางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง และนายฌอน เทอร์เนลล์ อดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนางซู จี เป็นเวลา 3 ปี

สั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสน “หมอเหรียญทอง” ปมโพสต์หมิ่น “สิระ”

ศาลสั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท “พล.ต.นพ.เหรียญทอง” ปมโพสต์หมิ่น “สิระ” ชี้ทำให้ผู้อื่นเสียหาย แต่ประกอบคุณงามความดีต่อสังคม โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

จีนสั่งจำคุก 24 ปี หัวหน้าแก๊งอาชญากรทำร้ายหญิง

ปักกิ่ง 23 ก.ย. – ศาลจีนสั่งจำคุกหัวหน้าแก๊งอาชญากร 24 ปี หลังก่อเหตุพาเพื่อนรุมทำร้ายผู้หญิงอย่างโหดร้ายทารุณ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองถังชานของมณฑลเหอเป่ย์ จนทำให้ชาวจีนทั่วประเทศรู้สึกตกใจ และไม่พอใจจากเหตุใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง ศาลท้องถิ่นของมณฑลเหอเป่ย์ระบุในวันนี้ว่า นายเฉิน จี้จือ และผู้ต้องหาอีก 4 คน มีความผิดฐานทำร้ายผู้หญิง 4 คน ด้วยเก้าอี้ ขวดน้ำ การชกต่อย และการเตะ ที่ร้านอาหารปิ้งย่างแห่งหนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีหนึ่งในผู้หญิง 4 คน ปฏิเสธพฤติกรรมที่เป็นการคุกคามทางเพศของนายเฉิน นอกจากนี้ศาลยังตัดสินให้ผู้ต้องหาอีกรายมีความผิดฐานข่มขู่ผู้ที่ถูกทำร้ายไม่ให้โทรแจ้งตำรวจ ศาลของมณฑลเหอเป่ย์ยังตัดสินลงโทษนายเฉินจากการเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมต่อเนื่องในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาต่างๆ เช่น ก่อเหตุทะเลาะวิวาท สร้างความวุ่นวาย ปล้นทรัพย์ เปิดกาสิโน กักขังผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และจงใจทำร้ายผู้อื่นให้บาดเจ็บ รวมถึงสั่งปรับเงินนายเฉิน 320,000 หยวน (ราว 1.68 ล้านบาท) นอกจากนี้ศาลยังตัดสินลงโทษจำคุกผู้ต้องหาอีก 27 คน มีโทษตั้งแต่ 6 เดือนถึง 11 […]

กัมพูชาเริ่มไต่สวนฝ่ายค้าน 37 คนข้อหากบฏ

พนมเปญ 15 ก.ย.- กัมพูชาเปิดการไต่สวนข้อหากบฏกับนักเคลื่อนไหวและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคฝ่ายค้านรวม 37 คนที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามช่วยเหลือนักการเมืองลี้ภัย แต่มีจำเลยมาขึ้นศาลเพียง 3 คนเท่านั้น ทนายความจำเลยเผยว่า นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านและแกนนำหลายคนของพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พี (CNRP) ที่ถูกยุบไปแล้ว อยู่ในกลุ่มจำเลยที่ไม่มาขึ้นศาลแขวงพนมเปญ บางคนลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ บางคนหลบซ่อนตัวเพราะคิดว่าเป็นการรังควานทางการเมือง จำเลยทั้ง 37 คน ถูกตั้งข้อหาคบคิดกันก่อกบฏ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะมีโทษจำคุก 5-10 ปี คดีนี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความพยายามจัดการให้นางมู ซกโฮ อดีตรองประธานพรรคซีเอ็นอาร์พี กลับกัมพูชาในเดือนมกราคม 2564 แต่ไม่เป็นผล นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ศาลกัมพูชาแห่งนี้เปิดการไต่สวนคดีที่เกี่ยวกับความพยายามพาแกนนำฝ่ายค้านกลับประเทศ มีจำเลยรวมกันเกือบ 130 คน แต่ส่วนใหญ่ไม่เคยมาขึ้นศาล ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ศาลตัดสินให้จำเลย 21 คน ซึ่งมีนายสม รังสีรวมอยู่ด้วยมีความผิด และตัดสินจำคุก 5-10 ปีในข้อหากบฏและข้อหาคบคิดกันก่อกบฏและยุยงให้กระทำความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ ต่อมาในเดือนมิถุนายนศาลตัดสินให้นางเทียรี เซ็ง ทนายความชาวกัมพูชาสัญชาติอเมริกันและผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน 60 คนมีความผิดในข้อหากบฏและตัดสินจำคุก 5-8 ปี สองคดีแรกนี้เกี่ยวข้องกับความพยายามพานายสม […]

