ชัวร์ก่อนแชร์ : อาหารเสริม สมุนไพร ช่วยล้างตับคั่งไขมัน จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์หลากหลายอาหารเสริมและสมุนไพร


ที่ระบุว่าแก้ไขมันพอกตับ ตับคั่งไขมัน ล้างพิษตับได้
🎯 ตรวจสอบกับ ศ.ดร.นพ.สมบัติ ตรีประเสริฐสุข สาขาวิชาโรคทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการบริหาร สมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย

ปัจจุบัน ทางการแพทย์ยังไม่มีการศึกษาอาหารเสริมและสมุนไพรที่ช่วยเรื่องตับคั่งไขมันในคน ลดพังผืดตับหรือค่าตับอักเสบในเลือดให้ดีขึ้นหรือหายได้


จะเห็นได้ว่ายาแผนปัจจุบันที่แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยโรคตับก็ยังไม่สามารถลดไขมันที่คั่งในตับลงได้ ยาทำหน้าที่เพียงแค่ลดการอักเสบ

สิ่งที่ควรปฏิบัติคือการกลับสู่วิถีชีวิตพื้นฐานดั้งเดิม ได้แก่ “ลดการกิน” (กินพอดี กินพอประมาณ) และ “เผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย” ทั้งสมดุลเรื่องอาหารและการกิน รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ (ไม่เน้นการออกกำลังกายอย่างหนักและหักโหม แต่เน้นที่ความสม่ำเสมอและระยะเวลานานอยู่ในเกณฑ์เผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย คือ 150 นาทีต่อสัปดาห์) ก็จะทำให้ตัวโรคดีขึ้นอย่างแน่นอน

ผลิตภัณฑ์ที่กินแล้วช่วยล้างพิษตับได้ มีจริงหรือไม่ ?


เซลล์ตับที่เป็นโรคตับคั่งไขมัน การทำงานของตับคล้าย ๆ คนอ้วนที่มีไขมันแทรกเข้าไปทุกเซลล์ การที่จะใช้ยา อาหารเสริม สมุนไพรใด ๆ ก็ตาม เพื่อล้างไขมันออกภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่เดือน ย่อมเป็นไปไม่ได้

ปัจจุบัน ยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถผลักดันไขมันหรือล้างออกจากเซลล์ตับได้ นอกจากผู้ป่วยได้พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และลดปริมาณการพอกพูนไขมันเข้าไปในตับใหม่

ดังนั้น กรณีนี้จึงไม่สามารถหวังผลจากการใช้ยาได้ ทั้งยาแผนปัจจุบัน และ/หรือ ยาสมุนไพร

“รางจืด” สมุนไพรล้างพิษตับ แก้ปัญหาไขมันพอกตับ ?

เรื่องสมุนไพร “รางจืด” ยังไม่เห็นผลการศึกษาในคนที่เป็นรูปธรรมและมีจำนวนมากพอ รวมทั้งยืนยันค่าการทำงานตับที่ดีขึ้นและพังผืดที่ลดลงตามที่กล่าวอ้าง

จากการสืบค้นฐานข้อมูลคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เคยศึกษาวิจัยไว้ก็มีแต่ “ขมิ้นชัน” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยในคนด้วยแต่ให้ผลการรักษาเพียงแค่ลดการอักเสบหรือลดพังผืดในตับที่ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งถือได้ว่าขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีการศึกษามากที่สุดแล้ว

สำหรับสมุนไพรตัวอื่น ๆ ยังไม่เห็นการศึกษาที่มีจำนวนผู้ป่วยมากพอและให้ผลการรักษาที่ดีอย่างที่คาดหวังได้

“ลูกใต้ใบ” ล้างพิษตับ แก้ไขมันพอกตับ ?

สมุนไพร “ลูกใต้ใบ” มีการศึกษาและทำวิจัยนานมากกว่า 10 ปี ในผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบชนิดบีจำนวนหนึ่ง พบว่าค่าตับอักเสบมีการลดลงบ้าง แต่ปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบบีไม่ได้ลดลง

จากการสืบค้นเพิ่มเติมก็ยังไม่พบข้อมูลที่ยืนยันทางวิทยาศาสตร์ว่าลูกใต้ใบช่วยให้ไขมันและพังผืดในตับหายไปได้

“ใบมะขามอ่อน” ช่วยลดไขมันเกาะตับ ?

ในฐานข้อมูลงานวิจัยโรคที่เกี่ยวกับตับ ไม่มีเรื่องใบมะขามอ่อนอยู่เลย

สมุนไพรตัวหลักที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยปัญหาสุขภาพตับมีไม่กี่ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชัน ลูกใต้ใบ รางจืด และชาเขียว

“เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม” ไล่ไขมันพอกตับ ?

ไม่ปรากฏในฐานข้อมูลที่สืบค้นว่ามีการนำ “เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม” มาศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์สำหรับการแก้ปัญหาตับคั่งไขมัน

ข้อมูลที่แชร์เกี่ยวกับ “เห็ดหูหนูขาว เห็ดหูหนูดำ เห็ดหอม” ไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์

พฤติกรรมสุขภาพกับการกำจัดตับคั่งไขมัน ?

พฤติกรรมการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาโรคตับคั่งไขมัน

จะเห็นได้ว่าไม่มีการพูดถึง “ยา” เพราะยาจะใช้กับผู้ป่วยที่มีพังผืดตับแล้วเท่านั้น

เมื่อไปพบแพทย์แล้ว “ไม่ได้รับยา” แต่ได้รับคำแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ขอให้สบายใจได้ว่าเพิ่งจะเป็นระยะต้นเท่านั้น สามารถรักษาหายได้

“4 ตั้ง”หัวใจสำคัญ จัดการปัญหา “ตับคั่งไขมัน”

หัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาสุขภาพตับที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเอง ประกอบด้วย “4 ตั้ง” ดังต่อไปนี้

1. ตั้งสติ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ด้วยการปรึกษาแพทย์ว่าเป็นมาก หรือเป็นน้อย

2. ตั้งใจ ลงมือปฏิบัติเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เรื่องการควบคุมอาหารและการกิน ออกกำลังกายสม่ำเสมอและนานพอ (150 นาทีต่อสัปดาห์) จะช่วยให้หายจากโรคตับคั่งไขมันได้

3. ตั้งเป้า ด้วยการลดน้ำหนักลงให้ได้ร้อยละ 5 พบว่าการทำงานของตับดีขึ้นอย่างชัดเจน ถ้าขยับไปถึงร้อยละ 7 การอักเสบจะดีขึ้นมาก ๆ เลย

4. ตั้งต้นใหม่ การเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้สำเร็จในรอบแรก เมื่อเกิดความล้มเหลว ขอให้ตั้งต้นใหม่ อย่ายอมแพ้ ต้องสำเร็จ ด้วยการไปสู่เป้าหมายที่หายจากโรคตับได้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและความสุขของคนในครอบครัว 

 สำหรับอาหารเสริม สมุนไพร ที่มีการแชร์กันก็ไม่ควรแชร์ต่อเพราะมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องหลายอย่าง ขอให้กลับมาเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองและออกกำลังกาย จะเป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า

ดูเพิ่มเติม “รายการชัวร์ก่อนแชร์”

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล   

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย