เทศกาลภาพยนตร์อาเซียน เปิดชมฟรี 3 – 6 ก.ย. 63

27 ส.ค.-ไทยจับมือกลุ่มประเทศอาเซียนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ 6 คัดสุดยอดหนังอาเซียน จีน-เกาหลี-ญี่ปุ่น 21 เรื่อง 13 ประเทศ จัดฉายให้ชมฟรี วันที่ 3 – 6 ก.ย. นี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2563 (Bangkok ASEAN Film Festival 2020) ครั้งที่ 6 นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560-2564) ที่มุ่งใช้มิติวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย และผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางด้านภาพยนตร์ของอาเซียน โดยในปีนี้ รัฐบาลโดย วธ. ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ หน่วยงานรัฐและเอกชน จัดงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2563 (Bangkok ASEAN Film festival 2020) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 3-6 ก.ย.2563 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิล์ด ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไปทั่วโลก อาทิ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และ งานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง ประจำปี 2563 โดยได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานเป็นแบบออนไลน์ อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ในประเทศไทย รัฐบาลมีการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี มีการป้องกันและได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในการปฏิบัติตนเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ และแสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมของภาพยนตร์ไทยที่จะเป็น 1 ในอาเซียน วธ.และภาคีเครือข่ายจึงร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการด้านภาพยนตร์ โดยการจัดงานดังกล่าวได้มีการปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางในการเฝ้าระวัง และป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด


สำหรับกิจกรรมภายงานเทศกาลภาพยนตร์อาเซียนในปีนี้ มีการจัดฉายภาพยนตร์คุณภาพ 21 เรื่อง จาก 13 ประเทศ โดยเป็นภาพยนตร์จากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และภาพยนตร์จากกลุ่มเอเชียตะวันออก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์จัดฉาย ประกอบด้วย 1. ภาพยนตร์อาเซียนฉายโชว์ (SHOWCASE : ASEAN PLUS) ภาพยนตร์จากประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนและจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวม 5 เรื่อง จัดฉายเรื่องละ 1 รอบ ประกอบด้วย (1) ภาพยนตร์เรื่อง Balloon สาธารณรัฐประชาชนจีน กำกับภาพยนตร์โดย Pema Tseden (2) ภาพยนตร์เรื่อง A Girl Missing กำกับภาพยนตร์โดย Koji Fukada จากประเทศญี่ปุ่น (3) ภาพยนตร์เรื่อง The Long Walk กำกับภาพยนตร์โดย Mattie Do จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (4) ภาพยนตร์เรื่อง Rom กำกับภาพยนตร์โดย Tran Thanh Huy จากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (5) ภาพยนตร์เรื่อง The Science of Fictions กำกับภาพยนตร์โดย Yosep Anggi Noen สาธารณรัฐอินโดนีเซีย , 2. การฉายภาพยนตร์ของสายการประกวดภาพยนตร์สั้นอาเซียน (ASEAN SHORT FILM COMPETITION) 15 เรื่อง พิจารณาตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและต่างประเทศ 3 ท่าน โดยมีรางวัลดังนี้ 1. BEST ASEAN SHORT FILM ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 2,000 USD , 2. JURY PRIZE ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 1,000 USD , 3. SPECIAL MENTION ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 500 USD และภาพยนตร์อาเซียนทรงคุณค่า (ASEAN Classic) เข้าฉาย 1 เรื่อง ได้แก่ น้ำผึ้งพระจันทร์ นำแสดงโดย นายสมบัติ เมทะนี นางสาวเพชรา เชาวราษฎร์ กำกับภาพยนตร์โดย นายชรินทร์ นันทนาคร