ศาลสั่งจำคุก 1 เดือน 16 นศ.ปทุมวัน ยกพวกตีกับอุเทนถวาย

ศาลแขวงปทุมวันพิพากษาจำคุก 1 เดือน 16 นักศึกษาปทุมวัน ยกพวกทะเลาะวิวาทกับนักศึกษาอุเทนถวาย หน้าอาคารกีฬานิมิบุตร พร้อมปรับคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้รายงานตัวทุก 4 เดือน เป็นเวลา 1 ปี

อดีตนายกฯ มาเลเซียขอพระราชทานอภัยโทษ

กัวลาลัมเปอร์ 5 ก.ย.- ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียเผยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซักได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ หลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเพื่อจำคุก 12 ปี ในข้อหาทุจริตไม่ได้ถึง 2 สัปดาห์ รัฐธรรมนูญมาเลเซียบัญญัติไว้ว่า สมาชิกรัฐสภาที่ต้องโทษจำคุกมากกว่า 1 ปี จะพ้นจากสมาชิกภาพทันที หากไม่ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษภายใน 14 วัน นายอัซฮาร์ อาซิซัน ฮารุน ประธานสภาผู้แทนราษฎรแถลงวันนี้ว่า นายนาจิบจะพ้นจากสมาชิกภาพ หากคำขอพระราชทานอภัยโทษที่ยื่นเมื่อวันศุกร์ถูกปฏิเสธ ด้านทนายความของนายจิบยืนยันว่า มีการยื่นขอจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม คาดว่า คณะกรรมการพระราชทานอภัยโทษที่มีสมเด็จพระราชาธิบดีทรงเป็นองค์ประธานจะพิจารณาคำขอนี้ และอาจพิจารณาคำแนะนำเพิ่มเติมจากนายกรัฐมนตรี นายนาจิบวัย 69 ปี ถูกศาลฎีกาพิพากษายืนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมว่า มีความผิดข้อหารับสินบนและข้อหาฟอกเงินในคดีอื้อฉาวที่เกี่ยวกับกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) ต้องโทษจำคุก 12 ปี และปรับเงินเกือบ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 1,838 ล้านบาท) เขาเป็นลูกหลานชนชั้นขุนนางทำให้เชื่อกันว่ามีความใกล้ชิดกับสุลต่านมาเลเซียบางคน หากได้รับพระราชทานอภัยโทษทั้งหมดก็จะสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางการเมือง หรืออาจถึงขั้นกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งตามที่ผู้สนับสนุนบางส่วนเรียกร้อง อย่างไรก็ดี เขายังมีคดีอื่นอีก 4 […]

สามีของ “แนนซี เปโลซี” รับสารภาพคดีเมาแล้วขับ

นายพอล เปโลซี สามีของนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 5 วัน และสั่งปรับอีก 6,800 ดอลลาร์ พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหาย หลังจากเขายอมรับสารภาพว่าทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการที่เขาเมาสุราในขณะขับรถในเขตนาปา เคาน์ตี้ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ศาลสูงสุดมาเลเซียพิพากษายืนคดี “นาจิบ ราซัค”

ศาลระดับสหพันธรัฐ (Federal Court) ถือเป็นศาลสูงสุดของมาเลเซียพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ตัดสินว่า นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียมีความผิดจริงและถูกลงโทษจำคุก 12 ปี ในความผิดในคดีอื้อฉาว

จีนสั่งจำคุกมหาเศรษฐีชื่อดัง 13 ปีฐานฉ้อโกง

ปักกิ่ง 19 ส.ค. – ศาลนครเซี่ยงไฮ้ของจีนตัดสินโทษจำคุกนายเซียว เจี้ยนหัว มหาเศรษฐีชาวจีน-แคนาดา เป็นเวลา 13 ปี และสั่งปรับเงินบริษัททูมอร์โรว์ โฮลดิงส์ ที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง เป็นเงินกว่า 55,030 ล้านหยวน (ราว 288,180 ล้านบาท) ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง รวมถึงใช้เงินทุนโดยผิดกฎหมายและให้สินบน ศาลนครเซี่ยงไฮ้อ่านคำพิพากษาในวันนี้ลงโทษจำคุกนายเซียว วัย 50 ปี เป็นเวลา 13 ปี และสั่งปรับเงินบริษัททูมอร์โรว์ โฮลดิงส์ เป็นเงิน 55,030 ล้านหยวน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของจีน ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง รวมถึงใช้เงินทุนผิดกฎหมายและการติดสินบน อย่างไรก็ดี ศาลได้พิจารณาลดโทษจำคุก เนื่องจากนายเซียว ซึ่งไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนตั้งแต่ปี 2561 และบริษัททูมอร์โรว์ โฮลดิงส์ ได้ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือในการคืนผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ศาลยังระบุว่า นายเซียวและบริษัททูมอร์โรว์ โฮลดิงส์ ได้กระทำการละเมิดกฎหมายบริหารการเงินอย่างร้ายแรง และทำลายความมั่นคงทางการเงินของจีน โดยจะต้องถูกปรับเงินเพิ่มอีก 6.5 ล้านหยวน (ราว […]

รัสเซียพร้อมหารือแลกตัวนักโทษกับสหรัฐ

มอสโก 5 ส.ค.- รัสเซียเผยวันนี้ว่า พร้อมหารือเรื่องการแลกตัวนักโทษกับสหรัฐผ่านช่องทางทางการทูตที่มีอยู่ในปัจจุบัน หนึ่งวันหลังจากนักบาสเกตบอลอาชีพหญิงชาวอเมริกันถูกรัสเซียตัดสินจำคุก 9 ปีข้อหายาเสพติด นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียพร้อมหารือในเรื่องนี้ แต่ต้องเป็นไปในกรอบช่องทางที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐตกลงกันไว้ หากสหรัฐคิดจะกลับไปใช้ช่องทางสาธารณะอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องของสหรัฐ หรือบอกได้ว่าเป็นปัญหาของสหรัฐเอง ก่อนหน้านี้รัสเซียเคยเตือนสหรัฐว่าอย่าใช้นโนบายการทูตแบบป่าวประกาศเพราะรังแต่จะทำให้ข้อตกลงแลกตัวนักโทษล้มเหลว บริตต์นีย์ ไกรเนอร์ วัย 31 ปี นักบาสเกตบอลเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย และดาวรุ่งของสมาคมบาสเกตบอลหญิงแห่งชาติของสหรัฐหรือดับเบิลยูเอ็นบีเอ ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานชเรเมเตียโวในกรุงมอสโกเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เนื่องจากมีตลับน้ำมันกัญชาในกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในรัสเซียไม่ว่าจะใช้ทางการแพทย์หรือนันทนาการ เธอใช้น้ำมันกัญชาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาปวดจากการอาการบาดเจ็บเรื้อรัง และรับสารภาพว่าใส่ไว้ในกระป๋าสัมภาระโดยไม่เจตนาเนื่องจากรีบไปขึ้นเครื่องบิน แต่ไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย มีข่าวว่าสหรัฐเสนอแลกตัวไกรเนอร์และนายพอล เวแลน วัย 52 ปี ผู้บริหารบริษัทรักษาความปลอดภัยในสหรัฐที่ถูกรัสเซียตัดสินจำคุก 16 ปีในปี 2563 ข้อหาจารกรรม โดยแลกตัวกับนายวิกเตอร์ บูท วัย 55 ปี พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย เจ้าของฉายา “พ่อค้าแห่งความตาย” ที่ถูกควบคุมตัวที่กรุงเทพฯ […]

1 6 7 8 9 10 28
...