“Toyota Gazoo Thailand” สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลก4ปีซ้อนในศึกมาราธอน “นูร์เบอร์กริง”

“Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ทีมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตครั้งใหม่ในการแข่งขัน “51st ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring” มาราธอนทางเรียบสุดโหด 24 ชั่วโมง ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 4 รับถ้วยแชมป์อันดับ 1 และอันดับ 2 ในรุ่น SP3 ด้วยรถยนต์ Toyota Corolla Altis GR Sport ด้วยสถิติ 126 รอบสนาม ความเร็ว Best time 10:08:950 นาที รวมระยะทางกว่า 3,180 กม. ณ เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี และ ADAC ผู้จัดงานยังมอบโล่ครบรอบ 10 ปี ให้กับทีมที่เข้าร่วมแข่งขันและผลักดันวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้มาร่วมรายการและยังคว้าแชมป์ในสนามแข่งรายการระดับโลกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย


ลงสนามรับความท้าทายต่อเนื่องเป็นปีที่10 สำหรับ “Toyota Gazoo Racing Team Thailand’ ในการแข่งขัน “51st ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring” มาราธอนสุดโหดกับเส้นทางที่ยากและอันตรายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก บนสนามที่ยาว 25.3 กม. และมีโค้งอันตรายมากถึง 73 โค้ง แต่กลับดึงดูดทีมแข่งจากทั่วโลกมาร่วมพิสูจน์ความแกร่งของรถและคนอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้มีทีมจากทั่วโลกส่งรถลงแข่งถึง 131 คัน โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ลงสนามในรุ่น Super Production 3 (SP3) ด้วยรถ Toyota Corolla Altis GR Sport 2 คัน รถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ และรถหมายเลข 120 ขับโดย เฉิน เจี้ยน หงษ์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์, นาโอกิ คาวามูระ และกฤษฎิ์ วสุรัตน์ ลงสนามควอลิฟายด์กันรถทั้ง 2 คันทำเต็มที่จบการควอลิฟายด์ทั้ง 3 รอบ รถหมายเลข 119 ได้กริดสตาร์ทลำดับ 1 และ รถหมายเลข 120 ได้กริดสตาร์ทลำดับ 3 ของรุ่น

เริ่มการแข่งขันในช่วงบ่ายวันเสาร์ของประเทศเยอรมนี ปีนี้มีแฟนกีฬาและผู้รักความเร็วเข้าชมอย่างคับคั่งด้วยสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งเป็นใจ ทันทีที่สัญญาณไฟดับลงรถทุกคันก็พุ่งทะยานไปข้างหน้า โดยในช่วงชม.แรก รถหมายเลข 119 ขึ้นนำในรุ่น ก่อนมีการสลับตำแหน่ง รถหมายเลข 120 ขึ้นนำ แม้จะมีอุบัติเหตุและมีรถที่เกิดปัญหาประปรายในการแข่งขัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับทีมแข่งรถไทย ผ่านไป 16 ชม. ทั้ง 2 คันต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อรถหมายเลข 119 สามารถสลับขึ้นมาครองตำแหน่งแชมป์ นักแข่งในทีมต่างผลัดกันทำหน้าที่ก่อนเข้าสู้ช่วงสุดท้ายของการเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับรถหมายเลข 119 ส่งคุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ลงประจำตำแหน่งนักขับ และไม่ทำให้ผิดหวังสปีดพลังเต็มพิกัด เข้าธงตราหมากรุกคว้าถ้วยแชมป์อันดับ 1 ในรุ่น SP3 และ 60 แบบ Overall ไปได้อย่างสวยงาม ท่ามกลางความดีใจของเพื่อนร่วมทีมทั้ง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ นอกจากนี้ยังสร้างสถิติใหม่ของการขับรวม 126 รอบสนาม Best Time 10:08:950 นาที และรถหมายเลข 120 โดย เฉิน เจี้ยน หงษ์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์, นาโอกิ คาวามูระ และและกฤษฎิ์ วสุรัตน์ ที่ผนึกกำลังร่วมกันจบการแข่งขันในอันดับที่ 2 ในรุ่น SP3 และ 61 Overall รวม 125 รอบสนาม Best Time 10:20:214 นาที ตอกย้ำศักดิ์ศรีแชมป์ปีที่ 4 สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยได้อีกครั้งและยังเป็นอีกตำนานในการแข่งขันมาราธอน 24 ชม.แห่งนี้ ด้วยสถิติแชมป์โลก 4 ปีซ้อน ในรุ่น SP3 ระยะทางวิ่งรวมกว่า 3,180 กม. นำถ้วยแชมป์เกียรติยศกลับประเทศไทย


หลังจบการแข่งขัน อาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด Toyota Gazoo Racing Team Thailand เผยความรู้สึกว่า “เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จและชัยชนะที่คุ้มค่าสำหรับพวกเรา 10 ปีเต็มจากวันแรกที่ตัดสินใจมาร่วมแข่งขัน จนถึงวันนี้เราไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ และนำประสบการณ์ทุกอย่างในสนามนี้ไปปรับปรุง และทำให้รถของเราดีขึ้นในทุกปี การป้องกันแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทุกทีมที่เคยมาลงสนามนี้ต่างนำประสบการณ์ของตัวเองไปพัฒนาอยู่ตลอด ทำให้ทีมฯ ต้องแข่งกับตัวเองเพิ่มมากขึ้น เพื่อผลสำเร็จที่ดีกว่าเดิม วันนี้ผมรู้สึกภูมิใจที่พวกเราสามารถรักษาแชมป์ปีที่ 4 ไว้ได้ และยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกได้อีกครั้ง ต้องขอบคุณกำลังใจจากแฟนๆ และขอบคุณทีมงาน นักแข่ง ทีมซัพพอร์ต ที่ร่วมมือร่วมใจทุ่มเทสุดกำลังเพื่อการแข่งขันในครั้งนี้ครับ”

และในปีนี้ผู้จัดการแข่งขัน ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring ยังได้มอบโล่เกียรติยศครบรอบ 10 ปี ในการร่วมแข่งขันในรายการ พร้อมขอบคุณ “คุณอาร์โต- สุทธิพงศ์ สมิตชาติ” ในฐานะผู้มีส่วนร่วมและผลักดันมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เข้ามาร่วมการแข่งขันและได้คว้าแชมป์ในสนามแข่งรายการระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทีมไทยเป็นที่รู้จักทั้งในเรื่องความ สามารถและยังได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก

สำหรับแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต ร่วมติดตามชมภาพความสำเร็จของทีมแข่งรถหนึ่งเดียวจากประเทศไทย “Toyota Gazoo Racing Team Thailand” ในความสำเร็จกับแชมป์โลกสมัยที่ 4 ในการแข่งขัน “51st ADAC TotalEnergies 24h Nürburgring” จากเมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี เพิ่มเติมได้ทาง Facebook และ Instagram: ToyotaGazooRacingTeamThailand


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]