กองทัพจ่อเชิญผู้แทนประเทศต่างๆ รับฟังคำชี้แจง กัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่

ทำเนียบ 21 ก.ค.-โฆษก ศบ.ทก. เผยที่ประชุมมอบกองทัพเชิญผู้ช่วยทูตทหาร และผู้แทนจากประเทศต่างๆ รับฟังคำชี้แจง ปมกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง พร้อมวางมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม ส่งอาสาสมัคร-ทหารพรานหญิง เพิ่มการดูแล พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. แถลงผลการประชุม ศบ.ทก. ประจำสัปดาห์ ว่า จากเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทางกองทัพได้ยกระดับมาตรการการปฏิบัติที่เข้มข้นขึ้นกับหน่วยในพื้นที่ โดยได้รับคำสั่งให้เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ออกหนังสือประณามการกระทำดังกล่าวแล้ว พร้อมกันนี้ กองทัพเตรียมเชิญผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร รวมถึงผู้แทนจากประเทศต่างๆ มารับฟังคำชี้แจงเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงในเร็วๆ นี้ ขณะที่การท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หลังเกิดเหตุความวุ่นวายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ร่วมหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ โดยมีมาตรการดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือกัมพูชา จะให้ชุดเจ้าหน้าที่ประสานงานของชาตินั้นเป็นผู้จัดการ โดยเชิญตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.กรณีเกิดปัญหาในพื้นที่ จะใช้ชุดประสานงานปราสาทฝ่ายละ 7 คน จะไม่มีการเรียกชุดกำลังเสริม หรือส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าทั้งสองฝ่าย และขอให้ทั้งสองฝ่ายคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่ายก่อนจะมีการเยี่ยมชมปราสาท […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“วิโรจน์” จี้ กต.เชิญ “ทูตเขมร” แจงปมวางทุ่นระเบิด

รัฐสภา 21 ก.ค.-“วิโรจน์” จี้ กต.เชิญ “ทูตเขมร” แจงปมวางทุ่นระเบิดจนทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย ย้ำหลักฐานชัด ควรเชิญ UNMAS สหประชาชาติร่วมสอบ พร้อมแจงนานาชาติ ย้อนถาม “ฮุน เซน” นี่หรือจะใช้กลไก “ศาลโลก” ทั้งที่อนุสัญญาที่ลงนามไว้ยังไม่เคารพ แล้วจะมาเรียกร้องอะไร นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอแนะในการตอบโต้เรื่องทุ่นระเบิดชายแดนไทย กัมพูชา ว่า การที่กระทรวงการต่างประเทศประณามกัมพูชาถือว่าถูกต้องแล้ว และการตรวจพิสูจน์ทราบพบว่าเป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ของรัสเซีย ยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่มีใช้ในประเทศไทย ไม่มีอยู่ในคลังอาวุธของกองทัพ ดังนั้น ยืนยันได้ว่าคนที่มาวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไม่ใช่ฝั่งประเทศไทยแน่ชัด ถ้าสืบกันดีๆเราก็รู้กันอยู่แล้วถ้าประเทศไทยไม่ได้ใช้ ประเทศไหนใช้ มันชัดเจนอยู่แล้ว และภาพที่นำมาใส่ร้ายก็ชัดเจนว่าเป็นภาพการซ้อมเก็บวัตถุระเบิด ของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ในยุคปัจจุบันนี้ยืนยันด้วยข้อเท็จจริงหมดแล้ว สิ่งที่เราต้องทำมากกว่านี้ ควรต้องเชิญทูตกัมพูชามาหารือ และแจ้งว่าเราต้องการคำตอบในเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้รับคำตอบก็ต้องกำหนด ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับกัมพูชาเสียใหม่ให้เหมาะสมกับพฤติกรรม ที่เราประสบปัญหาอยู่ทุกวันนี้ […]