ด้าน นางสาว พิมผกา โตวิระ Programming Director เปิดเผยว่า นอกจากภาพยนตร์คุณภาพที่นำมาจัดฉายแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกนั้น คือ การประกวดโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ขนาดยาวอาเซียน (SEA PITCH) : SOUTHEAST ASIAN PROJECT PITCH) คัดเลือกโครงการสร้างภาพยนตร์ขนาดยาว 8 โครงการ โดยคนทำหนังจากภูมิภาคอาเซียนที่มีไอเดียในการผลิตภาพยนตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโครงการที่ผ่านการคัดเลือกผู้กำกับและโปรดิวเซอร์จะเข้าร่วมอบรมพิเศษออนไลน์ด้านการนำเสนอโปรเจกต์ (Pitching) กับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติสองครั้ง เพื่อเตรียมตัวนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการทรงคุณวุฒิระดับนานาชาติ และมอบรางวัลให้กับผู้ชนะจำนวน 3 รางวัล ได้แก่
1. SEAPITCH Award ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 5,000 USD
2. Runner-Up Prize ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 3,000 USD
3. SPECIAL MENTION ผู้ชนะจะได้รับโล่รางวัล และเงินสด 2,000 USD


พร้อมทั้งจัดสัมมนาด้านภาพยนตร์ในหัวข้อ ทิศทางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยภายหลังสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น ๘ กระทรวงวัฒนธรรม จะมีพิธีมอบรางวัลบุคคลเกียรติยศ (Life Time Achievement Award) ให้กับ นางสาวเพชรา เชาวราษฎร์ นักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติของประเทศไทย โดยจะมีพิธีเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์ฯ ในวันที่ 3 ก.ย. 2563 ณ โรงภาพยนตร์ MASTER CARD ชั้น 9 SF WORLD CINEMA CENTRAL WORLD และพิธีประกาศรางวัลและปิดเทศกาลในวันที่ 6 ก.ย. 2563 ณ โรงภาพยนตร์ CAT FIRST CLASS ชั้น 8 SF WORLD CINEMA CENTRAL WORLD อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดฉายภาพยนตร์ในงานเทศกาลฯ ครั้งนี้ จะมีบทบรรยายภาษาไทย-อังกฤษ เข้าชมฟรีทุกเรื่องทุกรอบ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนจองบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าได้ที่ www.baff.go.th และ www.facebook.com/BangkokAseanFilmFestival .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้

พรรคเพื่อไทย 1 ก.ย.-เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค แยกปฏิบัติภารกิจแต่ละกระทรวง รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้ ด้าน “ชัยเกษม” ลั่นไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม เพื่อชาติบ้านเมืองไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) แกนนำ ซึ่งนำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้านายกรัฐมนตรี นำคณะเจรจาแกนนำไปพูดคุยขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงเช้าไม่พบแกนนำพรรคเดินทางเข้ามา โดยจากการสอบถามทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามงานของกระทรวง มีเพียงสื่อมวลชนที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพรรคประชาชนมีมติออกมาว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ฝ่ายใดนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีความเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ตนพร้อมทำหน้าที่ เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา” นายชัยเกษม กล่าว ส่วนเรื่องการยอมรับเงื่อนไขจากพรรคประชาชน นั้น นายชัยเกษม ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ และถือว่าให้เป็นไปตามมติของแกนนำพรรค.-316.-สำนักข่าวไทย

วางบึ้ม-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุด จ.นราธิวาส

นราธิวาส 1 ก.ย.-ใต้ป่วนหนัก วางระเบิด-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุดในพื้นที่นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ็บ 2 ราย รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค.68 ถึงเวลา 00.30 น. ของคืนวันที่ 1 ก.ย.68 ได้มีกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการประชุมวางแผนกระจายกำลังกันก่อเหตุเผายางรถยนต์ และลอบวาระเบิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหงปาดี, จะแนะ, บาเจาะ, เจาะไอร้องและศรีสาคร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จำนวน 6 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รถยนต์ได้รับความเสียหาย 1 คัน พร้อมกันพื้นที่จุดเกิดเหตุและได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงสายของวันนี้ โดยจุดแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ […]

“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

กทม. 1 ก.ย.-“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย เผยชีวิตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำงานให้หนักขึ้น จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฎว่า พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป เพราะฉะนั้นตนเองก็เห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่ตนเองไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน […]

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]