3 คับข่าวมีของวันนี้จะพาไปดูเรื่องสงครามการค้า ระหว่าง สหรัฐ-จีน ที่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน ทำให้เกิดความกังวลไปทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดทุนที่เห็นชัดเจน ติดตามจากรายงาน
5 ทางการจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ (1.9 ล้านล้านบาท) เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีนล่าสุด
6 ท่าเรือสหรัฐรับมือการเปลี่ยนแปลง หลังจากมีมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 มีผลแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
7 ผู้นำสหรัฐสั่งให้เริ่มกระบวนการขึ้นภาษีสินค้าจีนที่เหลือทั้งหมด หลังจากการขึ้นภาษีสินค้าจีน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากร้อยละ 10 เป็น 25 เพิ่งมีผลเมื่อวันศุกร์
8 มาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีนเข้าสหรัฐมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.33 ล้านล้านบาท) จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 มีผลแล้ว
5 จีนเผยคณะเจรจาการค้าจีนจะยังคงเดินทางไปเจรจาที่สหรัฐตามกำหนดในสัปดาห์นี้ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตว่าจะขึ้นภาษีสินค้าจีนในวันศุกร์นี้ก็ตาม
7 พนักงานขับรถพยาบาลร่วมขบวนประท้วงทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านแผนขึ้นภาษีเชื้อเพลิงและเปลี่ยนเงื่อนไขการทำงานตามนโยบายผู้นำฝรั่งเศส
10 ประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตาของเคนยาลงนามร่างกฎหมายการคลังฉบับใหม่ในวันนี้ ซึ่งมีการขึ้นภาษีหลายอย่าง รวมทั้งภาษีเชื้อเพลิงที่ประชาชนไม่พอใจและประท้วงหนัก
4 ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน คุกรุ่นขึ้นมาอีกระดับ เพราะต่างฝ่ายต่างใช้กำแพงภาษีรอบใหม่ที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น ทำให้ทั้งสองฝ่ายถลำลึกเข้าสู่สงครามการค้ามากขึ้น
5 พาณิชย์ถกเข้มยุทธศาสตร์การค้า หลังทรัมป์ขึ้นภาษีจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ เป็นผลบวกขยายตลาดสินค้าไทย
10 สหรัฐประกาศชัดจะไม่ยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากตุรกี แม้ตุรกีจะยอมปล่อยตัวบาทหลวงชาวอเมริกัน ขณะที่กาตาร์เสนอตัวช่วยเหลือด้านการลงทุนกับตุรกี ทำให้ค่าเงินของตุรกีแข็งค่าขึ้นมาได้
2 สหรัฐ 1 ส.ค.-รัฐบาลสหรัฐมีแผนจะเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนร้อยละ 25 คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.6 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจากจีนร้อยละ 10 ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลายพันรายการ แต่ยังไม่ทันมีผลบังคับใช้ก็ประกาศขึ้นภาษีอีก ซึ่งจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเลวร้ายลงไปอีก คาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศมาตรการขึ้นภาษีรอบล่าสุดในวันนี้ ขณะที่รัฐบาลจีนยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