“ภูมิธรรม” เผยส่ง ตร.ปราบจลาจล หนุนทหารดูแลปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยส่งตำรวจปราบจลาจล 2 กองร้อย หนุนการทำงานทหาร ดูแลปราสาทตาเมือนธม หลีกเลี่ยงการยั่วยุนักท่องเที่ยวกัมพูชา ย้ำไทยส่งหนังสือประท้วงกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ เตรียมยกระดับเรียกทูตกลับประเทศ หากพบหลักฐานชัด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการการตอบโต้กัมพูชา ภายหลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า สำหรับจุดยืนของรัฐบาล ได้พูดไปหมายครั้งแล้วว่า ยึดมั่นในอธิปไตยของประเทศ จะไม่ยินยอมให้มาละเมิดอธิปไตย ขณะเดียวกัน พยายามป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือนำไปสู่สงคราม โดยไทยพยายามจะหลีกเลี่ยงภาวะสงคราม แต่หากมีการรุกล้ำเข้ามากระทบกับอธิปไตยก็คงไม่ยอม ทั้งนี้เท่าที่ทราบ กองทัพภาคที่ 2 และ ศบ.ทก.ได้ชี้แจงไปแล้ว และทราบว่าเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) มีรายงานข่าวแจ้งว่า มีการขนมวลชนมา 23 คันรถ ซึ่งได้รับรายงานตั้งแต่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งไทยก็ได้เตรียมมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้ประเด็นถูกเบี่ยงเบน ไปสู่องค์กรระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า เรื่องทุ่นระเบิด มีการตรวจสอบแล้วชัดเจนว่าเป็นระเบิดใหม่ที่มีการผลิตและนำมาวางไว้ในช่วงเร็วๆ นี้ “ไทยมองว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งไทยได้รวบรวมหลักฐาน และตนเองได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่กระบวนการประท้วง […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]

พล.อ.ณัฐพล วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน

ทำเนียบ 21 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล เผย ศบ.ทก.เตรียมสรุปฟ้อง “กัมพูชา” วางทุ่นระเบิดใหม่ ต่อคณะกรรมการออตตาวา พร้อมแจ้งประเทศสมาชิกตัดงบฯ เก็บกู้ทุ่นระเบิด วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. เปิดเผยก่อนเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก. ชุดใหญ่ ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่ามีความเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่อยากให้เข้าใจการทำหน้าที่ของภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน จะพูดสิ่งใดไปก่อนตามความคิดและความเชื่อ แต่มีเหตุผลที่เป็นความจริงในภายหลังแล้วทุกคนจะไม่เชื่อคำพูดของตนเอง ดังนั้นขอให้เห็นใจการทำหน้าที่ของภาครัฐ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ได้มีการติดตามโซเซียลมาโดยตลอด และถูกสื่อมวลชน นักวิชาการ กล่าวหาว่าทำงานล่าช้า ไม่ทันใจเท่าสมเด็จฮุนเซน และนายฮุนมาเน็ต ซึ่งทั้งสองโพสต์โซเชียล และสามารถลบโพสต์ได้ แต่ไทยทำไม่ได้ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะศีลเสมอกัน ดังนั้น ตนเองพยายามจะสร้างมาตรฐานระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ว่าการจะพูดสิ่งใดต้องให้ถูกต้องมากที่สุด ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณช่องบก ยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้เข้าสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าระเบิดเป็นชนิดใหม่ แม้หลายคนจะทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้ว ฝ่ายไทยจะต้องตรวจสอบว่าจะพบเจอในจุดอื่นอีกหรือไม่ จุดที่วาง ประเทศไทยมีใช้ระเบิดชนิดนี้หรือไม่หรือมีใช้เฉพาะกัมพูชา จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด […]

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ประณามการลักลอบวางทุ่นระเบิดช่องบก

กทม. 21 ก.ค.-ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ประณามการลักลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย ส่งผลทหารไทยบาดเจ็บ 3 นาย พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม และให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดขัดขวาง การปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทยตามแนวชายแดน ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอแสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2568 โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการลักลอบเข้ามาดำเนินการวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคลในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลของกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดยในจำนวนนี้ 1 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวร จากการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดใหม่ซึ่งเพิ่งถูกวางขึ้น โดยจัดวางในลักษณะสนามทุ่นระเบิด และกระจายตัวหลายจุดตามแนวชายแดนในเขตพื้นที่อธิปไตยไทย โดยทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดดังกล่าวมิได้อยู่ในระบบยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยอย่างชัดเจน และมีลักษณะมุ่งหมายเพื่อก่ออันตรายต่อกำลังพล รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ และยังส่งผลกระทบ ต่อความปลอดภัยของประชาชนในบริเวณใกล้เคียงอย่างมีนัยสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง และขอแสดงการคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อการกระทำใด ๆ ที่อาจถือเป็นการละเมิดพันธกรณีและบรรทัดฐานของอนุสัญญา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Mine Ban Treaty หรือ […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ยันทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ชี้กัมพูชาบิดเบือนข้อเท็จจริง

