พล.อ.ณัฐพล วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน

ทำเนียบ 21 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล เผย ศบ.ทก.เตรียมสรุปฟ้อง “กัมพูชา” วางทุ่นระเบิดใหม่ ต่อคณะกรรมการออตตาวา พร้อมแจ้งประเทศสมาชิกตัดงบฯ เก็บกู้ทุ่นระเบิด วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. เปิดเผยก่อนเป็นประธานการประชุม ศบ.ทก. ชุดใหญ่ ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่ามีความเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน แต่อยากให้เข้าใจการทำหน้าที่ของภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน จะพูดสิ่งใดไปก่อนตามความคิดและความเชื่อ แต่มีเหตุผลที่เป็นความจริงในภายหลังแล้วทุกคนจะไม่เชื่อคำพูดของตนเอง ดังนั้นขอให้เห็นใจการทำหน้าที่ของภาครัฐ ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ได้มีการติดตามโซเซียลมาโดยตลอด และถูกสื่อมวลชน นักวิชาการ กล่าวหาว่าทำงานล่าช้า ไม่ทันใจเท่าสมเด็จฮุนเซน และนายฮุนมาเน็ต ซึ่งทั้งสองโพสต์โซเชียล และสามารถลบโพสต์ได้ แต่ไทยทำไม่ได้ เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะศีลเสมอกัน ดังนั้น ตนเองพยายามจะสร้างมาตรฐานระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ว่าการจะพูดสิ่งใดต้องให้ถูกต้องมากที่สุด


ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณช่องบก ยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้เข้าสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าระเบิดเป็นชนิดใหม่ แม้หลายคนจะทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ดำเนินการกวาดล้างทุ่นระเบิดไปแล้ว ฝ่ายไทยจะต้องตรวจสอบว่าจะพบเจอในจุดอื่นอีกหรือไม่ จุดที่วาง ประเทศไทยมีใช้ระเบิดชนิดนี้หรือไม่หรือมีใช้เฉพาะกัมพูชา จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เวลา 3 วันในการตรวจสอบ สามารถตอบสังคมได้ และสามารถตรวจสอบเพิ่มว่ามีการวางอีก 2 จุด รวม 8 ทุ่น ดังนั้นเมื่อทราบว่ามีจุดอื่นๆ ที่วางเพิ่มเติม และทราบชนิดทุ่นระเบิดแล้วว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 ประเทศรัสเซีย ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีใช้ ดังนั้นเป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นของประเทศอื่น นอกจากนี้ ยังพบว่าจุดที่วางเอาเศษวัชพืชมาปกคลุม ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นของใหม่ และทุ่นระเบิดที่วางส่วนที่เป็นโลหะไม่มีสนิม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังทำการตรวจค้นจุดอื่นๆ เพิ่มเติมอีก หลังจากนี้ การประชุม ศบ.ทก. จะมารับทราบรายงานทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ย้ำว่าตลอด 5 วันที่ผ่านมาในการตรวจสอบ ถือว่ามีความรวดเร็วแล้ว และการประชุมคณะกรรการออตตาวา จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ ดังนั้น การดำเนินการจะส่งฟ้องไปยังคณะกรรมการออตตาวา จะต้องรอในช่วงที่มีการประชุม ดังนั้นระหว่างนี้ไทยจะต้องทำสำนวนให้รอบคอบ เพื่อให้ศาลได้พิจารณาหลักฐานและรับฟ้องได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวจึงอยากขอให้เข้าใจการทำหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐว่าเหตุใดจึงล่าช้า เพราะต้องทำงานตามขั้นตอน หากทำพลาดแล้วประชาชนอาจจะตำหนิตนเองได้ แม้ตนเองจะทำใจกับการถูกตำหนิแล้ว แต่สงสารทีมงาน ย้ำว่า ศบ.ทก.ดูแลในเรื่องสวัสดิการทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้ละเลยที่จะดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ภาคใต้ด้วย


ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการตอบโต้กัมพูชาหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ศบ.ทก.จะดำเนินการตกลงว่าจะเพิ่มหรือไม่ และรายงานไปยังรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการออตตาวาต่อไป ส่วนคณะกรรมการออตตาวาจะมีบทลงโทษอย่างไรกับกัมพูชานั้น พลเอกณัฐพล กล่าวว่า ในบทลงโทษยังไม่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการออตตาวา แต่กัมพูชาผิดอยู่ 2 เรื่องอย่างแน่นอน คือ วางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งสมาชิกที่อยู่ในออตตาวาต้องไม่ทำเช่นนี้ และกัมพูชายังมีทุ่นระเบิดใหม่อยู่ในครอบครอง เนื่องจากสมาชิกออตตาวาต้องทำลายทุ่นระเบิดตามข้อตกลง ขณะที่ทำลายไม่หมด แต่นำมาใช้ก็ถือว่าผิด ซึ่งทางการไทยจะประท้วงไปยังกัมพูชาด้วย พร้อมยื่นสำนวนไปยังคณะกรรมการออตตาวา รวมถึงส่งข้อมูลไปยังประเทศที่ให้เงินสนับสนุนกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อให้พิจารณาในเรื่องนี้

พลเอกณัฐพล ยังกล่าวว่า การยื่นเรื่องจะส่งไปที่คณะกรรมการออตตาวา ไม่อยากเกี่ยวข้องกับยูเอ็น แต่ต้องสอบถามกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้มีความชัดเจนอีกครั้ง และการที่กัมพูชานำระเบิดมาวางไว้ยึดแผนที่ของตนเอง ไม่ใช่ประเด็น และไทยไม่สนใจว่าจะยึดแผนที่ใด แต่ไทยยึดแผนที่และเป็นอธิปไตยของเรา ถ้ากัมพูชาจะอธิบายว่าเป็นแผ่นดินของตนเองต้องเข้าสู่กลไกคณะกรรมการ JBC พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการที่สมเด็จฮุนเซน บอกอยากเข้าสู่กระบวนการพูดคุย JBC แต่ใช้มวลชนมากดดันที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นการแสดงออกที่ไม่จริงใจ ในที่ประชุม ศบ.ทก.จะหารือในประเด็นนี้

ขณะที่การท่องเที่ยวบริเวณปราสาทตาเมือนธม ได้มีข้อตกลงว่าส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายละ 7 คน แต่หากพบประชาชนที่มีการยั่วยุ ทหารจะต้องมีการเชิญออกจากพื้นที่ รวมทั้งเตรียมการถ้ากัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือจะดำเนินการอย่างไร แต่กัมพูชาก็สามารถควบคุมได้ ย้ำว่า ประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัดมีความเดือดร้อน เช่นเดียวกัน ตนเองเห็นใจแม่ทัพภาคที่ 2.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]