อังกฤษ 18 มี.ค.-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ หลังเฉือนเอาชนะลิเวอร์พูล ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-3 ส่วน เชลซี ไม่พลาดชนะเลสเตอร์ 4-2
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเสื้อสีแดง เปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล เกมนี้ปีศาจแดงขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 10จากจังหวะตามซ้ำของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่ท้ายครึ่งแรก “หงส์แดง” อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ยิงบอลไปแฉลบ เข้าไปในนาทีที่ 44 ตีเสมอให้ลิเวอร์พูลได้สำเร็จ ก่อนที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะเข้าซ้ำเป็นประตูขึ้นนำให้หงส์แดง ในนาทีที่ 45+2 ช่วยให้ทีมแซงนำ 2-1 ครึ่งหลัง “หงส์แดง” ทำท่าประคองคว้าชัยไปได้ แต่นาทีที่ 87 อันโตนี ตัวสำรอง หมุนยิงด้วยขวา ช่วยให้แมน ยูไนเต็ด ตีเสมอเป็น 2-2 ใน 90 นาที ต้องเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 105 ทีมเยือนออกนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากการยิงไกลของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แต่ เจ้าถิ่น มาได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 ในนาทีที่ 112 จากการหลุดไปยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด นาทีที่ 120+1 แมน ยูไนเต็ดสวนกลับ ก่อนที่ อาหมัด ดิอัลโล่ จะให้ยิงบอลพุ่งชนเสาเข้าประตูไปเป็นประตูชัยให้แมนยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะลิเวอร์พูล 4-3 โดยที่เจ้าตัว โดนใบเหลืองแดง จากการถอดเสื้อฉลองด้วย ปีศาจแดงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
หลังจบเกม เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมน ยูไนเต็ด กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผมลงานของทีม โดยเฉพาะในช่วง 35 นาทีแรก และเป็นช่วงเวลาที่ทีมเชื่อมาตลอดว่า จะสามารถทำสิ่งมหัศจรรย์ได้ ซึ่งเมื่อชนะลิเวอร์พูลได้ ก็ชนะทีมไหนก็ได้
ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล กล่าวว่า ทีมไม่สามารถปิดเกมได้ และเปิดโอกาสให้แมน ยูไนเต็ดกลับมา อย่างไรก็ตาม แมนยูไนเต็ด เองก็สมควรเป็นผู้ชนะเช่นกัน
เกมอีกคู่ รอบก่อนรองชนะเลิศ เช่นกัน เชลซี เปิดบ้านพบ เลสเตอร์ ซิตี ทีมจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เกมนี้ “สิงโตน้ำเงินคราม ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 13 จาก จาก มาร์ก กูกูเรญ่า นาทีที่ 13 ก่อนที่ โคล พาลเมอร์ กองกลางดาวรุ่งจะบวกประตูที่ 2 นาทีที่ 45+1 จบครึ่งแรกเชลซีนำ 2-0 ครึ่งหลัง “จิ้งจอกสยาม” ไล่มา 1-2 เมื่อ อักเซิล ดิซาซี กองหลังเจ้าถิ่น คืนบอลไม่ดี แรง และเข้าประตูตัวเองไป จากนั้นนาทีที่ 62 เป็น สเตฟี มาวิดิดี ที่ลากตัดไปยิงให้เลสเตอร์ ตีเสมอ 2-2 แต่นาทีที่ 73 “จิ้งจอกสยาม” ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง คัลลัม ดอยล์ แบ็คซ้ายไปทำฟาวล์ นิโคลัส แจ๊คสัน ในจังหวะหลุดเดี่ยว ทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เจ้าถิ่นที่ตัวผู้เล่นมากกว่า ก่อนจะมาได้ประตูนำอีกครั้งที่ 3-2 จาก คาร์นีย์ ชุควูเมก้า หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง
และ โนนี่ มาดูเอเก้ อีกหนึ่งตัวสำรอง จะยิงปิดท้ายในนาทีที่ 90+8 ช่วยให้ เชลซี ชนะเลสเตอร์ 4-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
ผลการจับสลากประกบคู่ ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า จะพบกับ เชลซี อดีตแชมป์ 8 สมัย
ส่วนอีกคู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ 12 สมัย พบ โคเวนทรี ซิตี ทีมจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ รอบรองชนะเลิศทั้ง 2 เกม จะฟาดแข้งกันที่สนามเวมบลีย์ ในวันที่ 20 และ 21 เมษายนนี้.-สำนักข่าวไทย