ข่าวกรอง

วอชิงตัน 6 พ.ค. – กระทรวงกลาโหมของสหรัฐปฏิเสธว่าไม่ได้ให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนเกี่ยวกับตำแหน่งที่อยู่ของนายพลรัสเซียในสนามรบเพื่อให้กองทัพยูเครนสามารถสังหารนายพลเหล่านี้ตามรายงานข่าวก่อนหน้าของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐได้ส่งหน่วยข่าวกรองทหารไปช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันประเทศจริง แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งนายพลระดับสูงของรัสเซียในสนามรบ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจโจมตีศัตรูของกองทัพยูเครนตามที่นิวยอร์กไทมส์รายงาน ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐรายงานว่า สหรัฐได้ส่งข้อมูลข่าวกรองให้แก่ยูเครนเพื่อจมเรือรบของรัสเซียในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่เผยนามของสหรัฐกล่าวถึงรายงานนี้ว่า สหรัฐให้ข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครนเพื่อให้ระวังภัยคุกคามจากเรือรบของรัสเซียในทะเลดำและเตรียมป้องกันการโจมตีทางทะเลเท่านั้น แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลจำเพาะเพื่อให้ยูเครนจมเรือดังกล่าว และสหรัฐก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจของยูเครน ก่อนหน้านี้ ยูเครนประสบความสำเร็จจากการโจมตีนายพลระดับสูงของรัสเซียหลายนาย รวมถึงการโจมตีในพื้นที่ใกล้แนวรบด้านหน้าของรัสเซียในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อว่า นายพลวาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการใหญ่ของกองทัพรัสเซียและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กำลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองทหาร.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 5 พ.ค. – สื่อสหรัฐรายงานว่า สหรัฐได้ให้ข้อมูลด้านข่าวกรองแก่ยูเครนจนทำให้กองทัพยูเครนสังหารนายพลรัสเซียได้หลายนายในสงครามยูเครน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่เผยนามของสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐได้ให้ข้อมูลด้านข่าวกรองแก่ยูเครนเกี่ยวกับการเคลื่อนทัพ ตำแหน่งที่ตั้ง และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับกองบัญชาการทหารเคลื่อนที่ของรัสเซีย ยูเครนได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปรวมกับข่าวกรองของตนเพื่อตอบโต้การโจมตีของกองทัพรัสเซียจนทำให้สังหารนายพลรัสเซียได้หลายนาย นิวยอร์กไทมส์ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่าได้สังหารนายพลรัสเซียราว 12 นายในสงครามยูเครน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขจำนวนนายพลรัสเซียที่ถูกสังหารจากการให้ข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐแก่ยูเครน อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมสหรัฐและทำเนียบขาวสหรัฐยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานนี้ในทันที.-สำนักข่าวไทย

แคนเบอร์รา 31 มี.ค.- หน่วยข่าวกรองของอังกฤษเชื่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียประเมินสถานการณ์ในยูเครนผิด เนื่องจากคนสนิทบางคนไม่บอกความจริง พร้อมกับเตือนจีนอย่าเสี่ยงเข้าไปเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เซอร์ เจเรมี เฟลมมิง ผู้อำนวยการสำนักงานใหญ่การสื่อสารรัฐบาลหรือจีซีเอชคิว (GCHQ) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของอังกฤษ กล่าวสุนทรพจน์ขณะเยือนออสเตรเลียว่า ทหารรัสเซียที่ขาดแคลนทั้งอาวุธและขวัญกำลังใจ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง ทำลายยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตนเอง และถึงขั้นยิงเครื่องบินของฝ่ายตนเองตกโดยไม่ตั้งใจ ขณะที่คณะที่ปรึกษาของปูตินไม่กล้าบอกความจริงกับเขา ทั้งหมดทั้งปวงนำมาซึ่งการคำนวณผิดพลาดตามที่ผู้นำชาติตะวันตกเคยเตือนปูตินมาก่อน และกลายเป็นสงครามส่วนตัวของปูตินที่ต้องแลกด้วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ในยูเครน รวมไปถึงประชาชนคนธรรมดาในรัสเซียด้วย เซอร์ เจเรมีเตือนไปถึงจีนว่า อย่าเสี่ยงด้วยการใกล้ชิดกับรัสเซียมากเกินไป อย่าแลกผลประโยชน์ระยะยาวกับการเป็นพันธมิตรประเทศที่เพิกเฉยต่อกฎระเบียบสากล เขาเชื่อว่า ในขณะที่รัสเซียมองว่า จีนเป็นตลาดส่งออกน้ำมันและก๊าซ และเป็นช่องทางหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะมองความสัมพันธ์นี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย แม้จีนไม่ประณามรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครนเพราะจีนเล็งเข้ายึดไต้หวัน แต่ผู้นำจีนจะไม่ทำสิ่งที่อาจจำกัดการเคลื่อนไหวของตนเองในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

สื่อมวลชนหลายสำนักในออสเตรเลียรายงานวันนี้ว่า กลุ่มสายลับของจีน พยายามหาทางให้เงินทุนสนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งพรรแรงงาน ซึ่งมีแนวนิยมกลาง-ซ้าย ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่ในขณะนี้ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น แต่แผนดังกล่าวถูกสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเข้าขัดขวางเสียก่อน

วอชิงตัน 6 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สหรัฐอ้างการประเมินของหน่วยข่าวกรองว่า รัสเซียได้เพิ่มการเตรียมพร้อมเพื่อรุกรานยูเครนเต็มกำลัง แต่ยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียได้ตัดสินใจจะรุกรานแล้วหรือไม่ คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐและพันธมิตรยุโรปเมื่อไม่นานมานี้ว่า รัสเซียได้ระดมกำลังพล 110,000 นายตามแนวพรมแดนด้านติดกับยูเครนและกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่จะทำให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียสามารถรุกรานยูเครนได้เต็มรูปแบบด้วยกำลังพล 150,000 คนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมเตือนว่าผู้นำรัสเซียต้องการมีทางเลือกไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่บุกเฉพาะภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ไปจนถึงรุกรานยุเครนอย่างเต็มกำลัง หากเลือกอย่างหลัง กองกำลังรัสเซียจะสามารถบุกยึดกรุงเคียฟและโค่นประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ภายใน 48 ชั่วโมง อาจมีพลเรือนล้มตาย 25,000-50,000 คน ทหารยูเครน 5,000-25,000 นาย และทหารรัสเซีย 3,000-10,000 นายถูกสังหาร เกิดคลื่นผู้อพยพ 1-5 ล้านคน  ส่วนใหญ่จะหลั่งไหลเข้าไปในโปแลนด์ คณะเจ้าหน้าที่กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้ข้อสรุปว่า รัสเซียกำลังเดินหน้ารวบรวมกำลังพลบริเวณพรมแดนด้านยูเครน เพราะช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมีทหาร 60 กองพันประจำการทางตอนเหนือ ตะวันออก และทางใต้ของยูเครน โดยเฉพาะบริเวณคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557 แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กำลังพลดังกล่าวเพิ่มเป็น 80 กองพัน และมีอีก 14 กองพันกำลังเดินทางมาสมทบ นอกจากนี้ทั้งยังพบว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษสเปซนาซของรัสเซียราว […]

อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองกลาโหมมาเลเซียอ้างว่า มีนักการเมืองมาเลเซียบางคนรับการสนับสนุนทางการเงินและกำลังใจจากต่างชาติอย่างสม่ำเสมอ

พรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุญาตให้นายโจ ไบเดน เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยข่าวกรอง

ปักกิ่ง 9 ก.ย.- จีนกล่าวหาหน่วยข่าวกรองออสเตรเลียว่า เล่นงานนักข่าวต่างชาติที่ทำงานกับสื่อทางการจีนในออสเตรเลีย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงวันนี้ว่า ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัว สำนักข่าวไชนานิวส์เซอร์วิส และบริษัทไชนามีเดียกรุ๊ปถูกหน่วยข่าวกรองออสเตรเลียสอบปากคำ ยึดโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ไม่เว้นแม้แต่แท็บเล็ตของลูกเมื่อปลายเดือนมิถุนายน โดยอ้างว่าอาจมีความผิดโทษฐานละเมิดกฎหมายต่อต้านการแทรกแซงของต่างชาติ กระทรวงขอย้ำว่า ผู้สื่อข่าวในองค์กรสื่อของจีนปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบออสเตรเลียอย่างเคร่งครัด การกระทำของออสเตรเลียแทรกแซงการทำหน้าที่รายงานข่าวตามปกติของสื่อจีนอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายรุนแรงต่อร่างกายและจิตใจของผู้สื่อข่าวและครอบครัว ด้านองค์การข่าวกรองความมั่นคงออสเตรเลียไม่ตอบว่า ได้บุกตรวจค้นและสอบปากคำผู้สื่อข่าว 4 คนเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนหรือไม่ เช่นเดียวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติออสเตรเลียที่ไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่รายงานข่าวและเอกสารของศาลระบุว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและตำรวจออสเตรเลียบุกค้นบ้านพักและที่ทำงานของสมาชิกสภารัฐนิวเซาท์เวลส์คนหนึ่ง อันเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามสอบสวนเรื่องจีนหาทางมีอิทธิพลในออสเตรเลีย.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 8 ส.ค.- หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเตือนว่า รัสเซีย จีน และอิหร่านจะหาทางแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่รัสเซียได้พยายามตัดกำลังนายโจ ไบเดน ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครตแล้ว นายวิลเลียม เอวานนินา ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านข่าวกรองและความมั่นคงแห่งชาติ สังกัดสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติแถลงต่อสาธารณะอย่างไม่บ่อยนักว่า รัสเซีย จีนและอิหร่าน กำลังใช้การให้ข้อมูลออนไลน์ไม่ถูกต้องและวิธีอื่น ๆ หวังมีอิทธิพลต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สร้างความปั่นป่วน สั่นคลอนความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันต่อกระบวนการประชาธิปไตย และอาจพยายามแทรกแซงระบบเลือกตั้งสหรัฐด้วยการก่อกวนกระบวนการลงคะแนน จารกรรมข้อมูลเลือกตั้ง หรือทำให้คนสงสัยในผลการนับคะแนน อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่ประเทศต่างชาติปรปักษ์เหล่านี้จะแทรกแซงหรือบงการผลการนับคะแนนขนาดใหญ่ของสหรัฐได้ นายเอวานนินาระบุว่า รัสเซียกำลังเล่นงานนายไบเดนและหน่วยงานในสหรัฐที่ถูกมองว่าต่อต้านรัสเซีย นักการเมืองรัสเซียคนหนึ่งปล่อยข่าวการทุจริตหวังก่อกวนการหาเสียงของนายไบเดนและพรรคเดโมแครต เช่น ปล่อยเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียใช้สื่อสังคมออนไลน์และสถานีโทรทัศน์รัสเซียหาเสียงให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนจีนไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการเลือกตั้งอีกสมัยเพราะมองว่าเป็นคนคาดเดายาก จีนหาทางมีอิทธิพลเหนือการเมืองสหรัฐก่อนการเลือกตั้งเพื่อกำหนดนโยบายรัฐบาลสหรัฐ กดดันนักการเมืองสหรัฐที่ถูกมองว่าต่อต้านจีน และหันเหเสียงวิพากษ์วิจารณ์จีน ด้านอิหร่านน่าจะใช้เทคนิคทางออนไลน์ เช่น ปล่อยข่าวลดความน่าเชื่อถือของสถาบันสหรัฐและประธานาธิบดีทรัมป์ ปลุกเร้าความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน.-สำนักข่าวไทย