เตรียมตัดสายสื่อสารที่ไม่ใช้ใน กทม. ตั้งเป้า 800 กม.

กทม. 4 ก.ค.-กทม. จับมือ ก.ดิจิทัลฯ และ กสทช. เตรียมตัดสายสื่อสารที่ไม่ใช้ ตั้งเป้า 800 กม. ใน 16 เขต เล็งเห็นผลปีนี้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือเรื่อง กรุงเทพมหานครเมืองอัจฉริยะ (Bangkok Smart City) และการบริหารจัดการท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน ร่วมกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ บ.บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมหารือ ณ ห้องประชุมผู้บริหาร ชั้น 30 อาคาร NT Tower เขตบางรัก ว่า ปัญหาเกี่ยวกับสายสื่อสารที่รกรุงรัง เป็นปัญหาที่ได้ยินมานานมากแล้ว รวมถึงเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งล่าสุดที่เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมถึงข่าวไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง ในเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กสทช. กทม. การไฟฟ้านครหลวง ผู้ให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคม และผู้ให้บริการเรื่องท่อร้อยสาย ซึ่งวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เป็นเจ้าภาพคนกลางที่จะรับประสานงานทุกหน่วยงานให้ ขณะนี้ได้ความชัดเจนมากขึ้น โดยมี 2 เรื่องที่ต้องดำเนินการ เรื่องแรกคือ การจัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรังก่อน แต่ยังไม่ถึงกับต้องเอาสายลงดินทันที อย่างน้อยเอาสายตาย หรือสายที่ไม่ใช้งาน รื้อออกให้หมดก่อน ซึ่ง กสทช. ก็ได้มีแผนอยู่แล้วและยังมีเงินสนับสนุนให้ด้วย เนื่องจากต้องใช้แรงงานในการคัดเลือกสายที่ไม่ได้ใช้งานออก ซึ่งปีแรกจะดำเนินการ 800 กิโลเมตร ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน 16 เขต ที่มีประชากรหนาแน่นและมีสายสื่อสารหนาแน่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย ขณะนี้เดือนกรกฎาคมดำเนินการแล้ว 20 กม. เราต้องเร่งผลักดันทำให้ได้ 800 กม.ตามสัญญา โดยได้ให้นโยบายสำนักงานเขตในการดูพื้นที่ที่เป็นต้นแบบในการดำเนินการซึ่งจะนัดหมายกับ กสทช.ทำการ Mapping จุดต่างๆ ต่อไป


นอกจากนี้ รมว.ดิจิทัลฯ จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานที่มาจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช. กทม. การไฟฟ้านครหลวง Operator ผู้พาดสายสื่อสาร และ operator ผู้ทำเรื่องท่อร้อยสาย เพื่อทำการเร่งรัดกำหนดเป้าหมาย (KPI) ว่าแต่ละเดือนต้องรื้อสายสื่อสารจำนวนเท่าไหร่ เพื่อเป็นตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากการดำเนินการมีต้นทุนเท่าเดิมแต่เวลาเดินไปเรื่อยๆ ซึ่งเวลามีค่าจึงต้องเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

เรื่องที่ 2 คือเรื่องการนำสายสื่อสารลงดิน ก่อนหน้านี้ กทม.ดำเนินการโดยบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) แต่ขณะนี้มีผู้ประกอบการอื่น ๆ ซึ่งมีท่อร้อยสายอยู่แล้ว เช่น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) ซึ่งมีท่อเก่าอยู่ เพราะฉะนั้นปัจจัยสำคัญที่สุดคือประโยชน์ของผู้บริโภค ถ้าเกิดเราคิดค่าเช่าท่อแพงสุดท้ายก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคและผู้ใช้สายสื่อสาร ซึ่งอาจจะต้องแต่งตั้งคณะทำงานอีกชุดหนึ่งโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการนำสารสื่อสารลงดิน เช่น KT กทม. กสทช. NT ซึ่งกทม.จะสนับสนุนเต็มที่และคงต้องคุยกับผู้ประกอบการว่าใช้วิธีไหนให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นขั้นตอนต่อไป เนื่องจากการนำสายสื่อสารลงดินต้องใช้ต้นทุนทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้ทำท่อร้อยสายและผู้เป็นเจ้าของสายสื่อสาร เนื่องจากสายบนดินจะนำลงสู่ใต้ดินก็ต้องใช้การลงทุนเพิ่มซึ่งต้องทำให้เหมาะสม อย่างน้อยขั้นตอนแรกที่เราจัดระเบียบก็จะทำให้ความรกรุงรังของสายสื่อสารลดลง โดยคาดว่าจะมีผลเป็นรูปธรรมตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป


จากนั้น เวลา 15.30 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเดินทางมาร่วมประชุมหารือการนำสายสื่อสารลงดิน ร่วมกับ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้บริหาร กสทช. ณ ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงาน กสทช. ซอยพหลโยธิน 8 เขตห้วยขวาง โดยเปิดเผยว่า กสทช.และ กทม.ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้มารับการยืนยันจากกสทช.ถึงแผนการดำเนินการในปีนี้ คือ 800 กม.ในพื้นที่ 16 เขต ของกรุงเทพฯ ซึ่ง กสทช. ได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว ประมาณ 700 ล้านบาท โดยในปีนี้จะดำเนินการ 16 เขตแรกก่อนที่มีประชากรหนาแน่นและสายสื่อสารหนาแน่น ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่รัฐบาลได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว กทม.มีหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงานของกสทช. โดยให้กสทช.เป็นหลักในการดำเนินการและประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันเพื่อพี่น้องประชาชนเพื่อให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย 800 กม. เนื่องจากเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ โดยจะเห็นผลเป็นรูปประธรรมภายในปีนี้ สำหรับงบประมาณดำเนินการ ระยะทาง 800 กม. ที่ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาทนั้น จะมาจากงบประมาณของ กสทช. ปี 2564 -2565 ที่มาจากกองทุนกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกองทุน USO ของสำนักงาน กสทช. โดยบอร์ด กสทช. ได้อนุมัติให้ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้ และตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ติดขัดในช่วงที่ผ่านมา อาจยังไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้คืบหน้าเพียง 25 -30% เท่านั้น โดยภายในสัปดาห์นี้ กสทช. จะเชิญผู้ประกอบการสายสื่อสาร และ กฟน. มาร่วมหารือ เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จได้ทันตามที่กำหนดภายในปี 2565

“ต่อไปนี้ กทม.จะใช้​ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 39 เพื่อแก้ปัญหาสายสื่อสารรกรุงรัง และกทม.จะออกประกาศฯ เพื่อบังคับใช้ในอนาคต หากใครไม่มีใบอนุญาตติดตั้งสายสื่อสารจาก กสทช.จะไม่สามารถพาดสายได้ หากใครฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสายสื่อสารที่ไม่มีสัญญาณวิ่งหรือว่าสายตายเราจะต้องตัดทิ้งลงให้หมด เพื่อลดปัญหาของสายสื่อสารผิดกฎหมายและความรกรุงรังของสายสื่อสาร นอกจากนี้ยังได้หารือกับกสทช.เรื่องอินเตอร์เน็ตฟรีให้ประชาชน ตามที่สาธารณะต่าง ๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข สวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้นในอนาคต” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]