20 ก.ค.- โฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังทุ่นระเบิด ยืนยันทุ่นระเบิดที่พบไม่ใช่ของไทย ข้อมูลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง วันนี้ (20 ก.ค. 68) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณชน จากกรณีที่นาย แฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นผู้ฝังกับระเบิดใหม่บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมอ้างว่ามีภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บ่งชี้พฤติกรรมดังกล่าว โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณช่องบกและพื้นที่อื่น ๆ เป็นระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นระเบิดสังหารบุคคล ผลิตจากประเทศรัสเซีย โดยกองทัพบกไทยไม่มีระเบิดชนิดนี้อยู่ในครอบครอง ไม่เคยมีอยู่ในสารบบ การจัดหาเข้ามาใช้ในหน่วยทหารของกองทัพไทย และไม่เคยมีการนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่แนวชายแดนแต่อย่างใด 2. ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Fresh News ของกัมพูชา ซึ่งถูกนำเสนอว่าเป็นหลักฐานการวางระเบิดของทหารไทยนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นภาพจากภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (T-MAC) ในช่วงการฝึกเก็บกู้ หรือช่วงเวลาพักของกำลังพล ไม่ใช่การวางกับระเบิดแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างความเสียหายต่อประเทศไทยอย่างร้ายแรง 3. การที่นายแฮง รัตนา กล่าวว่าทุ่นระเบิดอยู่ในเขตไทย […]

มวลชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าสถานทูตกัมพูชา

20 ก.ค.- “คปท.-ศปปส.” รวมพลังหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยไทย หลังเหตุทหารเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย กำลังตำรวจ กว่า 100 นาย ตรึงกำลังบริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา และกระจายกำลังประจำจุดต่างๆ นำแผงเหล็กวางกั้นตลอดแนว ดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย รวมถึงดูแลการจราจรโดยรอบพื้นที่ ขณะที่ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และมวลชน เดินทางไปสถานทูตกัมพูชา รวมพลังเรียกร้องหน้าสถานทูตกัมพูชา หลังกำลังพลทหารไทยเหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 ชายแดนไทย-กัมพูชา บาดเจ็บ 3 นาย และเหยียบกับระเบิดขาขาด โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โบกธงชาติไทย ชูป้ายไม่ยอมเสียดินแดน ร้องเพลงปลุกใจเพลง “สู้ตรงนี้ สู้จนตาย เป็นคนสุดท้าย” และมีรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงจอดริมถนนกล่าวปราศรัยถึงกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิด พร้อมเรียกร้องรัฐบาลรักษาอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ บริเวณถนนหน้าสถานทูตกัมพูชา ยังเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติทุกช่องทาง นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อสารไปถึงรัฐบาลและทหารของกัมพูชา หลังเกิดข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดน ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทย […]

กัมพูชาปฏิเสธเรื่องทุ่นเรื่องระเบิด

19 ก.ค. – กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาสื่อไทย ที่รายงานว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่บริเวณชายแดน ทำให้มีทหารไทยบาดเจ็บ ยืนยันปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างเคร่งครัด หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อ และปฏิบัติการทุ่นระเบิดของกัมพูชา หรือ CMAA ออกข่าวประชาสัมพันธ์ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ระบุว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทุ่นระเบิด และระเบิดที่หลงเหลือตกค้างจากสงคราม ดังนั้น กัมพูชาจึงขอประณามและคัดค้านอย่างรุนแรง ต่อการใช้ การผลิต และการมีทุ่นระเบิดไว้ในครอบครอง และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมทั้งหมด ที่เกิดจากทุ่นระเบิดและเศษระเบิดจากสงคราม โดยไม่คำนึงว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน และกับบุคคลสัญชาติใด แถลงการณ์ระบุว่า กัมพูชา เป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา และได้ปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างเคร่งครัด ทั้งตามตัวอักษร และเจตนารมณ์ของอนุสัญญาดังกล่าว และกัมพูชายังได้รับการยอมรับ และการยกย่องอย่างสูง จากรัฐภาคีอื่นๆ ในอนุสัญญานี้จากความมุ่งมั่น และความสำเร็จในการกำจัด และทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั้งหมดที่พบ สำหรับเหตุการณ์ทหารไทย ที่ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดเมื่อเร็วๆ นี้ CMAA ยืนยันความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ และคาดหวังว่าข้อสรุป หรือข้อกล่าวหาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน มีหลักฐานเพียงพอ และถูกต้องตามข้อเท็จจริง โดยหลีกเลี่ยงการคาดเดา หรือการกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง กัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของสื่อมวลชนไทย บางสำนักอย่างเด็ดขาด และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องงดเว้นการสรุป […]

1 28 29 30 31 32 121
...