ออตตาวา 20 พ.ค.- แคนาดาจะห้ามใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย เทคโนโลยี และแซดทีอี คอร์ป (ZTE) ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของจีน ในการวางเครือข่าย 5จี (5G) ในแคนาดา เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ
นายฟรองซัวส์-ฟิลิป ชอมปาญน์ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมแคนาดาเผยกับสื่อว่า รัฐบาลจะไม่ให้หัวเว่ยและแซดทีอีอยู่ในเครือข่าย 5 จีของประเทศ ดังนั้นผู้ให้บริการที่ติดตั้งอุปกรณ์ของทั้งสองบริษัทนี้ไปแล้วจะต้องหยุดใช้แล้วเปลี่ยนออกตามการประกาศของกระทรวงโดยจะไม่ได้รับการชดเชย กำหนดให้เปลี่ยนออกภายในเดือนมิถุนายน 2567 สำหรับเครือข่าย 5 จี และภายในสิ้นปี 2570 สำหรับเครือข่าย 4 จี
ด้านโฆษกสถานทูตจีนในแคนาดาแถลงว่า ความกังวลเรื่องความมั่นคงที่ว่าเป็นข้ออ้างในการชักใยทางการเมือง และกล่าวหาแคนาดาว่าร่วมกับสหรัฐข่มเหงบริษัทจีน ขณะที่รองประธานหัวเว่ยในแคนาดาเผยว่า จะเดินหน้าทำธุรกิจในแคนาดาต่อไป รวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันจ้างพนักงานในแคนาดาอยู่ 1,500 คน ส่วนใหญ่ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนา
การประกาศดังกล่าวทำให้แคนาดาเป็นชาติสุดท้ายในไฟว์อายส์ (Five Eyes) ซึ่งเป็นพันธมิตรข่าวกรอง 5 ชาติที่ห้ามใช้อุปกรณ์หัวเว่ย เพราะอีก 4 ชาติคือ สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ประกาศไปก่อนแล้ว แคนาดาประกาศตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ว่าจะทบทวนความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติจากการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย ต่อมาในเดือนธันวาคมปีเดียวกันได้ควบคุมตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่การเงินและบุตรสาวของประธานเจ้าที่บริหารของหัวเว่ย โดยอ้างหมายจับของสหรัฐ ทำให้ความสัมพันธ์กับจีนร้าวฉานหนัก จนกระทั่งแคนาดายอมปล่อยตัวนางเมิ่งเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน จีนจึงยอมปล่อยตัวชายแคนาดา 2 คนในวันเดียวกัน ทั้งคู่ถูกจีนตั้งข้อหาจารกรรม.-สำนักข่าวไทย