ผู้โดยสารถูกไล่ลงเครื่องบินเพราะใช้กางเกงในแทนหน้ากากอนามัย
ไมอามี 17 ธ.ค. – ผู้โดยสารคนหนึ่งถูกเชิญให้ออกจากเครื่องบินในรัฐฟลอริดาของสหรัฐ เนื่องจากเขายืนยันที่จะสวมกางเกงในทรงจีสตริงครอบจมูกและปากแทนหน้ากากอนามัย ซึ่งขัดต่อข้อกำหนดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของสหรัฐรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า นายอดัม เจนน์ วัย 38 ปี ถูกเชิญให้ออกจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติฟอร์ตลอเดอร์เดลในรัฐฟลอริดา นายเจนน์ระบุว่า เขาต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นถึงข้อกำหนดที่ไร้สาระเกี่ยวกับการบังคับให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบิน แต่กลับอนุญาตให้ผู้โดยสารถอดหน้ากากอนามัยได้เมื่อต้องการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มบนเครื่องบิน นายเจนน์ยังอ้างว่า เขาเคยสวมกางเกงในทรงจีสตริงครอบจมูกและปากในเที่ยวบินก่อนหน้านี้ โดยบอกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินว่า สิ่งที่เขาสวมอยู่นั้นเป็นหน้ากากอนามัยและใช้งานได้ดี ในขณะเดียวกัน สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวไม่ยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดสวมหน้ากากอนามัยของรัฐบาลสหรัฐอย่างชัดเจน สายการบินฯ ขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่จัดการปัญหานี้ได้ก่อนที่เครื่องออกเดินทางจากสนามบินเพื่อป้องกันเหตุขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นขณะอยู่บนท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ คลิปวิดีโอที่ผู้โดยสารอีกคนบนเที่ยวบินเดียวกันบันทึกภาพไว้เมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้แจ้งให้นายเจนน์ทราบว่าเขาต้องออกจากเครื่องบิน หากยังยืนยันที่จะสวมกางเกงในครอบจมูกและปากแทนหน้ากากอนามัย โดยที่นายเจนน์ได้ลุกจากที่นั่งและเดินออกจากเครื่องบินในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย